เสื้อแดงชุมนุมเขายายเที่ยง โจมตีถึงเขาสอยดาว ‘สุรยุทธ์’ ยินดีคืนที่แต่ไม่ลาออก

11 ม.ค.53 กลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางร่วมชุมนุมที่บริเวณบ้านพักเขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี คืนที่ดินจำนวน 21 ไร่ และเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี เพื่อแสดงความรับผิดชอบ โดยความเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าจนทำให้ถนนทางขึ้นติดขัด มีการนำรถยนต์โดยสารขนาด 6 ล้อมาคอยบริการรับส่งผู้ชุมนุมขึ้นไปบนเขายายเที่ยง จากปากทางไปจนถึงจุดตั้งเวทีปราศรัยชุมนุม หน้าบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์ ประมาณ 14 กิโลเมตร รวมทั้งมีการตั้งด่านตรวจเพื่อป้องกันกลุ่มมือที่ 3 สร้างสถานการณ์ มีการปราศรัยของแกนนำตลอดทั้งวัน โดยระบุว่าจะไม่มีการบุกเข้าไปในบ้านพักอย่างแน่นอน คาดว่าจะยุติการชุมนุมในช่วงเช้า และจะมีการเปิดบ้าน “สองมาตรฐาน” และปลูกป่าก่อนแยกย้ายกลับ ส่วนกรณีที่อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง พล.อ.สุรยุทธ์นั้น นายจตุพร พรหมพันธ์ หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า ได้ให้ทีมกฎหมายพิจารณาข้อกฎหมายว่าการตัดสินของอัยการมีความชอบธรรมหรือไม่ หากพบว่าตัดสินไม่ถูกต้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับอัยการที่เกี่ยวข้อง

 
สุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน และอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามดำเนินคดีกับสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เนื่องจากข้อมูลทั้งหลายชี้ชัดว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และท่านผู้หญิงจิตราวดี จุลานนท์ได้ถือครองที่ดินในเขตป่าสงวนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และสร้างบ้านพักขึ้น ซึ่งเป็นการละเมิด มาตรา 14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 9 ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และ 362 หากแต่ยังไม่มีการดำเนินคดีใดสำหรับการละเมิดที่ชัดเจนครั้งนี้ ขณะที่ในช่วงหลายปีมานี้ คนยากคนจนจำนวนมากถูกดำเนินคดีเนื่องจากการละเมิดแบบเดียวกัน
เวลาประมาณ 21.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีวีดิโอลิงก์มายังที่ชุมนุม โดยกล่าวชื่นชมสปิริตของคนเสื้อแดงที่มาร่วมกันอย่างเนืองแน่น เหตุที่ต้องบุกมาขนาดนี้เพราะทนไม่ไหวต่อความไม่ยุติธรรมในบ้านเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ได้ร่วมฟังเวที นปช.ที่พัทลุง ชาวบ้านบอกว่าคนใต้ทนไม่ไหวแล้วจะออกมาเรียกร้องความยุติธรรมเหมือนเสื้อแดงเช่นกัน
 
