Skip to main content
sharethis
 
 
20 ธ.ค.52 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตเตอร์ข้อความ ถึงกรณีที่พล.อ.สุรยุทธ์ระบุว่าพร้อมพูดคุยด้วยเพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง โดยข้อความแรกระบุว่า "ฟังคำสัมภาษณ์คุณสุรยุทธ์แล้วไม่แน่ใจว่าพูดเองหรือได้รับอนุญาต?  วันนี้สังคมไทยขัดแย้งกันมามากเกินไปแล้ว reconcilation เป็นเรื่อง long overdue" "มันเกินกว่า จะเป็นเรื่องของผมคนเดียวแล้ว จริงอยู่ผมอาจเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง แต่ขอให้ใจกว้าง และมองภาพกว้างของความเกี่ยวพันในความขัดแย้งที่เกิด" และ "ผมคุยกับท่านในฐานะรุ่นน้องที่พูดกับรุ่นพี่ และเป็นพลร่มเหมือนกันในระหว่างที่พี่เป็นนายกฯถึง 2ครั้ง  ว่า สมานฉันท์เปรียบเสมือนปรบมือข้างเดียวไม่ดัง"
 
"มาร์ค" เตือนอย่าใช้รุนแรงต่อรอง
เว็บไซต์มติชน รายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อเวลา 09.30 น. ถึงกรณีเดียวกันนี้ว่า "ได้อ่านหนังสือพิมพ์เหมือนกับท่านตอบคำถามว่าหากคุณทักษิณโทร.มาคุยด้วยจะคุยหรือไม่ ท่านตอบว่าก็คุย ที่อ่านข่าวทราบว่า พล.อ.สุรยุทธ์ตอบคำถามแค่นี้"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่ทุกครั้งที่มีการส่งสัญญาณเจรจาแบบนี้ อาจจะเกิดความรุนแรงกับประเทศตามมา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า อาจจะมีความคิดกับตัว พ.ต.ท.ทักษิณเอง หรือคนอื่นว่าการที่เอาความรุนแรงมาขู่ เพื่อที่จะใช้เป็นอำนาจในการต่อรอง คิดในลักษณะนักต่อรองเพื่อผลประโยชน์ ก็อาจมีแนวคิดของคนรอบๆ ตัว ก็เป็นได้ แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่ผลประโยน์ส่วนตัวของตนหรือของรัฐบาล หรือใคร แต่เป็นเรื่องหลักของประเทศ และยิ่งไปทำความเสียหายกับประเทศ ยิ่งเป็นการปิดทางในการที่จะให้มีข้อยุติในเรื่องของการเจรจาหรืออะไรได้ ก็อยากให้ไปทบทวน ถ้าใครไปรับคำแนะนำจากใคร หรือมีกรอบความคิดอย่างนี้อยู่
 
"นพดล"เผย"ทักษิณ"พร้อมเจรจา
ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ขอพูดในนาม พ.ต.ท.ทักษิณ โดยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ได้โทรศัพท์คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และขอเรียนว่าเมื่อครั้งที่ พล.อ.สุรยุทธ์เป็นนายกฯหลังการยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณไป พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์หา พล.อ.สุรยุทธ์ 2 ครั้ง ระบุว่าพร้อมร่วมมือพูดคุยกับฝ่ายต่างๆ ในสังคมที่สุมหัวหรือร่วมมือกันยึดอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณไป แต่ต้องไม่มีการกลั่นแกล้งกันทางการเมือง

"ดังนั้นที่ พล.อ.สุรยุทธ์เสนอพร้อมเป็นตัวกลางเจรจานั้น พ.ต.ท.ทักษิณยินดีที่จะพูดคุย แม้จะโดนคดีความต่างๆ ก็พร้อม หากการพูดคุยจะทำให้การเดินหน้าของบ้านเมืองเดินต่อไปได้ แต่มีข้อแม้ว่าการพูดคุยต้องจริงจัง และจริงใจ เพราะคนที่รักประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง หรือประชาชนสีอะไรก็แล้วแต่ที่รักประชาธิปไตย ที่ไม่ชอบการยึดอำนาจ ไม่ชอบ 2 มาตรฐาน ไม่ชอบการเล่นพรรคเล่นพวก ที่สงสารอดีตนายกฯทักษิณ เขาไปไกลเกินว่าที่ท่านจะมาหลอก" นายนพดลกล่าว

