Skip to main content
sharethis

“ชวนนท์” ยัน กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยกล่าวหา “ศิวรักษ์” จัดฉาก ปฏิเสธไม่มีอะไรซ่อนเร้น โยน คำรบ ตัดสินใจแจงข้อเท็จจริงสาธารณะ ระบุทั้ง “ศิวรักษ์-คำรบ” เป็นผู้บริสุทธิ์ ต่างได้รับผลกระทบจากการเมือง ยืนยัน “คำรบ” เสียใจมากที่ศิวรักษ์ถูกจับ เพราะเป็นเพื่อนกันที่กัมพูชา

 

ศิวรักษ์ถึงไทยแล้วยืนยันไม่ได้จัดฉาก
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (14 ธ.ค.) นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัท แคมบอเดีย ทราฟฟิค เซอร์วิส หรือ แคทส์ ซึ่งได้รับอิสรภาพหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์นโรดมสีหมุนีแห่งกัมพูชา กรณีถูกศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกฐานจารกรรมข้อมูลการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงประเทศไทยด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบินที่พีจี 0934 จากกรุงพนมเปญ พร้อมด้วยนางสิมารักษ์ มารดา นายพงษ์สุรีย์ ชุติพงษ์ น้องชาย นายพร้อมพงศ์ โฆษก พรรคเพื่อไทย และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้แก่ พล.ต.ศรชัย มนตรีวัต นายไพจิต ศรีวรขาน นายชวลิต วิชยสุทธิ์ และ น.ส.มธุรสนา อินทวงศ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล
 
โดยมีนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่งต้อนรับ ขณะที่ น.ส.มธุรสนาที่มาในเที่ยวบินเดียวกันได้เลี่ยงออกอีกทางหนึ่ง
 
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นการจัดฉาก วิศวกรไทยกล่าวว่า "ไม่รู้ว่าเอาอะไรคิด ชีวิตคนติดคุกไม่ใช่เรื่องตลก ถ้าลูกหลานติดคุกต่างแดน คุณจะไม่หาทางช่วยลูกตัวเองหรืออย่างไร เราก็ช่วยทุกทาง ทราบว่าแม่ก็ติดต่อทั้งกระทรวงต่างประเทศ และพรรคเพื่อไทย"
 
จากนั้นนายศิวรักษ์ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า รู้สึกว่าตัวเองเป็นเหยื่อ และอยากให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการสถานทูตไทยในกัมพูชาออกมาพูดความจริง ก็จะทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร เพราะเวลานี้ยังไม่มีการติดต่อใดๆ กันเลย
 
เมื่อถามว่า ตั้งแต่ทำงานมาเคยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของไทยเคยมาขอข้อมูลหรือไม่ นายศิวรักษ์กล่าวว่า ไม่เคย แต่รู้จักนายคำรบเพราะเป็นรุ่นพี่ของเพื่อนนาน 2 ปี ไม่ได้รู้จักในหน้าที่การงานที่ทำ รู้จักกันมานาน 2 ปีแล้ว ถ้ามีโอกาสเจอหน้า ก็อยากจะถามเขาเหมือนกัน ว่าเอาข้อมูลไปทำอะไร 
 
เมื่อถามว่าการเข้ามาช่วยเหลือของคุณทักษิณ ถูกมองว่าเป็นเกมทางการเมือง นายศิวรักษ์กล่าวว่า คงจะไปห้ามฝ่ายที่คิดอย่างนั้นไม่ได้ "ผมยังยืนยัน ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง และสาเหตุหลักที่เป็นปัญหาคือ คนที่โทร.มาคือนายคำรบ เป็นเลขานุการเอก ทางรัฐบาลกัมพูชาก็เลยโยง เลยมองไปเป็นประเด็นว่านายคำรบมีเจตนาจะปองร้ายอะไรหรือไม่ แต่ตอนที่คุยกับนายคำรบ ผมไม่ได้สนใจในประเด็นดังกล่าวเลย เพื่อนผมก็มาถามข้อมูลการบินของท่านทักษิณ ซึ่งผมก็มองเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆ ทุกคนก็อยากจะทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างไรบ้าง"
 
นายศิวรักษ์กล่าวว่า ช่วงนั้นนายคำรบถามว่าเป็นเครื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ก็บอกเลยว่า เท่าที่ทราบมีเครื่องบินวีไอพีลงจอด แต่ไม่ทราบว่ามีใครอยู่ข้างใน แต่เป็นการบอกหลังจากเครื่อง พ.ต.ท.ทักษิณลงจอดแล้วนาน 20 นาที
 