เขากล่าวว่า เดือนเมษายนเขาได้พูดถึงคำพูดของมหาตมะคานธี ว่าจะสู้ด้วยความจริง และจะสู้เพื่อความรัก การขึ้นมาวันนี้ของคนเสื้อแดงต้องการเอาความจริงมาเปิดเผยให้ชัดๆ และจะเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกันต่อสู้ไปเรื่อยๆ จนความจริงปรากฏ ที่เลวร้ายที่สุด คือ การพยายามที่จะอิงสถาบัน ใช้สถาบันมาปกป้องความชั่วร้ายของตัวเอง ถือเป็นการไม่จงรักภักดีอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังกล่าวถึงสื่อด้วยว่า สื่อไม่มีความเป็นธรรม โดยเฉพาะสื่อทีวีของรัฐ ยิ่งกว่ายุคปฏิบัติเสียอีก สมัยเขาเป็นรัฐบาลเพียงแต่ใช้ช่อง 11 ประชาสัมพันธ์ไม่เคยใช้โจมตีใคร 
"สื่อมวลชนทั่วโลกเป็นกลาง แต่สื่อเราตกอยู่อำนาจความกลัว ถ้าเมื่อไหร่เป็นประชาธิปไตยต้องสังคายนาสื่อ โดยเฉพาะสื่อทีวีต้องเป็นบริษัทมหาชนให้หมด ไม่มีหุ้นใหญ่ ไม่งั้นไม่เป็นธรรม ปิดบังข่าวยิ่งกว่ายุคปฏิวัติ ลูกหลานโตขึ้นมาอีกหน่อยไม่มีทางฉลาด เพราะสื่อชักจูงให้ไม่รู้ความจริง"
ทักษิณยังกล่าวถึงการใช้กฎหมายเพื่อการเมืองไปหมดทุกอย่าง และอ้างถึงเพื่อนในอาเซียนซึ่งโทรมาให้ข้อมูลว่านายอภิสิทธิ์ กับนายกษิต นั้นเวลาคุยกับรัฐมนตรีประเทศอื่นๆ จะไม่พูดเรื่องความร่วมมือระหว่างกัน หากมุ่งเรื่องเดียวคือ ไล่ล่าตัวเขา ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย
“ถ้าเราให้รัฐบาลนี้บริหารประเทศต่อไป ไม่น่าจะเกิดผลดีต่อประเทศ กู้มาโกง ฆ่าตัดตอนรัฐมนตรีไปกี่คนแล้ว เพื่อต้องการที่จะให้ดูว่านายกฯ สะอาด ยังมีอีกเยอะที่รัฐมนตรีโกง”
“วันนี้ไม่เคยคิดว่าบ้านเมืองจะแย่ขนาดนี้ การที่เราต่อสู้กันโดยไม่คำนึงว่าเราคนชาติเดียวกัน จนระบบที่สร้างมาต้องพินาศลงไป สัญลักษณ์ที่เราต่อสู้กันนั้นจะเข้าใจบ้างไหม หรือจะเข้าใจว่าเสื้อแดงทำความรำคาญ ทำให้วุ่นวาย ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ เราต้องการประชาธิปไตยและความเป็นธรรม บ้านเมืองจะได้จบเสียทีกับความวุ่นวาย วางอนาคตให้ลูกหลานเราได้” เขากล่าวก่อนจะขอบคุณประชาชนและแกนนำคนเสื้อแดงในช่วงท้าย  
 
