กอ.รมน.เชียงใหม่เผยผลจับแรงงานข้ามชาติ 3 เดือน 697 คน

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 52 ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว จังหวัดเชียงใหม่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ (กอ.รมน.เชียงใหม่) จัดประชุมเพื่อนำเสนอผลการปฏิบัติงานตามโครงการสกัดกั้นและปราบปรามแรงงานต่างด้าว พบว่าในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมามีจำนวนลดลง และการจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการเข้มงวดของเจ้าหน้าที่
โดยพล.ต.อรรคเดช ทรงวรวิทย์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายทหาร เป็นประธานการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานตามโครงการสกัด กั้นและปราบปรามแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 3 สัญชาติ คือพม่า ลาว และกัมพูชา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายทหาร กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้เพื่อให้แต่ละหน่วยงานรับทราบข้อมูล และจะได้นำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานในระยะต่อไปให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
โดยในช่วงวันที่ 15 มิ.ย. – 30 ก.ย. 2552 กอ.รมน. ได้ดำเนินการตั้งจุดตรวจสกัดกับฝ่ายปกครองจำนวน 1,111 ครั้ง และสำรวจตรวจสอบปิดค้นรวมทั้งทำประวัติแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย 140 ครั้ง จับกุมแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมายได้ 697 คน
“ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์ด้านแรงงานต่างด้าวในห้วงที่มีการปฎิบัติงานตามโครงการทุกพื้นที่ของอำเภอจะมีลักษณะเดียวกัน คือแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่อาศัยอยู่ในประเทศและผู้ที่ลักลอบเข้ามาใหม่มีความเคลื่อนไหวลดน้อยลง ดูได้จากการจดทะเบียนมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเกรงกลัวต่อการถูกจับกุม การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในแต่ละพื้นที่โดยการบูรณาการร่วมกันโดยฝ่ายปกครอง อำเภอ สถานีตำรวจ และผู้นำชุมชน หมู่บ้าน รวมทั้งหมดจำนวน 1,111 ครั้ง การสำรวจตรวจสอบในพื้นที่ตำบล หมู่บ้าน พร้อมทั้งจัดทำทะเบียนประวัติ ทั้งแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและไม่ผิดกฎหมายจำนวน 140 ครั้ง จับกุมแรงงานผิดกฎหมายได้ 697 คน” พล.ต.อรรคเดช กล่าวในการแถลงข่าว
สำหรับที่จังหวัดเชียงใหม่รอบ 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่า แรงงานต่างด้าวมีความเคลื่อนไหวลดลงจากช่วงก่อน ในขณะที่การจดทะเบียนมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากทราบข่าวเรื่องการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ทั้งการสกัดกั้น การปราบปราม การประชาสัมพันธ์ การข่าว แต่ก็ยังมีปัญหาอุปสรรคซึ่งสามารถสรุปได้ 6 ประการคือ ระบบฐานข้อมูล การจัดระเบียบชุมชนแรงงานต่างด้าว การกำหนดบทบาทของแต่ละหน่วยงาน การสกัดกั้น ปราบปราม ผลักดัน ส่งกลับ ด้านสังคมคือการศึกษาและสาธารณสุข และการจดทะเบียนซ้ำซ้อนระหว่างแรงงานต่างด้าว บุคคลบนพื้นที่สูงและชนกลุ่มน้อย ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเชียงใหม่ได้กำหนดแนวทางการแก้ ปัญหาไว้ 3 ระยะคือ ระยะสั้น ในปี 2553 ระยะปานกลาง ระหว่างปี 2554 – 2555 และระยะยาว ตั้งแต่ปี 2553 – 2556
พบปะชุมชนเน้นย้ำแรงงานข้ามชาติเป็นภัยความมั่นคง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.อรรคเดช ทรงวรวิทย์ ได้ไปเป็นประธานเปิดเวทีประชาคมแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เสี่ยง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มพลังมวลชน อาสาสมัคร อสม.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทหารกองหนุน และวิทยุชุมชนจำนวน 100 คน เป็นแนวทางในการร่วมป้องกันและปราบปรามปัญหาแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายในพื้นที่ ตลอดจนเป็นการสร้างเครือข่ายด้านการข่าวอีกทางหนึ่ง โดยทางฝ่ายความมั่นคงได้เน้นว่าปัญหาแรงงานต่างด้าวเป็นปัญหาสำคัญโดยเฉพาะการลักลอบขายแรงงานเถื่อน เป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ของสังคมไทยที่ภาคประชาชนต้องตระหนัก
"กลุ่มเป้าหมายหลักในการดำเนินการคือ 5 อำเภอชายแดน คือ อ.เวียงแหง เชียงดาว ไชยปราการ ฝาง และแม่อาย กลุ่มเป้าหมายพื้นที่ตอนใน 3 อำเภอ คือ อ.พร้าว แม่แตง และสะเมิง อ.เมือง และ 10 อำเภอโดยรอบ พื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน และตาก จำนวน 6 อำเภอ" พล.ต.อรรคเดชกล่าว และเพิ่มเติมต่อไปว่า อ.แม่แตง เป็น 1 ใน 3 อำเภอที่เป็นพื้นที่เสี่ยงของปัญหา หากไม่เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนเกรงว่าจะลุกลามจนยากจะแก้ไข นับจากนี้ กอ.รมน.จะเข้ามาช่วยเหลือและลงพื้นที่โดยอาศัยความร่วมมือจากชาวบ้านเพื่อจัดทำแผนป้องกันและปราบปรามแรงงานต่างด้าวอย่างเข้มงวด
ที่มาข่าวบางส่วนจาก: www.matichon.co.th
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท