Mekong Review: ความรักนั้นแสนสั้น แต่ความแค้นนั้นแสนยาว

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

Mekong Review – มีความพยายามกันมากที่จะอ่านใจ อ่านเกมส์ ของนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน แห่งกัมพูชา ว่าทำไมตัดสินใจสร้างเรื่องบาดหมางกับรัฐบาลไทยด้วยการแต่งตั้งให้ พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตรเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษารัฐบาล โดยที่การแต่งตั้งนั้นทำกันอย่างเป็นทางการในพระปรมาภิไธยของสมเด็จ นโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชา

รัฐบาลไทยอ่านเกมส์ว่า ฮุน เซน คงจะมีผลประโยชน์ส่วนตัวกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทย หรือ แม้ถูกทักษิณ ซื้อไปแล้ว ถึงได้ยอมเอาผลประโยชน์แห่งชาติมาแลกกับมิตรภาพส่วนตัวของตัวเองกับทักษิณ
อดีตนักการทูตของไทยหลายท่านเห็นว่า ฮุน เซน ช่างเป็นผู้นำที่โง่เขลาเสียนี่กระไรที่เลือกทักษิณ แทนที่จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีอำนาจปกครองประเทศอยู่ในเวลานี้ การทำเช่นนี้จะทำให้เขาเสื่อมคะแนนนิยมทางการเมืองภายในประเทศเพราะประชาชนชาวกัมพูชาจะไม่เห็นด้วย และทักษิณเองก็จะเสียคะแนนนิยมทางการเมืองในประเทศไทยไปด้วย สมควรส่งเสริมให้ฮุนเซน-ทักษิณ ทำไปเลยเพราะพวกเขาจะเสียเอง พวกนี้ช่างโง่ๆๆๆๆๆ โง่อะไรขนาดนั้น
แต่เดี๋ยวก่อน นั่นเป็นการวิเคราะห์แบบเข้าข้างตัวเองมากไปหรือเปล่า!!! ถ้ามองให้ลึกซึ้ง การตัดสินใจครั้งนี้ของฮุนเซนไม่ได้เกิดขึ้นด้วยอารมณ์เพียงชั่ววูบ เพียงเพราะแค่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ไปเป่าหูเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน แล้วฮุน เซนก็เลยพลั้งปากพูดออกมา แต่พิจารณาโดยละเอียดแล้วไม่น่าเป็นเช่นนั้น เพราะการที่นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระหว่างที่เดินทางมาประชุมอาเซียนเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม และ กลับไปก็ยังดำเนินการตามที่ได้พูดเอาไว้ ถึงขั้นออกเป็นพระราชกฤษฎีกาให้พระมหากษัตริย์ลงพระปรมาภิไธย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม และมาประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 พฤศจิกายน ทุกอย่างย่อมผ่านการคำนวณและไตร่ตรองไว้ดีแล้วแน่นอน และเป็นที่แน่ชัดว่า ฮุน เซน ไม่ได้ตัดสินใจเรืองนี้โดยลำพัง หรือ ทำไปเพราะนึกสนุกแน่นอน
ถ้าเช่นนั้นอะไรเป็นมูลเหตุจูงใจสำคัญให้ ฮุน เซน เลือกที่จะสร้างความบาดหมางกับประเทศไทย โดยไม่จำเป็น? คำตอบมีได้หลายทาง และ แรงจูงใจก็มาจากหลายอย่าง