แรมโบ้อีสานคุ้ยการได้ที่ดิน สงสัย “ขาดเจตนา” พิจารณาจากข้อมูลใด
นายสุพร อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีต ส.ส.ไทยรักไทย กล่าวว่า เรื่องบ้านพักของพล.อ.สุรยุทธ์ บนเขายายเที่ยงนั้นความมาแตกเพราะพวกเดียวกันเองขัดแย้งกันเอง โดยการตรวจสอบของ น.ต.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ อดีตเลขาธิการนายกฯ สมัยพล.อ.เปรม ขณะที่ดำรงตำแหน่งประธานอนุกรรมการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยมีแถลงข่าวว่าพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และภรรยา บุกรุกที่ป่าสงวนบนเขายายเที่ยง โดยการตรวจสอบนั้นมีคณะทำงานในพื้นที่และกรมแผนที่ทหาร กรมที่ดิน กรมป่าไม้ พบว่า บ้านพักเขายายเที่ยงเกิดภายหลังการประกาศพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าอนุรักษ์ฯ จากนั้นกระทรวงทรัพยากรฯ ก็ได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ผลการตรวจสอบภาพถ่ายอากาศ ปี 2510 หลังประกาศเป็นป่าอนุรักษ์ 2 ปี ก็พบว่าป่าผืนนี้ยังไม่มีราษฎรเข้ามาทำกิน อีกทั้งที่พล.อ.สุรยุทธ์ เข้ามาครอบครองในปี 2545 ไม่เกี่ยวข้องกับมติ ครม. ที่เคยมีมาเพื่ออะลุ่มอะล่วยให้ราษฎรที่บุกรุกป่าออกมาจากป่าโดยจะสร้างหมู่บ้านป่าไม้ใหม่บริเวณป่าเสื่อมโทรม
สุพร ยังกล่าวถึงเอกสารของศูนย์ปฏิบัติการที่ดินป่าไม้ จังหวัดโคราช ซึ่งสรุปเขตชุมชนที่จัดให้ชาวบ้านอยู่อาศัย หรือทำกิน โดยมีผลสรุปออกมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ.50 ว่าบ้านพักของสุรยุทธ์ บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเตียนและป่าเขาเขื่อนลั่น จ.โคราช ซึ่งกำหนดเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ เมื่อ 2508 เพื่อการอนุรักษ์โซน C ตามมติครม.ปี 35 และอยู่ในพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำ 1B
“ข้างล่างตรงตีนเขาเขต 2B ยังติดคุก 10 ปี นี่จะติดคุกกี่ปี ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเอกสารจากราชการทั้งนั้น จะมีการรวบรวมให้จตุพร อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในเดือนกุมภาพันธ์นี้” สุพรกล่าว
สุพรยังอ้างอิงถึงข้อสรุปของจังหวัดนครราชสีมาในช่วงเวลาที่มีการตรวจสอบ ด้วยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อยู่ในเขตป่า สงวนแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 67 พ.ศ.2508 ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 เพราะผู้ครอบครองเข้ามาทำประโยชน์ปี 45 หลังมีมติครม.แล้ว และไม่ใช่เป็นผู้ครอบครองต่อเนื่อง
“ตั้งแต่พูดเรื่องนี้ มีนักวิขาการ เอ็นจีโอ คนรักป่า หายไปไหนหมด ไม่มีใครออกมาพูด ไม่มีใครออกมาปกป้องคนเสื้อแดง เพราะพวกนี้ถูกครอบงำโดยอำมาตย์หมดแล้ว” แรมโบ้อีสานกล่าว
แรมโบ้อีสานยังกล่าวถึงนายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ ผู้ที่ซื้อที่ดินจากนายเบ้า สินนอก ผู้ครอบครองดั้งเดิมด้วยว่า นายนพดลให้ข้อมูลว่าซื้อที่แปลงนี้เป็นเงินร่วมล้าน ต่อมาคนของแม่ทัพภาค 2 (พล.ท.สุรยุทธ์-ยศในขณะนั้น) เข้ามาติดต่อต้องการอยากได้ที่ดิน นายนพดลตัดสินใจให้โดยไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว
เขากล่าวด้วยว่า การซื้อขายที่ดินอย่างถูกต้องตรงตีนเขาซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักพล.อ.สุรยุทธ์ นับ 10 กม.ยังมีคนถูกศาลพิพากษจำคุกมาแล้วเพราะถือเป็นพื้นที่ป่าสงวน และแม้จำเลยยอมคืนที่ดินก็ต้องเสียค่าเสียหายในการปลูกป่าถึง 21 ล้านบาท นอกจากนี้เขายังตั้งคำถามถึงอัยการสูงสุดว่านำข้อมูลใดมาพิจารณาว่าพล.อ.สุรยุทธ์ขาดเจตนา เพราะคดียังผ่านชั้นตำรวจไปแต่อย่างใด
“ผมกับผู้นำชุมชนในท้องถิ่น ไปฟ้องพล.อ.สุรยุทธ์กับภรรยาว่ารุกป่า ศาลจังหวัดสีคิ้วบอกว่าต้องให้กรมป่าไม้มาแจ้งความเอง เพราะเป็นผู้เสียหาย แล้วเจ้าหน้าที่ของรัฐ กรมป่าไม้ไปแจ้งความตรงไหน อัยการสูงสุดถึงมีเรื่องนี้ในมือ ไปตรวจสอบที่โรงพักก็ไม่มีการแจ้งความของเจ้าหน้าที่ป่าไม้” สุพรกล่าว
 
