Skip to main content
sharethis
 
 
นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีศาลกัมพูชา พิจารณาคดีของ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว ในข้อหาโจรกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดนางมธุรพจนา อิทธะรงค์ รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานว่า ศาลกัมพูชาได้นัดไต่สวนพยานหลักฐานต่างๆ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. จนถึงเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา โดยล่าสุด นายคี สาขัน ผู้พิพากษาศาลแขวงกรุงพนมเปญ แถลงว่า นายศิวรักษ์อาศัยอยู่ในกรุงพนมเปญมานานกว่า 7 ปี ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแห่งชาติและความปลอดภัยสาธารณะ จึงตัดสินว่ามีความผิดจริงตามข้อหา ให้ลงโทษจำคุก 7 ปีและปรับเป็นเงิน 10 ล้านเรียล คิดเป็นเงินไทยประมาณ 80,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นเงินค่าปรับที่ต้องจ่ายให้รัฐบาลกัมพูชา
 
ทั้งนี้ นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วัย 31 ปี วิศวกรชาวไทยสังกัดบริษัทแคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิส จำกัด ตกเป็นผู้ต้องหาในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางมาเยือนกัมพูชาเมื่อเดือนที่แล้วและร้องขอให้ถอนข้อกล่าวหาจารกรรม ซึ่งระวางโทษไว้สูงสุดคือ จำคุก 15 ปี พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่ได้ขโมยข้อมูลใดๆ สำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่านายศิวรักษ์ได้แจ้งต่อศาลว่า แม้จะโทรศัพท์ไปบอกกับนายคำรพ พลวัฒน์วิชัย เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เกี่ยวกับแผนการบินดังกล่าวแต่ไม่ทราบว่า มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่บนเครื่องบินไอพ่นส่วนตัวลำที่เดินทางมากรุงพนมเปญ อย่างไรก็ตาม ระหว่างการพิจารณาคดี แม่ของนายศิวรักษ์และเจ้าหน้าที่สถานทูตของไทยก็อยู่ร่วมรับฟังการพิจารณาคดีด้วย
 
 
ชวนนท์ปัด ตัดสินใจช้ากว่าเพื่อไทย ยื่นขออภัยโทษ ศิวรักษ์ เหตุ รอคำพิพากษา
เมื่อเวลา 17.05 น. วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ กล่าวภายหลังรับทราบผลการพิจารณาคดีของศาลกัมพูชาว่า รัฐบาลมีแนวทาง 2 แนวทางซึ่งต้องรอดูการตัดสินใจของนายศิวรักษ์และครอบครัวว่า จะตัดสินใจอย่างไรระหว่าง ข้อแรก คือ ยื่นอุทธรณ์ ซึ่งจะต้องต่อสู้ในชั้นศาลอุทธณ์ตามกระบวนการยุติธรรม และ ข้อสองคือ หากไม่ยื่นอุทธรณ์ ก็ต้องยอมรับคำตัดสินและรับโทษตามที่ศาลได้ตัดสิน ซึ่งหากเลือกทางนี้ รัฐบาลไทยจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนายศิวรักษ์ในทันที เพื่อช่วยเหลือให้กลับมาประเทศไทยได้ ซึ่งสองเรื่องนี้รัฐบาลจะดำเนินการทันทีหลังจากที่ครอบครัวตัดสินใจ ทั้งนี้หากจะขอพระราชทานอภัยโทษ จะดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ยังไม่สามารถตอบเรื่องระยะเวลาที่ชัดเจนในขณะนี้ได้ 
 
เมื่อถามว่าการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเรื่องที่ซ้ำซ้อนกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องซ้ำซ้อน แต่เป็นแนวทางการช่วยเหลือหากมีช่องที่รัฐบาลช่วยเหลือได้ก็ทำทุกทาง เมื่อถามว่าที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศไม่เคยพูดถึงท่าทีนี้มาก่อน นายชวนนท์ กล่าวว่า หากศาลยังไม่ตัดสิน เราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ และตนย้ำเสมอว่าต้องรอคำตัดสินของศาลก่อน ซึ่งกระทรวงฯ ก็เตรียมพร้อมเสมอไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เราก็มีแนวทางช่วยเหลือนายศิวรักษ์ อยู่แล้ว ส่วนหากทางพรรคเพื่อไทยจะยื่นขอพระราชทานอภัยโทษอีกทาง ก็เป็นสิทธิ ประเด็นอยู่ที่ว่าเราดำเนินการในส่วนของเรา ถึงตอนนั้นเราก็ยื่นไปตามช่องทางกระบวนการที่ถูกต้อง ผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ ไม่ได้กังวลกับการยื่นขอของพรรคเพื่อไทย และไม่คิดว่าช้าไปกว่าพรรคเพื่อไทย เพราะศาลตัดสินแล้ว เราก็ดำเนินการทันที   อย่างไรก็ตามตนไม่ก้าวล่วงถึงผลคำพิพากษาของศาลกัมพูชา  
 
