Skip to main content
sharethis

‘โครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง’ ถือได้ว่าเป็นทางออกร่วมกัน หลังจากชาวบ้านปางแดง ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐหลายร้อยนาย ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมและจับกุมชาวบ้านปางแดงซ้ำซากเป็นครั้งที่ 3 ซึ่งมีการพูดกันว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการจับกุมแบบเหวี่ยงแห และถือว่าเป็นละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

 

ตามที่คณะทำงานยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยคนยากจนชนบทครั้งที่1/2551ได้ดำเนินงาน ‘โครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง’ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้ราษฎรในชุมชนบ้านปางแดงให้มีหลักประกันได้รับความมั่นคงในชีวิต ตามสิทธิมนุษยชน พัฒนายกระดับให้ชุมชนมีความเข้มแข็งสามารถพึ่งพาตนเองได้ และได้รับการรับรองฐานะอย่างเหมาะสมโดยชอบตามกฎหมายต่อไป ต่อมา สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ได้พิจารณาอนุมัติโครงการและงบประมาณดังกล่าว โดยได้เริ่มโครงการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551- สิงหาคม 2552 และได้ขอขยายการดำเนินการมาถึงเดือนธันวาคม 2552

ทั้งนี้ ‘โครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง’ ถือได้ว่าเป็นทางออกเบื้องต้น หลังจากชาวบ้านปางแดง ได้ถูกเจ้าหน้าที่รัฐหลายร้อยนาย ได้สนธิกำลังเข้าปิดล้อมและจับกุมชาวบ้านปางแดงซ้ำซากเป็นครั้งที่3 และเหตุการณ์การจับกุมเช่นนี้ ทำให้หลายคนต่างออกมาพูดกันว่าเป็นการจับกุมแบบเหวี่ยงแห และถือว่าเป็นละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

กระทั่งในปี 2551คดีดังกล่าวยังอยู่ระหว่างดำเนินการทางกระบวนการยุติธรรม กล่าวคือ ศาลได้มีการจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวโดยยังไม่อ่านคำพิพากษา โดยได้เสนอให้มีการเจรจาร่วมกับฝ่ายนโยบายและป่าไม้เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านปางแดงด้วยการระดมทุกหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างบูรณาการ และสร้างชุมชนให้ได้รับการยอมรับจากสังคมในระยะยาว ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ชาวบ้านถูกจับกุมอีก

ซึ่งต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยความเห็นประธานคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดิน ศจพ.ได้ตั้งคณะทำงานสำรวจพัฒนาข้อมูลและแก้ไขปัญหาราษฎรบ้านปางแดง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ตามคำสั่งจังหวัดเชียงใหม่ที่ 1620/2550 ลงวันที่ 9 สิงหาคม2550 โดยมีนายอำเภอเชียงดาวเป็นประธานฯ คณะทำงานประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พอช. ที่ดินอำเภอ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้แทนชาวบ้าน ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา และ ‘โครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง’ โดยมีกรมป่าไม้เป็นเจ้าภาพในการจัดทำโครงการ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์กรมหาชน) วงเงินงบประมาณ 4,625,000 บาท

อย่างไรก็ตาม พบว่างบประมาณดังกล่าวไม่เพียงพอ อีกทั้งชาวบ้านปางแดงนอกกลุ่มนี้ ยังต้องดำเนินการเช่าที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยระยะยาวสำหรับชุมชนบ้านปางแดงจำนวน 30 ไร่จากกรมป่าไม้ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกจำนวน 700,000 บาท แน่นอนว่า ลำพังแค่ชาวบ้านที่ต้องหาเช้ากินค่ำไปวันๆ ไหนจะต้องพะวักพะวงว่าศาลจะตัดสินคดีที่ถูกจับเมื่อปี 2547 อีกเมื่อไร ย่อมเป็นเรื่องยากและหนักหนาอย่างยิ่งกับการจะต้องหาเงินจำนวนมากขนาดนี้ เพื่อใช้สำหรับการเช่าที่ดินในครั้งนี้

ต่อมา คณะกรรมการจัดหาทุนโครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง ร่วมกับชุมชนบ้านปางแดง ต.ทุ่งหลุก อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก็ได้จัดกิจกรรมในหลายๆ ด้าน เพื่อระดมทุนมาสร้างบ้านให้แล้วเสร็จต่อไป โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ย.2551 ที่ผ่านมา ทางมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ได้จัดการแสดงละครชุมชนขึ้นที่โรงละครมะขามป้อม สะพานควาย กรุงเทพฯ เพื่อหาทุนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้านรวมทั้งหาทุนในการเช่าพื้นที่สำหรับที่อยู่อาศัยให้กับชาวบ้านปางแดงนอก ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมเป็นอย่างมาก

และเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.2551 ที่ผ่านมา ที่บริเวณโรงเรียนบ้านปางแดง ทางคณะกรรมการจัดหาทุน โครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง ร่วมกับชุมชนบ้านปางแดง ก็ได้ร่วมกันจัดทอดผ้าป่าเพื่อซื้อที่ดินสร้างชุมชนใหม่ สมทบกองทุนโครงการบ้านมั่นคงชุมชนชนบทบ้านปางแดงนอกอีกด้วย

ล่าสุด นางสาวสุรารักษ์ ใจวุฒิ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการโครงการบ้านมั่นคงชุมชนบ้านปางแดง เปิดเผยว่า ขณะนี้ การดำเนินการสร้างบ้านมั่นคงให้กับพี่น้องชาวบ้านปางแดงได้เสร็จสิ้นแล้ว และทางคณะกรรมการโครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง จึงได้ตกลงกันว่าจะจัดให้มีงานขึ้นบ้านใหม่ “บ้านมั่นคงชุมชนบ้านปางแดง” ขึ้น เพื่อเผยแพร่แนวทางการแก้ปัญหาชุมชนบ้านปางแดง อันเกิดจากความร่วมมือทุกภาคส่วนให้เป็นที่รับรู้สร้างความเข้าใจและเป็นยอมรับต่อสาธารณชนโดยทั่วไป

“โดยพิธีขึ้นบ้านใหม่ ‘บ้านมั่นคงชุมชนบ้านปางแดง’จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 ธ.ค.นี้ ณ พื้นที่บ้านมั่นคงชุมชนบ้านปางแดง หมู่ 9 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยในช่วงเย็นวันที่ 11 จะมีขบวนแห่วิถีชนเผ่า เปิดงาน แล้วล้อมวง ฮมบม รับประทานอาหารบนลานดิน และมีการแสดงวัฒนธรรมชนเผ่า ส่วนในวันที่สองของงาน จะมีทำพิธีขึ้นบ้านใหม่ตามหลักความเชื่อของแต่ละศาสนาไปพร้อมๆ กัน จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าว และหากผู้ใดประสงค์จะพักค้างคืนในหมู่บ้านหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-6540496 นี้” นางสาวสุรารักษ์ กล่าว
 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net