จตุพร สาวยาวถึงสนามกอล์ฟเขาสอยดาว โยงใยธนาคารกรุงเทพ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ระบุถึงข้อมูลที่ผู้บริหารในธนาคารกรุงเทพ ร่วมกันเปิดบริษัทเพื่อทำสนามกอล์ฟสอยดาว ไฮแลนด์ โดยบุกรุกที่ป่าสงวนบนเขาสอยดาว รวมพื้นที่ 482 ไร่เศษ มูลค่า 64 ล้าน โเอกสารสิทธิ์ที่สนามกอล์ฟได้รับมาเนื้อที่ก็ไม่ตรงกันกับเลขที่ของโฉนดโดยกรมป่าไม้ลงไปสำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจาก พล.อ.เปรม เป็นองคมนตรี เป็นที่ปรึกษาธนาคารกรุงเท อีกทั้งวันเปิดสนามกอล์ฟวันที่เปิดสนามกอล์ฟ พล.อ.เปรมก็มาเป็นประธานเปิด
“นี่เป็นผ้ายันต์ว่าการบุกรุกไม่ต้องถูกดำเนินคดี ข้าราชการกรมป่าไม้เมื่อรู้ว่าใครเป็นเส้นใหญ่งานนี้ ถอยหมด ขนาดที่ว่าการอำเภอยังไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่นี่ออกเอกสารสิทธิ์ในป่าสงวนได้ เนื้อที่ก็มีลักษณะแปลกๆ การเข้าครอบครองใช้วิธีซื้อที่หลอกล่อจากชาวบ้านส่วนหนึ่ง จากพวกเดียวกันส่วนหนึ่ง เวลาเกิดเรื่องแถลงข่าวเหมือนกันแป๊ะว่า ถ้าผิดก็พร้อมคืน”
“สนามกอล์ฟ สอยดาว ไฮแลนด์ เป็นเรื่องใหญ่กว่าบ้านตากอากาศของพล.อ.สุรยุทธ์ เพราะเป็นใบเสร็จยืนยันว่าการเป็นประธานองคมนตรีสามารถเปิดสนามกอล์ฟในป่าสงวนได้ ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบได้ ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ต้องการอนุรักษ์ป่า อนุรักษ์ต้นน้ำ นี่ไม่ใช่การบุกรุกแบบราษฎรผู้ยากไร้ที่ทำเพื่อประทังชีวิต แต่บุกรุกเพื่อความสำราญในเขตป่า และความผิดก็ดำเนินคดีไม่ได้จนถึงทุกวันนี้” จตุพรกล่าว พร้อมทั้งระบุว่า พล.อ.เปรมเป็นต้นฉบับของคำว่า ผลประโยชน์ทับซ้อน
เขากล่าวด้วยว่า ที่ดินแปลงใหญ่มีราว 4,000 ไร่ พิสูจน์ได้ 3,000 ไร่ ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบเนื้อที่ 400 ไร่เศษ และอ กำลังจะออกเอกสารสิทธิอีกแปลงหนึ่ง
“คนอย่างสืบ นาคะเสถียร เขาก็เจอแบบนี้ ถ้าเขาไม่เอาชีวิตแลก ห้วยขาแข้งก็คงสภาพเหมือนเขาสอยดาว” จตุพรกล่าว
 
ณัฐวุฒิ เตรียมร่อนหนังสือถามความเห็นองคมนตรี
ณัฐวุฒิ  ใสยเกื้อ กล่าวว่า ถ้าไม่มีการชี้แจงจะทำหนังสือเปิดผนึกสอบถามไปยังองคมนตรีคนอื่นๆ ที่นั่งร่วมประชุมกับพล.อ.สุรยุทธ์ ด้วยว่าคิดเห็นต่อกรณีนี้อย่างไร
“นี่ไม่ใช่เรียกร้องเรื่องสองมาตรฐาน แต่มันเป็นการเยียวยาหัวใจของคนจนทั้งประเทศ หลายคนตายไปโดยไม่มีที่ดินทำกินของตัวเองซักตารางนิ้ว”
เขากล่าวด้วยว่า พรุ่งนี้จะเปิดบ้านสองมาตารฐาน ซึ่งมีอยู่ 3 หลัง และจะปลูกพันธุ์ไม้ที่เตรียมมานับพันต้น เพื่อซับน้ำตาให้ผืนป่า และคนเสื้อแดงรู้ดีว่าที่นี่เป็นสมบัติของชาติ ก่อนกลับจะเคลียร์พื้นที่ ดูแลความความสะอาด ความเรียบร้อยทั้งหมด
 
"สุรยุทธ์"ยินดีคืนที่"เขายายเที่ยง"แต่ไม่ลาออกองคมนตรี

อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์มติชนรายงานว่า ในช่วงเช้า พล.อ.สุรยุทธ์ ยังคงเก็บตัวเงียบภายในบ้านพักที่หมู่บ้านรอยัลกอล์ฟย่านลาดกระบัง และเวลา 10.00 น. พล.อ.สุรยุทธ์ มีกำหนดแถลงข่าวเรื่องการจัดมหกรรมดนตรีเพื่อชีวิตที่จะจัดขึ้นที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ในวันที่ 23 มกราคมนี้ ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ โดยในช่วงเช้า พล.อ.สุรยุทธ์ จะเดินทางเข้าร่วมประชุมคณะองคมนตรีประจำสัปดาห์ที่วังสรารมย์ โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานการประชุม ซึ่งคาดว่าการประชุมองคมนตรีอาจหยิบยกประเด็นการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่บริเวณเขายายเที่ยงมาหารือ โดยเฉพาะกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงให้ พล.อ.สุรยุทธ์ แสดงความรับผิดชอบลาออกจากองคมนตรี ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวคอนเสิร์ตเขาใหญ่ อาจจะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ถูกกดดันให้คืนสิทธิถือครองที่ดินบนเขายายเที่ยง
 