ขณะที่นางสิมารักษ์กล่าวว่า ฮุน เซน เรียกนายศิวรักษ์ว่าหลานทุกคำ และก็ยินดีที่จะให้กลับไปอยู่ในกัมพูชาต่อ หากจะกลับไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นหมากเป็นเกมของใครบางคน แต่ทุกวันนี้ ครอบครัวไม่เคยคิดร้ายกับใคร มันอาจจะเป็นความพลาดพลั้งไปที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
 
 
เลขาฯ “กษิต” ยัน กต. ไม่เคยกล่าวหา “ศิวรักษ์” จัดฉาก
เมื่อเวลา 17.40 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ แถลงข่าวภายหลังจากที่นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ เดินทางถึงสุวรรณภูมิพร้อมระบุขอให้นายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ออกมายืนยันข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนายชวนนท์ว่า มีความชัดเจน จากการให้สัมภาษณ์ของนายศิวรักษ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า ทั้งนายคำรบและนายศิวรักษ์เข้าใจว่าเป็นการสอบถามข้อมูล แค่เพียงว่าเครื่องบินลงจอดแล้วก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดกฎหมาย ตนคิดว่าเรื่องนี้ ทั้งนายคำรบและนายศิวรักษ์ต่างได้รับผลกระทบไปไม่มากไม่น้อยไปกว่ากัน
 
“ในแง่ของคุณคำรบก็โดนประกาศเป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของกัมพูชา ผมคิดว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมามีการพัฒนาโดยยืนยันตลอดว่า เป็นการสอบถามเรื่องการลงจอดของเครื่องบินเท่านั้น ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติก็ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่เนื่องจากศาลกัมพูชาตัดสินไปแล้ว เราก็ให้การยอมรับดุลพินิจของศาลกัมพูชา สิ่งที่คุณคำรบและกระทรวงฯ ดำเนินการก็ได้ชี้แจงก็ตรงกัน เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรซ่อนเร้นและไม่มีอะไรที่คุณคำรบต้องออกมาชี้แจงเพิ่มเติมในตอนนี้” นายชวนนท์กล่าว
 
เมื่อถามว่าดูเหมือนนายศิวรักษ์ต้องการให้นายคำรบออกมาพูดเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การจัดฉาก นายชวนนท์ กล่าวว่า กระทรวงเราไม่เคยพูดว่าเรื่องนี้มีการจัดฉาก เราดำเนินการช่วยเหลือนายศิวรักษ์ตั้งแต่วันแรกอย่างเต็มที่ และเห็นใจคุณแม่ และมีการช่วยเหลือมาตลอดเพราะฉะนั้น เป็นการจัดฉากหรือไม่ ตนไม่เคยกังวล และในส่วนของรัฐบาลเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญในส่วนนั้น
 
เมื่อซักว่าอย่างน้อยนายคำรบก็เป็นผู้โทรศัพท์ไปสอบถามนายศิวรักษ์ด้วยตนเองจริงเมื่อครั้งเหตุการณ์ที่กัมพูชา นายชวนนท์กล่าวว่า “จริงครับ คุณคำรบก็เคยเล่าให้ผู้ทีเกี่ยวข้องฟัง แต่อย่างที่เรียนว่าเรื่องนี้การปฏิบัติการของคนทั้งคู่เมื่อวันนั้น ทั้งคู่ก็ไม่ได้คิดว่าทำอะไรที่ผิดหลักกฎหมาย เพราะเพียงแต่ได้ถามว่าเครื่องบินได้ลงจอดจริงตามรายงานหรือไม่ เป็นกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของนายคำรบเท่านั้นเองก็คิดว่าทั้งคุณศิวรักษ์และคุณคำรบคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย”
 
 
โยน “คำรบ” ตัดสินใจแจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ
ต่อข้อถามว่าในเมื่อเป็นเรื่องจริง จะให้นายคำรบออกมาพูดต่อสาธารณะ ได้หรือไม่ นายชวนนท์กล่าวว่า ผมคิดว่าในเมื่อเป็นเรื่องจริง ก็รับทราบอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไรที่ซ่อนเร้น คุณคำรบจะพูดหรือไม่พูดก็ไม่ได้สร้างความแตกต่าง ถ้าบอกให้คุณคำรบออกมาพูดก็เป็นคำพูดเดียวกันกับที่คุณศิวรักษ์ได้พูด และเป็นเรื่องที่ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องอะไรผิดกฎหมาย
 
