Skip to main content
sharethis
 
 
 
1 ก.พ.53 เวลา 10.00 น. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) อ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนทางการเมืองต่อต้านรัฐประหารที่หน้ากองบัญชาการกองทัพบก มีเนื้อความสรุปว่า ต้องการเตือนสติกองทัพที่ปกป้องความมั่นคงของเหล่าอำมาตย์ รวมทั้งระบุว่า หากเกิดรัฐประหารขึ้นประชาชนคงไม่นิ่งดูดายเหมือนที่ผ่านมา แต่อาจก่อให้เกิดสงครามประชาชนขึ้นได้ หากทางกองทัพไม่ฟังเสียงของประชาชน สนนท.และนักศึกษาในเครือข่ายก็พร้อมลุกขึ้นต่อสู้จนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน หลังจากนั้น สนนท.จึงยื่นหนังสือแถลงการณ์ต่อนายทหารเวรผู้ใหญ่ประจำกองบัญชาการกองทัพบกที่ออกมารับหนังสือ
 
หลังจากอ่านแถลงการณ์ ตัวแทนสนนท.มีกิจกรรมโดยการสาธิตการใช้เครื่องตรวจจับเผด็จการ DDT 3000(Detector of Dictator in Thailand) ที่ทำขึ้นมาจากสเปรย์ดับกลิ่น เพื่อล้อเลียนประเด็นปัญหา GT200 ที่กำลังเป็นข่าวพร้อมๆ ไปกับการเสียดสีการเมืองไทย โดยนำไปพ่นใส่ประตูหน้ากองบัญชาการทหารบก ทั้งนี้ สนนท.ระบุว่า ประสิทธิภาพของเครื่องสามารถตรวจจับเผด็จการได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.เผด็จการทางการเมือง เช่น การปฏิวัติ รัฐประหาร การยึดอำนาจ และการแทรกแซงการเมือง 2.เผด็จการทางการเงิน ได้แก่งบลับ งบเกินความเป็นจริง และสุดท้ายคือ เผด็จการทางความคิด คือเมื่อใครสงสัย ตั้งคำถาม ก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ไม่รักชาติ ไม่หวังดี ฯลฯ
 

 
แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
โปรดระวัง “สงครามประชาชน”
           
             จากความเคลื่อนไหวของกองทัพในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีความน่าเป็นห่วงที่จะนำไปสู่การรัฐประหารยึดอำนาจ และกวาดล้างปราบปรามประชาชนที่ทำการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย การข่มขู่ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อขบวนการประชาชนเป็นไปอย่างแพร่หลายในหมู่กองทัพ ผ่านการออกมาแสดงความเห็นทางการเมือง ที่เบื้องหน้าคือการเรียกร้องให้บ้านเมืองมีความสงบ และต้องการปกป้องชาติ แต่เบื้องหลังคือการปิดปากข่มขู่ประชาชนไม่ให้เคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ด้วยข้ออ้างเดิมๆคือเรื่องของ “ความมั่นคง” ของชาติ ทั้งๆที่ความไม่สงบ และความไม่เป็นประชาธิปไตยที่มีอยู่ในบ้านเมืองขณะนี้ ล้วนแต่เกิดขึ้นจากบทบาทของกองทัพที่แสดงออกไม่ถูกต้อง ที่ไปหนุนเสริมการขึ้นมาสู่อำนาจของอำมาตยาธิปไตยจนขบวนการประชาชนผู้รักประชาธิปไตยไม่อาจฝืนทนดูอยู่ได้
 
 
            มาจนถึงวันนี้ กองทัพก็ยังคงยืนยันในบทบาทเดิมของตน ที่จะปกป้อง “ความมั่นคง” ของอำมาตยาธิปไตยมากกว่าความมั่นคงของประชาธิปไตยและประชาชนต่อไป และยืนยันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆอย่างพร้อมเพรียง ว่าตนพร้อมที่จะพิทักษ์ความมั่นคงของอำมาตยาธิปไตย และปราบปรามประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ ที่เป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงของระบอบอำมาตยาธิปไตย ซึ่งการออกมาแถลงเช่นนี้ของทหาร เป็นการประกาศชัดเจนว่าตนพร้อมที่จะทำทุกอย่างแม้กระทั่งการรัฐประหาร
 
