ศูนย์ประสานงานเครือข่ายประชาชนนำแรงงานรัฐวิสาหกิจ-สลัมสี่ภาค-ศนศ. ชุมนุมหน้าทำเนียบค้านไล่ออกคนงานรถไฟ ต้านแปรรูปกิจการรถไฟ เรียกร้องปลดผู้ว่า รฟท. “วิไลวรรณ แซ่เตีย” วอน “มาร์ค” ให้ความเป็นธรรมคนรถไฟ “ศิริชัย ไม้งาม” หนุนปรับปรุงรัฐวิสาหกิจ แต่ไม่ต้องแปรรูป ชี้ผู้บริหารรถไฟปล่อยผู้โดยสารอยู่ในรถไฟมรณะ ยันคนรถไฟเคลื่อนไหวเพราะคำนึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร
วันนี้ (3 พ.ย.) เวลา 9.30 น. ศูนย์ประสานงานเครือข่ายประชาชน (ศปป.) และองค์กรภาคีได้แก่ สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เครือข่ายสลัม 4 ภาค ศูนย์ประสานงานนักเรียนนิสิตนักศึกษา (ศนศ.) ฯลฯ กว่า 300 คน รวมตัวกัน ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาล สนับสนุนการต่อสู้ของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) หลังเกิดกรณีที่นายโสภณ สารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สั่งปลดแกนนำนัดหยุดเดินรถไฟ 6 คนของ สร.รฟท. และยื่นฟ้องศาลแรงงานเอาผิดกับกรรมการ สร.รฟท. 7 คนพร้อมเรียกค่าเสียหายกว่า 70 ล้านบาท
โดย น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย และศูนย์ประสานงานเครือข่ายประชาชน (ศปป.) จะยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี มาดูแลแก้ปัญหาการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ด้วยตัวเอง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อ สร.รฟท.
โดยเวลาประมาณ 10.30 น. มีการเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรถไฟแห่งประเทศไทย
เปิด 6 ข้อเรียกร้อง ศปป. ค้านปลดพนักงาน รฟท. ต้านแปรรูป - ไล่ผู้ว่า รฟท.
โดยข้อเรียกร้องของ ศปป. ในแถลงการณ์ ศปป. ฉบับที่ 3/2552 “ศักดิ์ศรีแรงงานอย่ายอมให้ใครหยามหมิ่น ยกเลิก!!! คำสั่งเผด็จการ ทำลายสหภาพแรงงาน” ประกอบด้วย 1. ยกเลิกคำสั่งไล่ออกและถอนฟ้องกรรมการ สร.รฟท. โดยให้มีกระบวนการสอบสวนอันเป็นไปตามคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
2. เปิดเวทีสาธารณะประเด็นความปลอดภัย โดยรัฐมนตรีผู้บริหาร รฟท. สร.รฟท. องค์กรผู้บริโภค องค์กรประชาชน และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เนื่องจากความปลอดภัยเป็นสิทธิ์ของผู้บริโภค อันพึงจะได้รับในการใช้บริการสาธารณะ 3. จัดตั้งคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงพัฒนา รฟท. การปรับปรุงระบบการเดินรถและการบริการและการสร้างธรรมาภิบาล ภายใต้การมีส่วนร่วมจากสหภาพแรงงานฯ ฝ่ายบริหาร องค์กรประชาชน และผู้บริโภค
4. ขอให้สื่อของรัฐเสนอข้อเท็จจริงให้รอบด้าน อาทิ กรณีการปล่อยทิ้งผู้โดยสารผู้โดยสารที่สถานีละแม การปิดสถานีรถไฟหัวลำโพง การยึดรถจักรสถานีหาดใหญ่ ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด 5. ปลดนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. เนื่องจากบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ทุจริตคอรัปชั่น บกพร่องในการบริการสาธารณะด้านความปลอดภัยจนทำให้ประชาชนเสียชีวิต 6. ยุตินโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในทุกรูปแบบ โดนเฉพาะอย่างยิ่งการฉวยกระแสในการแปรรูปรัฐวิสาหกิจรถไฟของนายโสภณ ซารัมย์ พรรคภูมิใจไทย
สมานฉันท์แรงงานวอนมาร์คให้ความเป็นธรรมสหภาพรถไฟ