“ผมว่าประเด็นไม่ได้อยู่ที่คุณคำรบออกมาพูดหรือไม่พูด เพราะเนื้อหาสาระต่างๆ ก็เป็นที่เข้าใจกันหมดแล้ว ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มีเรื่องของการเมืองเข้ามาแทรกแซงมากพอสมควร เราต้องเห็นใจคุณคำรบ เคารพในสิทธิของเจ้าหน้าที่กระทรวงกาต่างประเทศด้วยนะครับที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในสถานทูตไทยในต่างประเทศ เพราะฉะนั้น วันนี้ ก็ต้องเคารพสิทธิ คุณคำรบจะออกมาพูดหรือไม่พูดอย่างไร ก็ต้องให้คุณคำรบเป็นคนตัดสินใจ ไม่ได้มีอะไรปิดบังซ่อนเร้น ทุกอย่างเปิดเผยมาตลอด”นายชวนนท์กล่าว
 
เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่านายคำรบ ไม่น่าจะดำเนินการได้เองและต้องมีคนสั่งการ นายชวนนท์ กล่าวว่า ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากในการยกหูโทรศัพท์ไปถามว่าเครื่องบินลงจอดหรือยัง ไม่ต้องการคำสั่งจากใคร ไม่ต้องการอำนาจพิเศษในการดำเนินการอยู่แล้ว เป็นการสอบถามคนรู้จักและเป็นข้อมูลเปิดทั่วๆไป เชื่อว่าทุกวันนี้เราก็สามารถยกหูไปสอบถามที่สุวรรณภูมิได้ว่าเครื่องบินใครมาจอดแล้วและไม่จอดแล้วบ้าง
 
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีการสั่งห้ามไม่ให้นายคำรบโทรไปหาแม่นายศิวรักษ์หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่าการประสานงานช่วยเหลือไม่ได้อยู่ที่ว่านายคำรบจะเป็นคนเข้าไปช่วยเหลือหรือไม่ เพราะนายคำรบได้ทำหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ผู้ที่เข้าไปดูแลนายศิวรักษ์และครอบครัว ก็คือกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนที่มีการบอกว่าทำไมนายคำรบไม่เคยติดต่อประสานงานไปนั้น ตนยืนยันว่า ตั้งแต่วันแรกๆ อธิบดีและรองอธิบดีกรมการกงสุลและเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ที่เกี่ยวข้องก็เข้าไปดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดี ก็ไม่ไม่แตกต่างกัน
 
 
ยืนยัน “คำรบ” เสียใจ เพราะเป็นเพื่อนกันที่กัมพูชา
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา นายคำรบได้แสดงความเห็นใจนายศิวรักษ์หรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า ผมคิดว่าต้องเห็นใจทั้งสองฝ่าย คิดว่าตอนนั้น การติดต่อประสานงานกลับไปยังกัมพูชาของคุณคำรบในตอนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายนักเพราะวันนั้น ช่วงแรกๆ จำได้ว่า เรายังติดต่อกับคุณศิวรักษ์ไม่ได้ด้วยซ้ำไปว่าอยู่ทีไหน แต่ว่าสองวันหลังจากนั้น พอได้เบอร์คุณแม่ของคุณศิวรักษ์แล้ว ก็ให้อธิบดีและรองอธิบดีกรมการกงสุลประสานกับคุณแม่และติดต่อซึ่งวันนั้น ต้องดูว่าใครเหมาะสมในการเข้าไปช่วยเหลือ และผมเชื่อว่าคุณครบไม่สามารถติดต่อคุณศิวรักษ์ได้ง่ายๆ ในเรือนจำแน่นอน
 
“คุณคำรบมีความเสียใจมากแน่นอน คุณคำรบก็ได้รับผลกระทบ เพราะจากที่เป็นเพื่อนที่รู้จักกันอย่างดี เป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่กัมพูชา เพราะฉะนั้น การดำเนินการของทั้งคู่ไม่คิดว่ามีเรื่องใดที่ผิดต่อกฎหมาย ทั้งคู่ก็ได้รับผลกระทบจากการเมืองในเรื่องนี้อย่างแรงพอสมควร ทั้งคู่ก็มีความเสียใจ คุณคำรบก็มีความเสียใจแน่นอน คุณคำรบก็ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเองและยืนยันในความบริสุทธิ์ของคุณศิวรักษ์มาตลอด เรื่องนี้ต้องเข้าใจในส่วนของผู้ที่ได้ผลกระทบโดยตรงทั้งสองฝ่าย” นายชวนนท์กล่าว
 
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความยินดีที่นายศิวรักษ์และมารดาเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยอย่างปลอดภัยและยินดีต้อนรับนายศิวรักษ์กลับสู่บ้านเกิดและหวังว่าต่อไปนายศวิรักษ์จะได้พบกับครอบครัวและได้พักผ่อน หลังจากที่ต้องถูกจองจำในกัมพูชาเป็นเวลา 32 วัน และคิดว่าเหตุการณ์ต่อไปนี้ น่าจะมีแนวโน้มในทางที่จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net