เงื่อนคุยต้องย้อนไปก่อน19ก.ย.
นายนพดลกล่าวอีกว่า หากมาแสดงยื่นไมตรีมาอย่างไม่จริงใจแล้ว หากไม่รีบพูดคุยกัน มีสุภาษิตที่ฝากไปถึงฝ่ายอำมาตย์ว่า ถ้าความยุติธรรมไม่มี สามัคคีไม่เกิด และตราบใดยังใช้ 2 มาตรฐาน บ้านเมืองก็จะแตกแยก สำหรับปีใหม่นี้ สุภาษิตนี้ยังใช้ได้อยู่ พ.ต.ท.ทักษิณจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข เพื่อให้ทรงพอพระทัย เพราะบ้านเมืองสงบสุข ทุกคนเดินหน้าต่อไปได้ ตอนนี้ พล.อ.สุรยุทธ์พูดชัดเจนว่าบ้านเมืองแตกแยก มีปัญหาทางการเมือง ต้องหาทางออก การพูดคุยกันเท่านั้นที่จะหาทางออกได้
"พล.อ.สุรยุทธ์จะติดต่อมาที่ตนหรือติดต่อไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยินดีพูดคุย แต่หลักการพูดคุยต้องให้บ้านเมืองย้อนกลับไปก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 ต้องมีรัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม ต้องเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่เอาข้อกล่าวหาไปถาโถมให้โดยที่ไม่เป็นธรรม ต้องพิจารณาที่ไปตั้ง คตส.แล้วเอาคนที่เป็นศัตรูมาสอบสวนเรื่องราวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ทุกส่วนมีความมั่นใจ" นายนพดลกล่าว

ระบุรธน.50 ทายาทอสูร"คมช."
นายนพดลกล่าวว่า "พ.ต.ท.ทักษิณฝากขอบคุณ พล.อ.สุรยุทธ์ที่ได้ระบุว่าพร้อมจะเจรจา ดีใจที่รู้ว่าบ้านเมืองมีปัญหา แต่การพูดคุยต้องจริงจัง จริงใจ บรรลุถึงความเป็นธรรมอย่างแท้จริง"

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นธรรม และพิจารณาทบทวนถึงการตั้ง คตส. หมายความว่า คดีทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ต้องล้มเลิก นายนพดลกล่าวว่า จริงๆ ไม่อยากจะกำหนดเงื่อนไขตอนนี้ เพราะอาจไม่มีการพูดคุยกัน แต่ต้องคำนึงถึงด้วย ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญ 2550 เป็นทายาทอสูรของ คมช. เป็นรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย หากฝ่ายยึดอำนาจยังเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2550 ยังดีอยู่มันก็ป่วยการที่จะพูดคุยกัน คิดว่ารัฐธรรมนูญ 2540 จะเป็นคำตอบได้ ส่วนคดีความต่างๆ เช่น คดีที่ดินรัชดาฯนั้น พล.อ.สุรยุทธพูดชัดเจนว่าบ้านเมืองมีปัญหา ต้องช่วยกันหาทางออก พ.ต.ท.ทักษิณก็พร้อมที่จะช่วยกันหาทางออก

ชี้ทางออกใช้รธน.40-ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่
เมื่อถามว่า ต้องไม่มีเรื่องคดีความหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมต่อกัน เพราะไม่มีที่ไหนในโลกที่จะเอาศัตรูมาสอบสวนอีกฝ่ายหนึ่ง และคดีนี้เกิดขึ้นหลังยึดอำนาจที่ขัดต่อหลักประชาธิปไตย เมื่อถามว่าถ้าการเจรจามีผล ยืนยันได้หรือไม่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะสั่งให้เสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวได้ นายนพดลกล่าวว่า ถ้าเจรจาพูดคุยกันได้ มีทางออกทุกฝ่ายยอมรับ มันมี 3 ข้อต้องจำเป็นอยู่ในการเจรจาด้วย คือ