แหล่งข่าวใกล้ชิดของ พล.อ.สุรยุทธ์ เปิดเผยว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ยินดีคืนที่ดินเขายายเที่ยงให้กรมป่าไม้เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด เพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาแตกแยกกันมากกว่านี้ แต่เบื้องต้นต้องรอให้กรมป่าไม้ทำรายละเอียดแจ้งมาให้ทราบเสียก่อนว่าจะให้ทำอย่างไร ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ไปรวมตัวกันเรียกร้องอยู่ที่เขายายเที่ยงที่อยู่บริเวณหน้าบ้านพักของ พล.อ.สุรยุทธ์ นั้น พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถือเป็นสิทธิที่กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถทำได้

“พล.อ.สุรยุทธ์ สามารถทำตามข้อเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงได้เรื่องเดียว คือ การคืนที่ดินเขายายเที่ยงให้กับกรมป่าไม้เท่านั้น แต่เรื่องที่ให้ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีคงทำไม่ได้ เนื่องจาก พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่มีความผิดอะไรถึงขึ้นจะต้องลาออกจากตำแหน่งองคมนตรี ปัญหาเรื่องที่ดินกับตำแหน่งมันคนละเรื่อง อย่านำมารวมกัน เพราะจะทำให้สังคมเกิดความสับสน ทั้งนี้ มองว่าการชุมนุมของคนกลุ่มเสื้อแดงมีนัยทางการเมือง โดยพยายามนำเรื่องที่ดินที่เขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ มาเป็นประเด็น เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับกรณีที่ดินรัชดาฯ ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกคำพิพากษาของศาลฎีกาตัดสินจำคุก 2 ปี” แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าว

 
กรมป่าไม้มีมติตั้งกก.สอบกรณีสุรยุทธ์ ถือครองเขายายเที่ยงใน60วัน
 
กรมป่าไม้ได้มีการประชุมหารือด่วน ถึงการแก้ปัญหาการถือครองที่ดินบริเวณเขายายเที่ยงจังหวัดนครราชสีมาของ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี การถือครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีนายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธาน รวมทั้งนายชำนาญ เอกวัฒนโชตกูร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งข้าราชการทีเกี่ยวข้องของทั้งสองกรม เนื่องจากสำนักงานอัยการสีคิ้ว ได้มีหนังสือไม่ฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการหารือว่า จะมีมาตรการรับคืนที่ดินได้อย่างไร เนื่องจากจะมีผลเป็นมาตรการที่จะใช้การถือครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 45,000 ราย รวมที่ดินกว่า 5 ล้านไร่ สำหรับการหารือนี้ยังดำเนินต่อไปในลักษณะห้ามสื่อสารมวลชนเข้าร่วมรับฟัง

ข่าวแจ้งว่า การประชุมหารือแก้ปัญหาการถือครองที่ดินบริเวณเขายายเที่ยง ของกรมป่าไม้ มีมติตั้งคณะกรรมการสอบ กรณี ของ พลเอกสุรยุทธ จุลานนท์ ถือครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ภายใน 60 วัน ส่วนการคืนที่นั้น จะรอดูสำนวนจากศาลก่อน ส่วนคดีอาญาถือว่า จบแล้ว
 
นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ ประชุมร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาการถือครองที่ดินเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หลังอัยการจังหวัดสีคิ้วสั่งไม่ฟ้อง ทำให้คดีทางอาญาตกไป อย่างไรก็ตาม กรมป่าไม้จะนำสำนวนคดีมาพิจารณา เพื่อวิเคราะห์ดำเนินการตามมาตราปกครอง ได้แก่ การรื้อถอน การให้ออกจากพื้นที่ โดยจะทวงถามขอสำนวนจากอัยการสูงสุด และอัยการสีคิ้ว

ส่วนปัญหาการถือครองที่ดินของชาวบ้านและเอกชนในพื้นที่ป่าสงวนทั้งประเทศ ซึ่งมีปัญหากว่า 5 ล้านไร่ จะตั้งกรรมการร่วมเพื่อแก้ปัญหา นำกรณีที่ดินเขายายเที่ยง เขาเขื่อนลั่น ป่าเขาเตียง มาเป็นกรณีนำร่อง ให้เวลา 60 วัน ในการเสนอแนวทางต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท