เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานว่า ตำรวจ สน.ดุสิตเร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีกับนายใจ อึ๊งภากรณ์ และเว็บไซต์เรดสยามดอทเน็ต (www.redsiam.net) พร้อมทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เว็บไซต์ไทม์สออนไลน์ และนายริชาร์ด ลอยด์ แพร์รี่ บรรณาธิการข่าวเอเชียของไทม์สออนไลน์ ภายหลังนายสมชาย แสวงการ นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ คมช. และ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตรองผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานข่าวกรองแห่งชาติ และตัวแทนกลุ่มสยามสามัคคี แจ้งความดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ในข้อหาเดียวกัน
พ.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบก.อก.บช.น. ในฐานะผู้ช่วยโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 11 พฤศจิกายน ว่า พนักงานสอบสวน สน.ดุสิตกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน จะส่งเรื่องให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)ภายใน 3 วัน ผบช.น.จะมอบหมายให้รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานสอบสวน พื้นที่ บก.น.1 ดูแล หากพบว่าสมควรสั่งไม่ฟ้องให้เสนออัยการ หากสมควรสั่งฟ้องแต่หลักฐานไม่พอก็หาเพิ่มเติม แต่หากเห็นว่าหลักฐานเพียงพอ ก็สามารถส่งฟ้องอัยการได้ ต้องตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญให้ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร จากทั้งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) สันติบาล กองการต่างประเทศ และผู้ชำนาญการ
เกินเขตอำนาจสันติบาลให้ ก.ต่างประเทศ สอบ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์หมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นสถาบันว่า กรณีนี้เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นนอกประเทศ ทางสันติบาลไม่มีอำนาจดำเนินการเรื่องนี้มีเพียงกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ที่ดำเนินการได้ ซึ่ง กต.ต้องตรวจสอบ 2 ประเด็น ประเด็นแรกมีการพูดจริงหรือไม่ ประเด็นที่ 2 คำแปลที่แปลออกมานั้นถูกต้องหรือไม่ หาก กต.พบว่ามีการกระทำความผิดต้องส่งเรื่องให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ เช่น ตำรวจ อัยการสูงสุด
พล.ต.ท.ธีระเดช กล่าวว่า สันติบาลกำลังตรวจสอบว่ามีการนำบทสัมภาษณ์และคำแปลดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อหรือไม่ ซึ่งมีคณะกรรมการตรวจสอบคดีหมิ่นสถาบันของ ตร.เกาะติดอยู่ตลอด จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการนำมาเผยแพร่ต่อ หากตรวจสอบว่าต้นฉบับเข้าข่ายหมิ่น ผู้ที่แปลแล้วนำมาเผยแพร่ต่อจะมีความผิดด้วย
เผยหากพบต้นฉบับหมิ่นจริง คนแปล-เผยแพร่ โดนด้วย
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) จะแปลบทสัมภาษณ์แล้วแจกจ่ายนั้น พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวว่า หากต้นฉบับเข้าข่ายหมิ่น แล้วมีคนเอามาแปลตามนั้นและเอามาเผยแพร่ บุคคลนั้นก็มีความผิด ทั้งหมิ่นและเผยแพร่
ด้านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แกนนำ พท. กล่าวว่า หากอ่านบทความทั้งหมดจะพบว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์อย่างเทิดทูนสถาบันและมีความจงรักภักดี แต่ผู้สื่อข่าวของไทม์สถามคำถามนำตลอด หากคนที่มีใจเป็นธรรมได้อ่านบทสัมภาษณ์จะทราบว่าไม่มีอะไร ขณะนี้พรรคมีแนวคิดแปลบทสัมภาษณ์เป็นภาษาไทย เพื่อให้ความกระจ่างขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณโดยเนื้อแท้แล้วต้องการจะสื่ออะไร
"ไทม์ส"วิจารณ์ค้าน กม.หมิ่น
มติชนออนไลน์รายงานด้วยว่า หนังสือพิมพ์ เดอะ ไทม์ส ออฟ ลอนดอน ตีพิมพ์บทบรรณาธิการ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณและเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องหลังจากนั้น โดยพุ่งเป้าไปที่ประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในหัวข้อ "Siamese spat" หรือ "วิวาทะแห่งสยาม" โดยขยายความไว้ในหัวรองลงมาว่า คนไทยควรมีเสรีที่จะเข้าใจอะไรๆ มากขึ้นเกี่ยวกับบทบาทของระบอบกษัตริย์ของตนเอง เนื้อหาแสดงความกังวลต่อการที่ในทางทฤษฎีแล้วนายริชาร์ด ลอยด์ แพร์รี่ และ พ.ต.ท.ทักษิณ อาจถูกตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีระวางโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี และแสดงทรรศนะไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าว เพราะเชื่อว่าไม่เป็นผลประโยชน์สำหรับใครทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ตั้งข้อสังเกตว่า เนื้อหาของบทสัมภาษณ์ที่สรุปมาในบทบรรณาธิการชิ้นนี้ ยังคงยืนยันเนื้อหาเดิมที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้เอ่ยถึงการถูกกล่าวหาจาก พ.ต.ท.ทักษิณว่า บิดเบือนและรายงานไม่ตรงกับความเป็นจริงแม้แต่น้อย
ทูตอังกฤษนัดพบย้ำข้อเท็จจริง
จากกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศสั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ดำเนินการชี้แจงและทำความเข้าใจกับหนังสือพิมพ์เดอะ ไทม์สนั้น เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน นายกิตติ วะสีนนท์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ได้มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง ถึงบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดอะ ไทม์สแล้ว พร้อมทั้งได้ขอให้บรรณาธิการตีพิมพ์หนังสือชี้แจงในเดอะ ไทม์ส ในโอกาสแรกด้วย
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตได้หารือโดยตรงกับนายริชาร์ด บีสตัน บรรณาธิการข่าวต่างประเทศ เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเพิ่มเติม เกี่ยวกับกรณีที่หนังสือพิมพ์เผยแพร่รายงานข่าวและบทสัมภาษณ์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย โดยได้เน้นถึงบทบาทและสถานะตามรัฐธรรมนูญของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงอยู่เหนือการเมือง รวมทั้งสถานะในปัจจุบันของ พ.ต.ท.ทักษิณ และกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษ
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตมีกำหนดการที่จะพบกับนายบีสตันอีกครั้ง เพื่อหารือและย้ำข้อเท็จจริงเพื่อให้หนังสือพิมพ์ มีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการเมืองไทยและบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์
ที่มา: เว็บไซต์มติชนออนไลน์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)