Skip to main content
sharethis

แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2/2553 ค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หวั่นมีการสอดแทรก “รัฐไทยใหม่” เปลี่ยนแปลงพระราชอำนาจกษัตริย์ เรียกร้องประชาชนที่ลงมติรับรัฐธรรมนูญ 14 ล้าน 7 แสนคนออกมาต่อต้านการแก้รัฐธรรมนูญ “จำลอง” แนะรัฐบาลถ้าคนเสื้อแดงชุมนุมสุวรรณภูมิแล้วทำผิด ให้ใช้กฎหมายจัดการ 

เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้นัดประชุมกันที่บ้านพระอาทิตย์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง และประกาศเจตนารมณ์ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีการออก “แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2553 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง คำเตือนก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ” มีรายละเอียดดังนี้

 

แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2553

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เรื่อง คำเตือนก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

ตามที่พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลซึ่งนำโดยนักการเมืองที่ถูกเพิกถอนสิทธิในการเลือกตั้งตามคำวินิจฉัยของคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ และคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกอบไปด้วย นายบรรหาร ศิลปอาชา นายเนวิน ชิดชอบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ฯลฯ ได้ประชุมร่วมมือกันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 นั้น พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าวต่อไปนี้

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคยประกาศมาโดยตลอดว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 นั้นได้ผ่านการลงประชามติด้วยคะแนนความเห็นชอบจากประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ กว่า 14 ล้าน 7 แสนเสียง ซึ่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ใน 3 ประเด็นดังต่อไปนี้

1.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงหรือลดพระราชอำนาจและโครงสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับของสถาบันพระมหากษัตริย์

2.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดให้กับนักการเมืองและพวกพ้อง

3.คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนของนักการเมือง

ในขณะที่นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลทั้งที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนำโดยอดีตนักการเมืองที่ถูกเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งโดยคำวินิจฉัยของ ตุลาการรัฐธรรมนูญ ได้มีความพยายามในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 2 ประเด็น 7 มาตรา คือ 1.ระบบเลือกตั้งจากแบ่งเขตเรียงเบอร์เป็นเขตเดียวเบอร์เดียว และระบบบัญชีรายชื่อ ให้เป็นเหมือนในรัฐธรรมนูญ 2540 โดยจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราที่เกี่ยวข้องได้แก่ มาตรา 93, 94, 95, 98, 103 และ 109

2.จะแก้ไขมาตรา 190 ว่าด้วยการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา เพราะเห็นว่าเป็นปัญหาของฝ่ายบริหาร

ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ปรากฏเป็นข่าวครั้งนี้เป็นการแก้ไขเพื่อผลประโยชน์ ต่อพรรคการเมืองและรัฐบาลโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล ซึ่งไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนใดๆ ทั้งสิ้น และอาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง สอดแทรก มาตราอื่นๆเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงพระราชอำนาจและโครงสร้างของสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อนำไปสู่การปกครองในรูปแบบอื่นในนาม “รัฐไทยใหม่” ในอนาคตอีกด้วย

ในขณะที่ประเทศชาติยังคงเต็มไปด้วยปัญหาการทุจริตเลือกตั้ง ปัญหาวิกฤติการทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหาวิกฤติอันตรายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและความมั่นคงของประเทศ ปัญหาการบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่นักการเมืองในฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความสนใจที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ กลับสนใจที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อผลประโยชน์ของพรรคพวกตัวเองแต่เพียงอย่างเดียว

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า ปัญหาทางการเมืองที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ หากแต่อยู่ที่นักการเมืองที่มองแต่ประโยชน์ของพรรคพวกตัวเอง และไม่เคยคิดที่จะปฏิรูปการเมืองหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยให้ประชาชนมีส่วน ร่วมหรือขอความเห็นชอบจากประชาชนแต่ประการใด

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงขอประณามการกระทำดังกล่าว และขอประกาศยืนยันที่จะคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้อย่างถึงที่สุด

เราขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนกว่า 14 ล้าน 7 แสนกว่าคนที่ได้ร่วมกันลงประชามติเห็นชอบให้ใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร ไทย พุทธศักราช 2550 ได้แสดงจุดยืน และกดดันสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งของตัวเอง เพื่อยับยั้งและคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เห็นแก่ผลประโยชน์ของนักการ เมืองอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

ด้วยจิตคารวะ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

22 มกราคม 2553

ณ บ้านพระอาทิตย์

 

ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานด้วยว่า แกนนำพันธมิตรฯ นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสุริยะใส กตะศิลา ได้ร่วมกันแถลงข่าวออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การนัดประชุมแกนนำพันธมิตรในครั้งนี้ถึงคราวที่จะต้องคุยกันในเรื่องดัง กล่าว เพราะจะเป็นปัญหาใหญ่ของชาติ เมื่อพรรคร่วมเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็จะต้องคัดค้านแก้ไขทื่มุ่งไปสู่ผลประโยชน์ส่วนตัวพวกพ้องจนถึงที่สุด ตามที่พันธมิตรได้เคยประกาศไว้ตลอดการชุมนุม 193 วัน โดยยอมรับว่า การชุมนุมประท้วงเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก แต่พันธมิตรฯ ก็พร้อมจะเหนื่อยอีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าใครหรือพรรคการเมืองใดจะยื่นแก้ไขก็ตาม เพราะพันธมิตรมองว่า การแก้ไขในครั้งนี้คือการตั้งใจให้เกิดความปั่นป่วนของบ้านเมือง

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่แกนนำพันธมิตรฯ ขึ้นเวทีการชุมนุม เราจะย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า ยังคัดค้านแก้รัฐธรรมนูญปี 50 อยู่ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลในสมัยนั้นออกไป แต่รัฐบาลนี้พันธมิตรฯ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะออกมาไล่ แต่ถ้าพรรคใดออกมาแก้ไข เราก็พร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเพื่อผลประโยชน์ของชาติ และจะทำจนถึงที่สุด แต่ทุกอย่างต้องดูให้รอบคอบก่อนจะออกมาชุมนุมอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเกิดช่วงไหน ต้องดูสถานการณ์กันก่อน ทั้งนี้ยังฝากถึงพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า พันธมิตรฯ ยังคงจุดมุ่งหมายเดิม ถ้ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พันธมิตรฯ ก็จะคัดค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว 193 วัน ถ้ามันจะทำให้ตนต้องติดคุกอีกสักทีก็จะเอา

ถ้าพรรคร่วมไม่พอใจพรรคประชาธิปัตย์ที่จะไม่เข้าร่วมแก้รัฐธรรมนูญแล้วขอถอน ตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ขอให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่ต้องยุบสภา แล้วประชาชนจะเข้ามาสนับสนุนเอง

นายสมเกียรติกล่าวว่า ความปั่นป่วนในกองทัพขณะนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว หลังมีทหารนอกแถวได้ซ่องสุ่มกำลังคลังอาวุธครบถ้วน ตอนนี้เหลือเพียงความปั่นป่วนในรัฐสภาเพียงอย่างเดียว ซึ่งตนมองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่ก็ให้เกิดความปั่นป่วนนอกสภา แต่เรื่องแก้ไข รธน. นี้ ถือว่าเป็นการจงใจที่จะก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้น ตนเห็นว่ารัฐบาลจะต้องตั้งรับให้ทันไม่ใช่ไปรับลูกพรรคร่วมเข้าร่วมแก้รัฐ ธรรมนูญ เพราะจะเป็นการเปิดช่องให้เผ่าพันธุ์ชั่วทางการเมืองได้เกิดขึ้นอีกครั้ง หนึ่ง พันธมิตรจึงต้องออกแถลงการณ์เตือนก่อนที่จะมีการแก้รัฐธรรมนูญเกิดขึ้น

พล.ต.จำลอง กล่าวติดตลกกว่า ในขณะที่ตนเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรฯ แล้วมีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้ามาทำร้ายประชาชนนั้น เวลาตนเดินผ่านกองบัญชาการกองทัพบก ซึ่งในอดีตเคยเป็นโรงเรียนนักเรียนนายร้อย ตนก็เคยคิดว่าสักวันมันจะต้องโดนบ้าง เพราะกองทัพไม่เคยปกป้องประชาชนได้เลย ปล่อยให้มีการยิงสังหารต่อเนื่อง แล้วในที่สุดก็โดนบ้างจริงๆ ขณะที่กรณีกลุ่มคนเสื้อแดงจะไปชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตนมองว่าก็เป็นเรื่องของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงทำผิดรัฐบาลก็ควรใช้กฎหมายไปกำเนินคดี และตนไม่กลัวว่าจะเป็นการเชื่อมโยงมาสู่คดีของพันธมิตรฯ เพราะศัตรูของพันธมิตรคือคนที่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ทั้งนี้ พล.ต.จำลองยังได้ชี้แจงถึงกรณีที่มีบุคคลออกมาต่อว่า ร.ร.นายร้อย จปร. ด้วยว่า คนจบโรงเรียนนายร้อย ชั่วเป็นรายบุคคล ไม่ได้ชั่วทั้งสถาบัน

อนึ่งการแถลงข่าวครั้งนี้ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และแกนนำพันธมิตรฯ ไม่ได้มาร่วมแถลงข่าวด้วยเนื่องจากติดภารกิจ

ขณะเดียวกัน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดยนายพิภพ  ธงไชย และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เตรียมพาผู้บาดเจ็บรวมทั้งญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 7 ตุลา 2551 เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ในวันจันทร์นี้ (25 ม.ค.) เวลา 10.00น. หลังจากนั้นกลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net