ประการแรก เป็นเหตุผลทางประวัติศาสตร์ของการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เนื่องด้วยกัมพูชาเป็นประเทศเล็กที่ขนาบข้างด้วยประเทศใหญ่สองประเทศคือ ไทยและเวียดนาม กัมพูชารู้ดีว่า ความอ่อนแอของประเทศเพื่อนบ้านที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองข้างนั้น คือ ความมั่นคงของกัมพูชา ถ้าหากจะทำอะไรเพื่อให้เกิดความระส่ำระสายต่อประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองได้ กัมพูชาก็จะไม่ลังเลที่จะทำ ในประวัติศาสตร์ก็เป็นเช่นนั้นมาโดยตลอด คราวใดที่ไทยเพลี่ยงพล้ำหรือติดศึกกับเพื่อนบ้านอื่น กัมพูชา ก็จะถือโอกาสเข้าซ้ำเติม
ประการที่สองด้วยเหตุผลทางประวัติศาสตร์อีกเช่นกัน กัมพูชาเป็นประเทศที่ถูกไทยแทรกแซงกิจการภายในมาโดยตลอด แม้แต่ในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย ผู้มีอำนาจในไทยก็แทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา ในช่วงอายุของฮุนเซนเองก็เห็นฤทธิ์เดชไทยมาแล้วไม่ใช่น้อย เมื่อคราวฮุนเซนร่วมมือกับเวียดนามไล่เขมรแดงออกจากพนมเปญ ประเทศไทยก็เป็นเพื่อนบ้านที่โอบอุ้มเขมรแดงที่แข็งขันที่สุดในโลก ช่วยจัดตั้งรัฐบาลผสม ช่วยหาที่นั่งให้ในสหประชาชาติ ชักใยพวกนี้ต่อสู้กับฮุนเซนนานนับ10 ปี ต่อมาเมื่อฮุนเซน ทำการยึดอำนาจเจ้านโรดม รณฤทธิ์ ในปี 1997 พวกพรรคฟุนซินเปกหนีมาตั้งหลักที่ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ได้ไทยอีกเช่นกันที่โอบอุ้มพวกนี้เอาไว้ นอกจากนี้ศัตรูทางการเมืองของฮุนเซนหลายต่อหลายคนหนีความขัดแย้งจากพนมเปญเข้ามาประเทศไทยกันเป็นส่วนใหญ่ รัฐบาลไทยทุกยุคทุกสมัยก็ให้การช่วยเหลือเจือจานมาโดยตลอด ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีสำหรับ ฮุน เซน ที่จะได้เล่นการเมืองไทยบ้าง นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ร่วมสมัยที่ผู้นำกัมพูชาเข้มแข็งถึงขนาดที่จะเข้ามาเล่นการเมืองไทยได้
ประการที่สาม อาจจะเป็นเหตุผลส่วนตัวค่อนข้างมาก เนื่องจากฮุนเซน ไม่ชอบพรรคประชาธิปัตย์ อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ปราสาทพระวิหาร ในความเข้าใจของฝ่ายกัมพูชาแล้ว ย่อมไม่อาจจะมองเป็นอื่นได้เมื่อเห็นพรรคประชาธิปัตย์ประสานมือกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แม้แต่ในเวลาที่ปราสาทขอมแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนมาเป็นปีแล้ว รัฐบาลไทยในยุคสมัยนี้ก็ยังไม่เลิกพูดและยังไม่ละความพยายามที่จะคัดค้าน นั่นเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้กัมพูชามาก ที่ปัจจุบันยังคงจำเป็นคงกำลังทหารเอาไว้ที่ชายแดนบริเวณนั้น ทำให้การบูรณฟื้นฟูปราสาทตามแผนการเป็นไปไม่ได้เอาเสียเลย
นอกจากนี้แล้ว รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลนี้ยังเคยสร้างความขุ่นเขืองใจให้กับฮุนเซน อันเนื่องมาจากการด่าทอกันราวกับเป็นนักเลงข้างถนน ไม่ว่าจะอย่างไร ฮุนเซน ก็เป็นมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง เรื่องจะให้หวานชื่นกับคนที่เคยด่าทอกันมาก่อนก็ดูจะแปลกคนเกินไป
