Skip to main content
sharethis
 
มานูเอล เซลายา อ่านจดหมายที่เขียนถึงประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า โดยมีภรรยานั่งข้าง ๆ
ทั้งคู่ยังคงอาศัยอยู่ในสถานฑูตบราซิล
(AP Photo/Esteban Felix)
 
ระเบิดปริศนาใกล้ศาลฎีกาการเลือกตั้ง
ช่วงกลางคืนของวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา เกิดเหตุระเบิดลึกลับขึ้นใกล้ ๆ กับ ศาลฎีกาการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องมือที่ใช้ในการเลือกตั้งไว้ โดยทางตำรวจระบุในวันถัดมาว่าไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินได้รับความเสียหายจากการระเบิดในครั้งนี้ แต่ทางตำรวจก็ไม่ได้ระบุว่าใครคือผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ
 
โฆษกตำรวจฮอนดูรัสกล่าวผ่านสื่อท้องถิ่นว่า ระเบิดกินพื้นที่เป็นวงกว้าง 25 ถึง 35 เมตร โดยเครื่องยิงวัตถุระเบิด RPG-7M โดยทางโฆษกตำรวจได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า เป็นการพยายามสร้างความวุ่นวาย ทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจ เพื่อเป็นอุปสรรค์กับกระบวนการเลือกตั้งในวันที่ 29 พ.ย. ที่จะถึงนี้
 
ประชาชนในเขตมิราฟลอเร ของกรุงเตกูซิกัลปา (เมืองหลวงฮอนดูรัส) บอกว่าพวกเขาได้ยินเสียงระเบิด และมีบางคนพบเห็นเครื่องบินขนาดเล็กซึ่งอาจเป็นตัวการที่ยิงระเบิดดังกล่าว
 
โดยหัวหน้าศาลฎีกาการเลือกตั้ง เอนริค ออร์เตส กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของฮอนดูรัสว่า "การเลือกตั้งยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยจะมีการใช้มาตรการรักษาความสงบ"
 
 
สั่งทหารคุมเลือกตั้ง หวั่นแผนก่อกวน
ทางด้านรัฐบาลรักษาการของฮอนดูรัส ประกาศใช้มาตรการด้านความมั่นคงทุกรูปแบบ เพื่อทำให้การเลือกตั้งดำเนินไปด้วยดี
 
โดยโรเบอร์โต มิเชลเลตตี รักษาการผู้นำฮอนดูรัสบอกว่า เขาหวังว่าการเลือกตั้งในวันที่ 29 พ.ย. จะทำให้วิกฤติทางการเมืองจบสิ้นลง มิเชลเลตตีประกาศว่าจะใช้มาตรการรักษาความสงบอย่างเต็มที่ในช่วงที่มีการรณรงค์หาเสียงของผู้แทน รวมถึงในวันเลือกตั้ง
 
กองทัพของฮอนดูรัสประกอบด้วยทหาร 12,000 นาย และตำรวจ 14,000 นาย จากประชากรทั้งหมด 7 ล้าน 5 แสน คน และทางกองทัพยังได้ขอกำลังทหารกองหนุนเพื่อประจำการในช่วงการเลือกตั้ง
 
นายพลโรมิโอ วาสคิวเอซ บอกว่าพวกทหารจะเป็นผู้คอยรักษาความสงบ เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งกำลังวางแผนก่อกวน
 
ด้านมิเชลเลตตีก็บอกว่า ยังคงมีบางประเทศที่กำลังวางแผนคว่ำบาตรการเลือกตั้งในฮอนดูรัส โดยระบุว่าทางกองทัพฮอนดูรัสกำลังสืบข้อเท็จจริงเรื่องเวเนซุเอลล่าและนิคารากัววางแผนกีดกันการเลือกตั้ง
 
ส่วนสหรัฐฯ บอกยอมรับการเลือกตั้งในวันที่ 29 พ.ย. ของฮอนดูรัส ทั้งที่ก่อนหน้านี้คณะเจรจาของสหรัฐฯ บอกจะไม่ยอมรับการเลือกตั้งหากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขคืนตำแหน่งให้เซลายา
 
 
สหรัฐฯ ส่งทูตไปฮอนดูรัสอีกครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้า
สัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ส่งตัวแทนไปเยือนฮอนดูรัสอีกครั้ง ก่อนจะกลับมาในวันที่ 12 พ.ย. โดย เครก เคลลี่ รักษาการรัฐมนตรีช่วยฯ กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เข้าพบกับทั้งมานูเอล เซลายาและโรเบอร์โต มิเชลเลตตี โดยเขายังได้เข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบข้อตกลงของฮอนดูรัสด้วย
 
เคลลี่ บอกว่า ทางสหรัฐฯ ส่งเขาไปเพื่อกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงซาน โฮเซ ที่มีการลงมติร่วมกันตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. เขายังบอกอีกว่า ตอนนี้มีคนในฮอนดูรัสที่เฉลียวฉลาด รักชาติ และกระทำการตามข้อตกลงโดยยึดหลักปฏิบัติ และทางสหรัฐฯ ก็สนับสนุนความพยายามของฮอนดูรัส
 
โดยตัวแทนจากสหรัฐฯ ไม่ได้กล่าวอะไรมากไปกว่านั้น และบอกเพียงว่าเซลายายังต้องอาศัยสถานฑูตบราซิลเป็นสถานที่พักพิง
 
 
เซลายาประณามสหรัฐฯ พร้อมประกาศกร้าวจะไม่ยอมรับข้อตกลงอีกต่อไป
ในวันที่ 14 พ.ย. มานูเอล เซลายา เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลโอบาม่าของสหรัฐฯ ประณามการที่สหรัฐฯ เปลี่ยนจุดยืนหันมายอมรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปของฮอนดูรัสทั้งที่เขายังไม่ได้คืนตำแหน่งตามข้อตกลง
 
โดยเซลายาอ่านจดหมายฉบับนี้ถ่ายทอดผ่านสถานีวิทยุเรดิโอโกลโบว่า "ในฐานะที่ผมเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งของฮอนดูรัส ผมขอประกาศจุดยืนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมจะไม่ยอมรับข้อตกลงคืนตำแหน่งประธานาธิบดีจากรัฐบาลชุดนี้ ที่ทำไปเพื่อกลบเกลื่อนการรัฐประหารอีกต่อไป"
 
"อนาคตที่พวกคุณแสดงให้เราเห็นตอนนี้ จากการที่พวกคุณเปลี่ยนจุดยืนเรื่องฮอนดูรัส และหันไปสนับสนุนการแทรกแซงของกลุ่มทหาร...ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าความตกต่ำทางเสรีภาพและการเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เลย" เซลายาอ่านเนื้อความจดหมายผ่านเรดิโอโกลโบ "มันเป็นการก่อสงครามในรูปแบบใหม่ ต่อกระบวนการปฏิรูปสังคมและประชาธิปไตย ที่มีความจำเป็นต่อฮอนดูรัส"
 
 
 
 
ที่มา แปลและเรียบเรียงจาก
Honduras' Zelaya won't recognise vote, AFP, The Sydney Morning Herald, 15-11-2009

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net