Skip to main content
sharethis

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้แต่งตั้ง นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำงานของนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ใน 2 ประเด็น คือ 1.กรณีที่นายยุทธนา เลื่อนตำแหน่งให้พนักงานที่ถูกพิจารณาโทษจากการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา และ 2.กรณีการสั่งหยุดขบวนรถไฟที่สถานีละแม ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องลงจากขบวนก่อนถึงจุดปลายทาง ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้ง 2 ประเด็น เป็นไปตามข้อร้องเรียนของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ร.ฟ.ท.

“ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือผู้ว่าการ จะต้องตรวจสอบทั้งหมด ใครสงสัยอะไรก็จะตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส กระทรวงคมนาคมพร้อมจะตรวจสอบทุกเรื่อง โดยจะให้ปลัดกระทรวงคมนาคม เร่งดำเนินการตรวจสอบให้เร็วที่สุด” นายโสภณ กล่าว

ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัยของหัวรถจักรนั้น อยู่ระหว่างการประสานกับนักวิชาการจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อมาร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบ คาดว่าจะลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ได้ในเร็วๆ นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ สหภาพฯ ร.ฟ.ท. ได้ร้องเรียนถึงการแต่งตั้ง นายทวีศักดิ์ สุทธิเสริม รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน โดยระบุว่าไม่เป็นธรรม เพราะนายทวีศักดิ์ ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ชี้มูลความผิด เนื่องจากมีพฤติกรรมส่อทุจริตกรณีการบริหารจัดการตลาดนัดซันเดย์ ส่งผลให้ ร.ฟ.ท.ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 58 ล้านบาท อีกทั้งนายทวีศักดิ์ ยังเคยขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการรถไฟตามคำสั่งที่ได้รับการแต่งตั้ง จนผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.ในขณะนั้นมีคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องพิจารณาลงโทษตามระเบียบ ซึ่งโทษสูงสุดคือการไล่ออก

นายโสภณ ยังกล่าวถึงแนวทางการปฏิรูป ร.ฟ.ท. ว่า ได้ให้นโยบาย ร.ฟ.ท.ว่า ต้องเชิญบุคคลภายนอก เข้าร่วมเป็นกรรมการในคณะทำงานด้านการพัฒนาทรัพย์สิน ซึ่งหนึ่งในคณะกรรมการ 4 ชุดที่จัดตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดความโปร่งใส

ด้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม และกรรมการ ร.ฟ.ท. กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาทรัพย์สินของ ร.ฟ.ท. จะต้องแบ่งประเภทที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนา โดยปัจจุบันที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาประมาณ 8 พันไร่ จากที่ดินที่สามารถพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้จำนวน 3.6 หมื่นไร่ โดย ร.ฟ.ท.จะว่าจ้างที่ปรึกษามาประเมินว่าจะมีรายได้จากการพัฒนาที่ดินเป็นจำนวนเท่าใด

สำหรับที่ดินที่มีศักยภาพในการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ เช่น หัวหิน เชียงใหม่ ขอนแก่น ส่วนที่ดินในกรุงเทพฯ คือ มักกะสัน สถานีแม่น้ำ หัวลำโพง บางซื่อ โดย ร.ฟ.ท.ตั้งเป้าว่าจะมีรายได้จากการพัฒนาที่ดินทั้ง 4 แปลง ไม่ต่ำกว่าปีละ 2,700 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายบำนาญของ ร.ฟ.ท. รวมทั้งช่วยเพิ่มรายได้จากการพัฒนาทรัพย์สินจากเดิมที่มีรายได้ส่วนนี้ปีละประมาณ 1,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาที่ดินนั้น ร.ฟ.ท.จะเปิดให้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาทรัพย์สินยื่นข้อเสนอ และผลตอบแทนรายได้ โดยจะให้สิทธิเอกชนรายเดียวในการพัฒนาที่ดินแต่ละแปลง ส่วนที่ดินที่ใกล้หมดสัญญา เช่น ตลาดนัดจตุจักร จะต้องพิจารณาปรับเพิ่มรายได้ เพราะมีรายได้น้อยมาก ขณะที่ผู้เช่าที่ได้รับสิทธิจาก ร.ฟ.ท. นำที่ดินให้เช่าต่อในราคาที่สูงขึ้น

“ที่ดินมักกะสัน สามารถนำมาพัฒนาได้ก่อน เพราะไม่มีปัญหาผู้บุกรุก ส่วนที่ดินแปลงอื่นได้กำชับไม่ให้มีผู้บุกรุก เพราะจะส่งผลกระทบต่อการพัฒนาที่ดินในอนาคต” นายสุพจน์ กล่าว

ด้าน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงการแก้ปัญหาการรถไฟ ว่า ต้องระวังไม่ให้เรื่องดังกล่าวถูกโยงไปกับการเมือง ส่วนท่าทีของรัฐมนตรีที่ขัดแย้งกันนั้น ต้องไปดูว่า ลึกๆ แล้ว ฝ่ายใดมีพฤติกรรมที่สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นจริง หรือใครที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้ง

“อย่างการกระทำของ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย นั้น เป็นทางออกที่ดีที่ให้ทุกฝ่ายมาคุยกันจนได้ข้อตกลง แต่ผมก็ยังงงว่าอยู่ดีๆ ทำไมวันรุ่งขึ้นพนักงาน 6 คน ถึงถูกไล่ออก ความขัดแย้งเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีต้องเข้ามาดำเนินการ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งของแต่ละฝ่าย แต่เป็นเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารด้วย ความขัดแย้งเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เราต้องหาดูว่าส่วนที่อยู่ข้างใต้นั้นมีอะไร”

 

 

ที่มา เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net