1 ธ.ค. 52 - น.ส.วิมล คิดชอบ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศยึดพาสปอร์ตนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดาวิศวกรซึ่งถูกควบคุมตัวในกัมพูชา โดย น.ส.วิมล กล่าวว่า เรื่องนี้ขอยืนยันว่าพาสปอร์ตอยู่ที่นางสิมารักษ์ ตั้งแต่เดินทางกลับมาจากไปเยี่ยมนายศิวรักษ์ซึ่งทั้งมารดาและน้องชายของนายศิวรักษ์ก็ยังคงถือพาสปอร์ตอยู่ กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เก็บพาสปอร์ตไว้แต่อย่างใด ส่วนสัปดาห์ก่อนการเดินทางไปนั้นก็อยู่ในช่วงระหว่างทำพาสปอร์ต เพื่อมามอบให้ใช้ในการเดินทางไปเยี่ยมนายศิวรักษ์

ถามถึงการประกันตัวนายศิวรักษ์ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะมีบทบาทอย่างไร น.ส.วิมล กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในการพิจารณาอยู่แล้วและทางรัฐบาลกำลังพิจารณาในเรื่องรายละเอียดการให้ความช่วยเหลือนายศิวรักษ์ซึ่งเป็นกรณีพิเศษเร่งด่วน ทั้งนี้วันที่ 4 ธ.ค. จะมีกำหนดการพิจารณาว่าศาลกัมพูชาจะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งในระหว่างนี้ทางฝ่ายไทยโดยทนายความก็กำลังรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะนำไปใช้ในการประกอบการพิจาณา 

ถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยระบุว่ากระทรวงการต่างประเทศทำงานล่าช้า น.ส.วิมล กล่าวว่า ได้ชี้แจงตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่า การที่มารดานายศิวรักษ์ประสงค์อยากเดินทางไปเร็วขึ้นนั้น ทางกระทรวงการต่างประเทศขอยืนยันว่าเราเข้าใจในประเด็นความรู้สึกของแม่ ส่วนการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศ เราได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้ทำงานอย่างจริงจังและเป็นหน้าที่กระทรวงฯ ต้องทำงานกรณีมีคนไทยได้รับความเดือดร้อน ส่วนกรณีนี้เป็นกรณีพิเศษ ขอยืนยันว่าเราต้องทำหน้าที่ของเราต่อไป 

ส่วนกรณีสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำไทยที่ทำงานด้วยยากที่สุด น.ส.วิมล กล่าวว่า อันนี้ก็เป็นความคิดเห็นของท่าน ก็คงจะไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องความคิดเห็นของท่านที่มีต่อรัฐบาลไทย เราก็คงจะไม่ออกความเห็นดีกว่า ทั้งนี้ในส่วนของ กระทรวงฯ พวกเราที่ทำงานตรงนี้ก็อยากจะเห็นความสัมพันธ์ที่ดี ของประเทศเพื่อนบ้าน ก็คงจะพูดได้ในลักษณะนี้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน กระทรวงฯ ในฐานะผู้ปฏิบัติ ประสงค์จะเห็นความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเรากับประเทศเพื่อนบ้าน 

ถามถึงกรณีนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถพานางสิมารักษ์เข้าเยี่ยมบุตรชายได้โดยไม่ต้องผ่านทางการไทยเลยหรือไม่ น.ส.วิมล กล่าวว่า คงเป็นสิทธิ์ของการที่ ประชาชนจะสามารถเดินทางได้ คงไม่สามารถเข้าไปห้ามอะไรได้ เพราะเป็นสิทธิ์จริงๆ และก็เข้าใจ

ส่วนนายนพดลได้ประสานงานกับทางเรือนจำกัมพูชาแล้วหรือไม่นั้น น.ส.วิมล กล่าวว่า ไม่ทราบว่านายนพดลติดต่อทางช่องทางไหน หรือติดต่อผ่านเรือนจำหรือไม่ ทราบเพียงว่าในส่วนของสถานทูตไทย ในกัมพูชา ได้ประสานงานกับทางทนายความของนายศิวรักษ์ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชา ซึ่งก็เป็นตามกระบวนการยุติธรรมของฝ่ายกัมพูชาเอง เราดำเนินการให้ความร่วมมือและผลักดันภายใต้กระบวนการยุติธรรมกัมพูชา

น.ส.วิมล กล่าวว่า เมื่อวานนี้นางสิมารักษ์ ได้พูดผ่าน น.ส.มธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล ว่าเข้าใจในกระบวนการที่มีขั้นตอนทั้งหลาย ส่วนเรื่องความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่อยากจะเดินทางเร็วขึ้น ก็คิดว่าทุกฝ่ายคงเข้าใจเหมือนกัน “ส่วนกำหนดการเดินทางของนางสิมารักษ์ล่าสุด(โดยการประสานของพรรคเพื่อไทย)นั้น ตนไม่ทราบว่าจะเดินทางเมื่อไหร่มีกำหนดการอย่างไร แต่กำหนดการเดิมที่ได้วางแผนเอาไว้ ก่อนที่จะได้มีการพูดคุยกันเมื่อวานนี้ ก็คือจะเดินทางไปในวันที่ 7 ธ.ค. เพราะกำหนดการพิจารณาของศาลกัมพูชาในเรื่องนี้จะมีวันที่ 8 ธ.ค.”

ถามว่าหากนางสิมารักษ์ เดินทางไปกัมพูชาโดยการประสานงานของพรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้จะทำให้กำหนดการเดิมของทีมทางการไทย เช่น กระทรวงการต่างประเทศและสภาทนายความเปลี่ยนแปลงกำหนดการหรือไม่ น.ส.วิมล กล่าวว่า ผู้ที่เกี่ยวข้อง จะยึดกำหนดการพิจารณาของศาลกัมพูชาวันที่ 8 ธ.ค.เป็นตัวตั้ง เพื่อเดินทางไปเตรียมงาน ส่วนรายละเอียดการเดินทางเชื่อว่าทุกคนวางแผนเพื่อให้สอดคล้องกับกำหนดเวลาอยู่แล้ว

ถามถึงค่าใช้จ่ายการประกันตัวทางรัฐบาลได้ดำเนินการให้เปล่าหรือให้ฟรี น.ส.วิมลกล่าวว่า กำลังดูเรื่องรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง
ถามว่าการช่วยเหลือของนายนพดล จะกระทบการทำงานของกระทรวงฯหรือไม่ น.ส.วิมลกล่าวว่า กระทรวงฯ มีหน้าที่ต้องทำงานในส่วนที่เรามีภารกิจช่วยเหลือไม่ว่ากรมการกงสุล หรือสถานทูตในต่างประเทศ ต้องเข้าไปดำเนินการเต็มที่อยู่แล้ว ตรงนี้ต้องขอยืนยันแม้ว่าจะมีความห่วงใยจากหลายฝ่ายในประเด็นที่เกี่ยวข้อง แต่เราก็ต้องคำนึงถึงกระบวนการของกัมพูชา