ประการที่สี่ การที่ฮุน เซน เลือกที่จะเล่นไพ่ทักษิณนั้น คงจะได้มีการประเมินฐานะของรัฐบาลไทยชุดนี้แล้วว่าคงจะอยู่ในอำนาจได้ไม่นาน หากแม้นจะทำการร่วมมืออะไรกันก็คงจะไม่สำเร็จในสมัยนี้เป็นแน่ เมื่อเล็งเห็นเช่นนั้น ประกอบกับความต้องการที่จะสร้างความระสำระสายให้กับรัฐบาลไทย ฮุนเซน ก็ไม่ลังเลใจที่จะเล่นข้างทักษิณอย่างโจ่งแจ้ง ราวกับหวังว่าจะเป็นแรงผลักดันให้รัฐบาลชุดนี้ของไทยมีอันเป็นไปก่อนเวลาอันควร
ประการที่ห้า ฮุน เซน คำนวณได้อย่างแน่นอนว่าจะโดนตอบโต้อย่างรุนแรงจากฝ่ายไทย เมื่อคำนึงถึงเสียงเรียกร้องที่มาจากฐานทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว การตอบโต้จะทำน้อยกว่าที่กำลังทำอยู่ไม่ได้แน่นอน เป็นเรื่องที่สามารถคาดการณ์ได้ว่า การตอบโต้ย่อมรุนแรงอาจจะไปถึงขั้นปิดด่านพรมแดนกันเลยทีเดียว
แต่การตอบโต้ขั้นรุนแรงที่สุดจากไทยที่กัมพูชาจะเจอนั้น จะไม่ถึงขั้นสร้างความเสียหายให้กับกัมพูชามากไปกว่าที่ไทยจะได้เสียหายด้วยเช่นกัน ไทยมีการลงทุนในกัมพูชาในมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท และมีการค้าทั้งการค้าต่างประเทศและการค้าชายแดนรวมกันเกือบ 50,000 ล้านบาท ในจำนวนนั้นมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นผลประโยชน์ของไทย เนื่องจากไทยส่งออกมากกว่าที่จะนำเข้าจากกัมพูชา หากมีการปิดด่านคนที่ขาดรายได้คือไทย ทางฝ่ายกัมพูชาอาจจะขาดสินค้า แต่ปัจจุบันก็มีทางเลือกมากกว่าสมัยก่อนมาก เพราะมีสินค้าจากจีนและเวียดนามวางขายเกลื่อนในราคาถูกกว่าแม้ว่าคุณภาพจะด้อยกว่า แต่ก็พอใช้การได้ถ้าจากจำเป็นจะต้องใช้จริงๆ และถ้าปิดกันจริงๆ ก็เป็นการเปิดสวรรค์ให้กับนักค้าของเถื่อนครั้งใหม่เลยทีเดียว พวกนี้คงเชียร์รัฐบาลกันสุดใจขาดดิ้นเป็นแน่
นอกจากนี้ข้อโต้แย้งที่ว่าบ่อนการพนันที่อยู่ชายแดนกัมพูชา-ไทยนั้นเป็นแหล่งส่งส่วยให้กับฮุนเซน ถ้าหากไทยปิดด่านห้ามคนออกไปเล่นการพนันจะทำให้ฮุนเซนขาดรายได้ แต่ข้อมูลอย่างหนึ่งที่นักวิเคราะห์ฝ่ายไทยไม่ค่อยมองคือ บ่อนส่วนใหญ่ถึง 60 เปอร์เซ็นต์นั้นเป็นของคนไทย หากรัฐบาลห้ามไปเล่นการพนันกันจริงๆ คนที่เดือดร้อนมากกว่าฮุนเซนคือ เจ้าของบ่อนคนไทย และในความเป็นจริงบ่อนพวกนี้ก็คือฐานการเงินของพรรคการเมืองไทยด้วยเช่นกัน นักการเมืองไทยในพรรคที่อยู่ซีกรัฐบาลที่หายหน้าหายตาไปนั้น เป็นเจ้าของบ่อนที่ปอยเปตอยู่ด้วยแห่งหนึ่ง
การปิดล้อมทางเศรษฐกิจต่อกัมพูชา ไม่ใช่เครื่องมือทางการทูตที่ทรงประสิทธิภาพในยุคที่โลกมีการติดต่อค้าขายกันรอบด้านแบบนี้ กัมพูชามีทางเลือกมากมายในทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่มหาอำนาจจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แม้แต่ในประเทศอาเซียนด้วยกัน ก็คงไม่มีใครมาช่วยไทยปิดล้อมกัมพูชาเป็นแน่
รัฐบาลไทยอาจจะต้องเป็นฝ่ายทบทวนท่าทีก่อนว่า ลำพังเพียงถูกทักษิณหยามหน้านั้น ถึงกับต้องเอาผลประโยชน์ของชาติในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเข้าเสี่ยงหรือไม่ สิ่งที่รัฐบาลไทยกำลังทำอยู่ ใช่หรือไม่ว่า นั่นเป็นสิ่งที่กำพูชาต้องการจะให้เกิดขึ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท