แหล่งข่าวนักธุรกิจที่เพิ่งเดินทางมาถึงชายแดนไทยรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะผู้นำของกองกำลังสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตย หรือ กลุ่มหยุดยิงเมืองลา NDAA – National Democratic Alliance Army อันมีเจ้าจายลืน หรือ หลินหมิ่งเสียน เป็นผู้นำสูงสุด ได้ประชุมหารือกันถึงข้อเสนอของรัฐบาลทหารพม่าที่ให้ NDAA แปรสภาพเป็นหน่วยพิทักษ์ชายแดน ซึ่งในที่ประชุมได้มีข้อสรุปให้ผู้บัญชาการแต่ละหน่วยชี้แจงผู้ใต้บังคับบัญชาและประชาชน โดยการชี้แจงได้เสร็จสิ้นไปเมื่อวานนี้ (5 พฤศจิกายน)

 

ทั้งนี้ ผลการตอบรับคำชี้แจงส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนชื่อกองกำลังเป็นหน่วยพิทักษ์ชายแดน แต่ขอให้ยึดเงื่อนไข 6 ข้อ คือ 1.ขออย่าให้ทหารพม่าเข้าไปประจำในพื้นที่ 2.ขออย่าให้กองทัพพม่าทำการฝึกอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่ NDAA ในพื้นที่ห่างไกล 3. ขอให้ผู้มีอายุเกินกว่า 50 ปี ที่มีความสามารถปฏิบัติงานต่อไป 4. ขอให้เขตพื้นที่ครอบครองของ NDAA คงอยู่เช่นเดิม 5. ขออย่าให้ฝ่ายปกครองของรัฐบาลพม่าเข้าไปตั้งสำนักงานในพื้นที่ และ 6. ขอให้คงคณะปกครองทั้งการทหารและการเมืองของ NDAA ไว้เช่นเดิม

 

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา คณะผู้นำกองกำลังสัมพันธมิตรชาติประชาธิปไตย หรือ กลุ่มหยุดยิงเมืองลา NDAA – National Democratic Alliance Army รวม 21 คน เดินทางไปพบหารือกับ พล.ท.เยมิ้น ผอ.ความมั่นคงกองทัพพม่า ที่เมืองเชียงตุง รัฐฉานภาคตะวันออก เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์อันดีของสองฝ่าย อีกทั้งเพื่อหารือและชี้แจงเกี่ยวกับข้อเสนอแปรสภาพเป็นหน่วยพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF – Border Guard Force ของรัฐบาลทหารพม่า

 

โดยทางกลุ่ม NDAA ได้ยื่นเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1.ทางกลุ่ม NDAA เห็นชอบข้อกำหนดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ระบุให้มี 1 ประเทศ 1 กองทัพ และเห็นชอบเปลี่ยนชื่อกองกำลังเป็นหน่วยพิทักษ์ชายแดน 2.ทางกลุ่ม NDAA ยังไม่พร้อมรับเจ้าหน้าที่จากกองทัพพม่าเข้ารไปประจำในแต่ละหน่วย รวมถึงการที่รัฐบาลจะเข้าไปตั้งสำนักต่างๆ ในพื้นที่ และ 3.ทางกลุ่ม NDAA จะขออยู่ภายใต้กฏระเบียบเดิมของกลุ่มไปก่อน

 

ขณะที่ พล.ท.เยมิ้น แสดงท่าทีปัดรับข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า ทางกลุ่ม NDAA ยอมรับข้อเสนอของรัฐบาลแล้ว ตามหนังสือที่ส่งถึงตนก่อนหน้านี้ พร้อมกันนั้นเขาได้กำหนดทิศทางกลุ่ม NDAA อย่างชัดเจน คือ ให้ NDAA คัดเจ้าหน้าที่ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปี ขึ้นไปลาเกษียณทั้งหมด โดยทางรัฐบาลจะจ่ายเงินให้คนละ 30,000 จ๊าต (ประมาณ 990 บาท) อีกทั้งระบุว่า กองทัพพม่าจะเปิดการอบรมให้แก่นายทหารชั้นผู้น้อยของ NDAA ที่เมืองเชียงตุง ส่วนนายทหารชั้นใหญ่จะส่งไปฝึกที่เมืองป๊ะทู เขตเมืองลอกจอก ซึ่งเป็นค่ายฝึกทหารใหญ่สุดในรัฐฉาน 

 

อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่ม NDAA มีกำหนดยื่นเงื่อนไข 6 ข้อดังกล่าวต่อ พล.ท.มินอ่องหล่าย แม่ทัพสามของพม่า ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปพบหารือกับผู้นำกลุ่ม NDAA ในวันพรุ่งนี้ (7 พฤศจิกายน)

 

ด้านนักวิเคราะห์สถานการณ์ในพม่าคนหนึ่งที่พำนักอยู่บริเวณชายแดนไทย – พม่ามองว่า หากกลุ่มหยุดยิงยอมรับข้อเสนอของรัฐบาลทหารพม่าก็จะไม่แตกต่างจากการถูกฝังทั้งเป็น เพราะจะถูกกำหนดอยู่ภายใต้ความประสงค์ของรัฐบาล ซึ่งช่วงเวลานี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของกลุ่มหยุดยิงในพม่า หากแต่ละกลุ่มขาดการประสานกันหรือไม่มีกลยุทธ์ตั้งรับที่ดีก็อาจถูกกดดันและพบทางตันได้

 

ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลทหารพม่าได้เสนอให้กลุ่มหยุดยิงต่างๆ ที่มีมากกว่า 10 กลุ่ม จัดตั้งเป็นหน่วยพิทักษ์ชายแดน หรือ Border Guard Force – BGF โดยอ้างว่าเพื่อเตรียมรับการเลือกตั้งในปีหน้า ซึ่งระบุจะเป็นการเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พร้อมกับเสนอส่งเจ้าหน้าที่ของตนเข้าไปประจำด้วยหน่วยละ 30 นาย จากกำลังพลหน่วยละ 326 นาย อย่างไรก็ตาม กลุ่มหยุดยิงส่วนใหญ่ต่างปฏิเสธ ขณะที่กองทัพพม่าได้พยายามส่งกำลังพลเข้ากดดันกลุ่มต่างๆ อย่างต่อเนื่อง   

 

 

 

 

............................................................................

สำนักข่าวฉาน (SHAN – Shan Herald Agency for News) เป็นสำนักข่าวอิสระจัดตั้งโดยกลุ่มชนไทยใหญ่พลัดถิ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐฉาน สหภาพพม่า ตลอดจนตามแนวชายแดนไทย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรการเมือง / การทหารกลุ่มใด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ shan_th@cm.ksc.co.th หรือ ติดตามอ่านข่าวสารภาคภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาษาไทยใหญ่ที่ www.mongloi.org