1.มีรัฐธรรมนูญ 2540 หรือมีเนื้อหาใกล้เคียงมาประกาศใช้
2.ยุบสภา และ
3.มีการเลือกตั้งใหม่ อีกทั้งทุกฝ่ายทุกสีต้องให้สัตยาบันร่วมกันว่า ต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง และไม่ไปดำเนินการใดๆ นอกสภาที่จะทำให้การบริหารราชการแผ่นดิน หรือการบริหารประเทศเดินไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นมันก็วนกลับมาเหมือนเดิมใช่หรือไม่

ขู่รบ.การเมืองใกล้เวลาระเบิด
“ผมไม่สามารถพูดแทนคนเสื้อแดงได้ แต่คิดว่าถ้ามีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย มีความเป็นธรรมให้ฝ่ายเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่วิธีเดียวที่จะให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ คือทุกคนต้องยอมรับผลการเลือกตั้งนั้น ตอนนี้ไม่ใช่สุญญากาศทางการเมืองนะ แต่เป็นคุกรุ่นทางการเมือง มันเหมือนภูเขาไฟที่รอวันระเบิด เหมือนระเบิดเวลาที่รอระเบิด ขอเตือนรัฐบาลอีกนิดว่า อย่าประเมินศักยภาพของฝ่ายที่รักประชาธิปไตยต่ำเกินไป เพราะการกดขี่ข่มเหงที่รัฐบาลทำทุกวี่ทุกวัน มันเป็นการเพิ่มกระแสพลังของฝ่ายที่เรียกร้องประชาธิปไตยให้มีมากขึ้น”Ž นายนพดลระบุ

ย้ำเจรจาต้องคืนสู่สถานะเดิม
เมื่อถามว่า 3 ข้อที่เป็นเงื่อนไขการเจรจามันมากเกินไปหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า การเจรจาต้องกลับคืนสู่สถานะเดิม เพราะฝ่ายยึดอำนาจเป็นคนกระทำ บ้านเมืองจึงไม่สงบมาถึงทุกวันนี้ การไล่ล่า การล้างแค้นกันไม่ควรมี เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถ้าเราบรรลุความปรองดอง สมานฉันท์ ทุกฝ่ายยอมรับได้ก็ควรยุติเพียงแค่นั้น แล้วทุกอย่างให้ว่ากันตามกฎหมาย โดยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย มีองค์กรที่ตัดสินชี้ขาดตัดสินคดีตามข้อเท็จจริงและกฎหมาย

เมื่อถามว่า ผลการเจรจาสำเร็จ พ.ต.ท.ทักษิณก็ยุติบทบาททางการเมือง นายนพดลกล่าวว่า อย่าลืม พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า ไม่ประสงค์จะกลับมาเป็นนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่เด็กดื้อ เป็นผู้ใหญ่ที่รับฟัง พร้อมที่จะคุยกับทุกฝ่าย ส่วนจะยุติบทบาททางการเมืองโดยสิ้นเชิงหลังเจรจา นายนพดลกล่าวว่า "ไปพูดคุยในช่วงเจรจาก็แล้วกัน จะพูดตอนนี้แทนเลยก็กระไรอยู่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่คนดื้อที่จะดันทุรัง คิดว่าถ้าได้ข้อยุติความปรองดองในชาติทุกเรื่องแล้ว คิดว่าคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณได้"

พรรคการเมืองใหม่บอกแม้วต้องรับโทษก่อนคุย
วันเดียวกัน นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวว่า กรณี พล.อ.สุรยุทธ์จะเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พรรคไม่ขัดข้องหากมีการเจรจาสมานฉันท์เพื่อทำให้บ้านเมืองสงบสุข แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานการเคารพกฎหมายบ้านเมือง นั่นคือ พ.ต.ท.ทักษิณต้องมารับโทษที่ศาลได้ตัดสินจำคุกไปแล้วก่อน พรรคเข้าใจว่า พล.อ.สุรยุทธ์พูดไปตามหลักกว้างๆ ไม่ได้พูดเพื่อจะสร้างกระบวนการเจรจาสมานฉันท์ เพราะเป็นองคมนตรี สรุปว่า ตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่มีจิตสำนึกที่จะมารับโทษทัณฑ์ตราบนั้นการเมืองไทยยากที่จะมี "จุดเริ่มต้น" ของการสมานฉันท์
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net