เมื่อผู้ชุมนุมตั้งเวทีปราศรัยที่ถนนพิษณุโลก ข้างทำเนียบรัฐบาลแล้ว น.ส.วิไลวรรณ แซ่เตีย ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ได้ปราศรัยเรียกร้องให้ปลดนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และเรียกร้องให้นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้ดูแลกรมประชาสัมพันธ์เปิดพื้นที่สื่อให้กับสหภาพฯ เนื่องจากที่ผ่านมามีการนำเสนอข่าวที่บิดเบือนของสื่อมวลชน ส่งผลให้ สร.รฟท. กลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของประชาชนทั่วไป และ สร.รฟท. ไม่สามารถนำเสนอข้อเท็จจริงต่อสาธารณชนได้ นอกจากนั้น น.ส.วิไลวรรณ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุงและให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของการคมนาคมทางรถไฟของประชาชน ตามที่ สร.รฟท. ออกมาเรียกร้องด้วย โดย น.ส.วิไลวรรณ ยังกล่าวปิดท้ายด้วยว่า หวังว่านายกรัฐมนตรีจะให้ความเป็นธรรมกับสหภาพแรงงาน สร.รฟท. ในวันนี้ด้วย
สลัม 4 ภาคเรียกร้องเลิกคำสั่งปลด 6 พนักงาน สร.รฟท. อย่างไม่มีเงื่อนไข
หลังจากนั้น น.ส.ประทิน เวคะวากยานนท์ ที่ปรึกษาเครือข่ายสลัม 4 ภาค ปราศรัยว่า รัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณมาพัฒนากิจการรถไฟไทยให้เหมือนกับโครงการซื้อรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน และรัฐบาลควรจะซ่อมแซมหัวรถจักรด้วยตนเอง ไม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเอกชนเพื่อแปรรูปรัฐวิสาหกิจ นอกจากนั้น น.ส.ประทิน ได้กล่าวแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการปลดพนักงาน สร.รฟท. จำนวน 6 คน และเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งปลดพนักงาน สร.รฟท.โดยไม่มีเงื่อนไข
“ศิริชัย ไม้งาม” หนุนปรับปรุงรัฐวิสาหกิจ แต่ไม่ต้องแปรรูปเอาสมบัติชาติไปขาย
นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) ปราศรัยว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลผสม ถ้านายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจก็สามารถบริหารบ้านเมืองได้ รัฐบาลผสมถ้าผสมพันธุ์ดีลูกก็ออกมาดี ถ้าผสมพันธุ์เลวลูกก็ออกมาเลว ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีจะเลือกคู่ครองอย่างไร แต่ไปเลือกคู่ชีวิตเป็นพรรคภูมิใจไทย มีรัฐมนตรีที่คนเรียกว่า “โสภณ ซาเล้ง” ศิริชัยกล่าวต่อไปว่า เป็นห่วงว่าบ้านเมืองจะแตกแยกเพราะนักการเมืองมุ่งแสวงหาอำนาจ และหากินกับรัฐวิสาหกิจ ตัวอย่างเห็นได้จากโครงการซื้อรถเมล์เอ็นจีวี
ประธาน สร.กฟผ. ผู้นี้ปราศรัยด้วยว่า ในรัฐบาลนี้มีความพยายามแปรรูปกิจการรัฐวิสาหกิจอย่างเช่นจะให้เอกชนมาดำเนินกิจการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งไม่ใช่ว่าพนักงานรัฐวิสาหกิจจะไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นต้องทำให้ดีขึ้น ไม่ใช่แปรรูปเอาสมบัติชาติไปขาย ไม่ใช่แปรรูปเหมือน ปตท. เพื่อหวังกำไรสูงสุด
ชี้ผู้บริหารรถไฟปล่อยผู้โดยสารอยู่ในรถไฟมรณะ
นายศิริชัยกล่าวถึงปัญหาของกิจการรถไฟว่า หัวรถจักรและอุปกรณ์หลายอย่างไม่มีการซ่อมบำรุงและไม่พร้อมใช้งาน อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยในรถไฟไม่ได้รับการดูแล แต่การรถไฟปล่อยให้ประชาชนโดยสารโดยไม่รู้ว่ากำลังโดยสารอยู่ในรถไฟมรณะ
กรณีอุบัติเหตุรถไฟตกรางที่เกิดขึ้น ถ้าเป็นต่างประเทศ ผู้บริหารต้องแสดงความรับผิดชอบแล้ว แต่บ้านเรากรณีอุบัติเหตุที่สถานีรถไฟเขาเต่า กลับใช้วิธีไล่พนักงานขับรถไฟออก ขณะที่ผู้บริหารยังชูคออยู่ในสังคม
ยันคนรถไฟเคลื่อนไหวเพราะคำนึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร ยืนหยัดต่อสู้ทุกรัฐบาล
นายศิริชัยกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของพนักงานรถไฟฯ ว่า พนักงานไม่ได้เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเงินเดือน หรือสวัสดิการ แต่ออกมาเคลื่อนไหวเพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนผู้โดยสารรถไฟ แต่สุดท้ายผู้นำแรงงานกลับถูกไล่ออก มีอย่างที่ไหนเช้าเจรจากับผู้บริหาร เย็นมาตกงาน ไม่มีที่ไหนในโลกเขาทำกับแรงงานแบบนี้ ถ้าทำลายผู้นำสหภาพรถไฟฯ ได้ แผนการแปรรูปกิจการรถไฟก็จะสมประโยชน์พวกเขา ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอ
นายศิริชัยปราศรัยถึงกระแสข่าวการปลดนายสาวิตต์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.ร.ฟ.ท.) ว่าหากเป็นจริง เท่ากับเป็นการกำจัดหัวเรี่ยวหัวแรงของผู้นำการต่อสู้ทางสังคม เพราะพี่น้องคนยากคนจนเมื่อเดือดร้อนก็ไปหาสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) แผนการปลดนายสาวิตต์คือการทำลายหัวขบวนของการต่อสู้
นายศิริชัยกล่าวด้วยว่า จะยืนหยัดต่อสู้ไม่ว่าเขาจะเป็นใครในรัฐบาล พวกเราแรงงานจะต่อสู้ตลอดกับทุกรัฐบาลเพื่อยืนยันว่าเราไม่เคยเป็นเครื่องมือใคร สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกหลานในสังคมไทย การแปรรูปรัฐวิสาหกิจให้เป็นกิจการของเอกชนในต่างประเทศยุติไปแล้ว ที่อ้างว่าแปรรูปรัฐวิสาหกิจเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพนั้น กิจการไฟฟ้าก็ไม่ถูกแปรรูปแต่ก็ยังมีประสิทธิภาพเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ขอให้พี่น้องยืนหยัดต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะ
โดยในเวลา 13.00 น. ผู้ชุมนุมได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้รับแทน จากนั้นผู้ชุมนุมจึงเดินทางกลับ
มนุษย์ล้อเรียกร้องเพิ่มโควตาสลากคนพิการ
นอกจากนี้ เช้าวันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมชาย ปัญญ์เอกวงษ์ กรรมการสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้พิการทุกประเภท กว่า 100 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายอภิสิทธิ์ พร้อมกับตั้งโต๊ะรวบรวมรายชื่อเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลส่งเสริมอาชีพค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กับคนพิการ โดยให้นำสลาก 1 แสนเล่ม ที่รัฐบาลจะจัดพิมพ์เพิ่มจัดสรรให้แก่คนพิการทั่วประเทศ รวมทั้งวางแนวทางในการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับอัตราส่วนโควตาสลากที่นำมาจัดสรรให้แก่คนพิการในทุกครั้งที่มีการพิมพ์สลากเพิ่ม และให้นำรายได้ร้อยละ 28 จากการขายสลากเข้าสมทบกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
ต่อมาเวลา 10.20 น. กลุ่มคนผู้พิการทุกประเภทที่ชุมนุมอยู่กันบริเวณนอกทำเนียบฯ ฝั่งตรงข้ามสำนักงาน ก.พ. ประมาณ 50 คนได้บุกและพังประตูเหล็กที่ปิดกั้นทางเข้าออกทำเนียบฯ บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เข้ามาภายในรั้วทำเนียบฯ โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถขว้างกั้นกลุ่มคนพิการดังกล่าวได้ เมื่อเข้าภายในทำเนียบฯได้ ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้ากลุ่มคนพิการดังกล่าว เพื่อรอเจรจาให้ออกจากบริเวณทำเนียบฯ จากนั้น นายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ได้ออกมารับหนังสือและเชิญตัวแทนกลุ่มคนพิการจำนวน 10 คนไปหารือในห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)