Skip to main content
sharethis

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงกว่า 20 คน นำโดยนายวิฑูรย์ บัวโรย ประธานกลุ่มฯ ได้เดินทางเข้าพบ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร้องเรียนเรื่องการบุกรุกที่ป่าสงวนและการถูกข่มขู่คุกคามพร้อมทั้งเรียกร้องให้ รมต.ลงพื้นที่

ด้านนายพีระพันธุ์ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ชาวบ้านทราบข่าวว่ากระทรวงยุติธรรมได้ปรับการทำงานมาเป็นเชิงรุก จึงรวมตัวกันมาร้องขอความเป็นธรรม ในกรณีนี้เบื้องต้นพบว่ากลุ่มนายทุนได้เข้าบุกรุกพื้นที่เขตวนอุทยานใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรมที่ดินได้ตั้งกรรมการตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกจริง แต่ยังไม่มีการดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ ตลอดเวลาที่ชาวบ้านรวมตัวคัดค้านเพื่อปกป้องประโยชน์ของประเทศชาติตั้งแต่ปี 35 กลับถูกข่มขู่คุกคาม เมื่อไปแจ้งความตำรวจก็ไม่สนใจ มิหนำซ้ำผู้ที่แจ้งความได้รับการแต่งตั้งเป็น กต.ตร.ของโรงพักที่เกิดเหตุ จึงทำให้มีอิทธิพลเหนือตำรวจ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมจะพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป

จากนั้นจึงเดินทางไปที่กรมที่ดิน เพื่อติดตามกรณีการตั้งคณะกรรมการเพื่อเพิกถอนเอกสารสิทธิ์จำนวน 52 แปลงที่รุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองแม่รำพึง, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมโยธาธิการและผังเมืองและที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้เราสามารถไปได้หลายหน่วยงานและทุกหน่วยงานก็ให้การต้อนรับและยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านเป็นอย่างดี ส่วนที่มากันน้อยก็เพื่อความคล่องตัวและสามารถไปได้หลายที่ในเวลาที่ค่อนข้างจำกัด และกรณีการมายื่นหนังสือที่ สผ.ในครั้งนี้เพื่อขอให้ทาง สผ. ออกคำสั่งการยุติการประชาสัมพันธ์หรือมีคำสั่งให้เรียกเก็บร่างแผนปฎิบัติการป้องกันแก้ไขและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ของโครงการโรงถลุงเหล็กสหวิริยาที่พิมพ์แจกจ่ายชาวบ้านในอำเภอบางสะพานไปทั่ว

"เราเห็นว่าร่างรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทยังอยู่ในระหว่างการเสนอและรวบรวมข้อเสนอเพิ่มเติม รวมทั้งข้อมูลดังกล่าวยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ โดยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งต้องทำการวิเคราะห์รวบรวมและจัดทำเพิ่มอีกหลายครั้ง จึงเป็นข้อมูลข่าวสารที่ยังไม่เป็นที่ยุติสามารถเปลี่ยนแปลงได้อีกจึงไม่สมควรเปิดเผยเป็นการทั่วไป" นายวิฑูรย์ กล่าวและว่า ตามการวินิจฉัยการมิให้เปิดเผยข้อมูลของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรมและเกษตรกรรม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และที่น่าแปลก คือ การแจกหนังสือเล่มดังกล่าว ชาวบ้านต้องแลกด้วยลายเซ็นพร้อมหมายเลขบัตรประชาชนซึ่งก็ไม่ทราบว่าจะนำลายเซ็นและหมายเลขบัตรไปทำไม
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net