“ผลออกมาอย่างนี้แล้ว แม้คุณศิวรักษ์จะยืนยันในความบริสุทธิ์มาตลอด เราก็ต้องดำเนินการแก้ไขตามกระบวนการยุติธรรมที่มีอยู่ คือจะต่อสู้ในชั้นศาลอุทธรณ์หรือว่าจะยอมรับแล้วขอพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งรัฐบาลจะดำเนินการทันทีที่รับทราบผลการตัดสินใจของครอบครัว” นายชวนนท์กล่าว
 
ส่วนการยื่นของรัฐบาลจะผ่านทางทนายความคนใหม่หรือไม่นั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า การยื่นของรัฐบาลยื่นได้แต่จะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าจะต้องผ่านนายเขียว สัมโบทนายความคนใหม่หรือไม่ 
 
เมื่อถามว่าความผิดของนายศิวรักษ์ครั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ของไทยคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ศาลตัดสินว่านายศิวรักษ์มีความผิดคนเดียว ยังไม่ได้พูดถึงคนอื่นแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการพิจารณาคดีตามปกติ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหามีนายศิวรักษ์คนเดียว คนอื่นไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
 
ส่วนข้อเท็จจริงในมูลความผิด นายชวนนท์ กล่าวว่า เท่าที่รับทราบคร่าวๆ เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของรัฐบาลกัมพูชา ดังนั้นการไปสอบถามข้อมูลตารางการบินว่าเครื่องบินลงหรือยังไม่ลง กลายเป็นความผิดฉกรรจ์ในกัมพูชา รับโทษถึง 7 ปี ซึ่งเราก็จะไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าคำพิพากษาเป็นไปตามที่คาดหมายไว้หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า จากที่เคยได้พูดคุย นายศิวรักษ์ ยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง เราก็พยายามจะชี้แจง ต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มความสามารถ แต่เมื่อผลออกมาเราก็ยอมรับ และมีช่องทางช่วยเหลือนายศิวรักษ์ อยู่แล้ว
 
สำหรับความรู้สึกของนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์นั้น นายชวนนท์ กล่าวว่า ก็แน่นอนว่าคนเป็นแม่ ก็คงอยู่ในสภาพตกอกตกใจ เราก็พูดคุยให้ทราบว่ามีแนวทางสองทางอย่างที่เรียนไว้ ซึ่งทางนางสิมารักษ์ ก็คงได้ปรึกษากับนายเขียว สัมโบ ทนายความ และนายศิวรักษ์ ว่าจะดำเนินการอย่างไร เราไม่ควรเข้าไปชี้นำ 
 
เมื่อถามว่าการยื่นขอพระราชทานโทษ โดยปกติใครจะเป็นผู้ยื่นขอ เลขานุการมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตามปกติ ก็จะมีเจ้าตัว(นายศิวรักษ์) ญาติพี่น้อง และรัฐบาลที่สามารถดำเนินการได้ ส่วนประธานพรรคเพื่อไทยจะยื่นขอได้หรือไม่นั้น ก็ต้องตรวจสอบกฎหมายกัมพูชาต่อไป ตนคิดว่ายื่นโดยใครไม่ใช่สาระหลัก เพราะจะมีการดำเนินการช่วยเหลือนายศิวรักษ์อย่างแน่นอน 
 
ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ และที่ปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดเผยกรณีการพิพาก ษาคดี นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ว่า ในนามของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เข้าไปมีส่วนตัดสินใจถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ หรือ ชี้แนะใดๆ เป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษา หากแม่นายศิวรักษ์ ร้องขอ และที่ผ่านมาตนก็ไม่สบายใจ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นถูกคนมองว่า เป็นเกมการเมืองที่พรรคเพื่อไทย เดินเรื่อง ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ตั้งแต่การเปลี่ยนตัวทนายความ รวมไปถึงการไม่ยื่นประกันตัว นายศิวรักษ์ ทุกอย่างเป็นการตัดสินใจของแม่และทนายคนใหม่ โดยส่วนตัวไม่ได้มีการพูดคุยกับแม่เป็นพิเศษ มีเพียงประสานผ่านโฆษกพรรคเพื่อไทย ส่วนเรื่องที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ออกมาระบุว่า จะมีข่าวดีนั้น เชื่อว่า สุดท้ายของเรื่องนี้ น่าจะจบลงด้วยดี ส่วนหนังสือที่ร่างถึงสมเด็จฮุนเซนนั้น ตนเห็นว่า ไม่เหมาะสม ควรรอให้ถึงเวลาที่ศาลตัดสินก่อน และหากคำตัดสินเป็นเช่นไร ถ้าทางแม่ต้องการขอความช่วยเหลือจากพรรคเพื่อไทย ต้องมีการทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหาอีก
 
 
เรียบเรียงบางส่วนจากเว็บไซต์ สยามรัฐ เดลินิวส์ คมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net