            ต่อสถานการณ์เช่นนี้ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย มีความเป็นห่วงต่อบ้านเมือง ต่อประชาธิปไตย ต่อประชาชน และแม้กระทั่งต่อตัวกองทัพเอง ด้วยว่าหากมีการรัฐประหารเกิดขึ้นจริง “สงครามประชาชน” หรือการต่อต้านในระดับทั่วประเทศของมวลมหาประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ต่อการรัฐประหารและกองทัพ ย่อมที่จะเกิดขึ้นแน่แท้ และย่อมเป็นสงครามที่ดำเนินไปจนถึงที่สุด จนกองทัพเองย่อมไม่สามารถต้านทานได้
 
            ด้วยความคะนึงเป็นห่วงเช่นนี้ พวกเราจึงขอประกาศเจตนารมณ์เรียกร้องต่อกองทัพ และประกาศจุดยืนของพวกเราต่อสถานการณ์ในขณะนี้และในภายภาคหน้าดังต่อไปนี้
 
            1. พวกเราขอเตือนสติฝ่ายกองทัพให้จงคำนึงถึงผลที่จะตามมาให้ดี หากมีการระดมกำลังรัฐประหารปราบปรามประชาชนเกิดขึ้น ผลที่ตามมาย่อมไม่ใช่ความสะดวกโยธินเหมือนดั่งรัฐประหารครั้งที่ผ่านๆมาในประวัติศาสตร์เป็นแน่แท้ ประชาชนที่ถูกยกระดับจิตสำนึกของตนได้ก้าวพ้นจุดที่จะอยู่นิ่งเฉยต่อการรัฐประหารเหมือนครั้งที่ผ่านๆมาได้แล้ว และจะดำเนินการคัดค้านต่อสู้อย่างถึงที่สุด
 
            2. พวกเราสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย พร้อมนักศึกษาในเครือข่ายของเราทั่วประเทศ มีจุดยืนที่ต่อต้านการรัฐประหาร และอยู่เคียงข้างสนับสนุนการต่อสู้ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ ณ ขณะนี้ทั่วประเทศในนามของ “คนเสื้อแดง” และหากมีการก่อรัฐประหารเกิดขึ้นจริง พวกเราพร้อมที่จะระดมนักศึกษาผู้รักประชาธิปไตยจากทั่วประเทศ ไปทำการคัดค้านต่อสู้กับการรัฐประหารจนถึงที่สุดพร้อมกับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่จะออกมาต่อต้านจนถึงที่สุดเช่นเดียวกัน
          
           โปรดระวัง “สงครามประชาชน”
            ประชาธิปไตยย่อมได้รับชัยชนะ!!!          
สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย
1 กุมภาพันธ์ 2553
 
 
 

 
ข้อมูล อุปกรณ์ตรวจจับเผด็จการในประเทศไทย
DDT 3000
(Detector of Dictator in Thailand)
 
แจกจ่ายโดย:      สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
สรรพคุณ:           สามารถตรวจจับเผด็จการได้ถึง 3 รูปแบบด้วยกัน
                        1. เผด็จการทางการเมือง ปฏิวัติ รัฐประหาร ยึดอำนาจ แทรกแซงการเมือง
                        2. เผด็จการทางการเงิน งบลับ งบเกินความเป็นจริง
3. เผด็จการทางความคิด ใครสงสัย ตั้งคำถาม จะถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ไม่รักชาติ ไม่หวังดี ฯลฯ
 
ราคา:                ต้นทุนการผลิต 100 บาท ราคาขายส่ง 300,000 (พร้อมค่าคอมมิชชั่น)
ระยะทำการ:        รัศมีการตรวจสอบเผด็จการหลายพันตารางกิโลเมตร เห็นได้จากการที่แม้แต่สื่อต่างประเทศก็วิพากษ์วิจารณ์บทบาทของกองทัพไทยกันทั่วไป
 
วิธีการใช้:           - ย่ำอยู่กับที่ประมาณ 10-20 ก้าว เช่นเดียวกับการเมืองไทยที่ต้องย่ำอยู่กับที่เป็น 10-20 ปี เพราะวงจรปฏิวัติรัฐประหาร
                        - ทำใจให้สบาย นอนให้พอ แต่ไม่ควรนอนหลับใหลมากจนถูกปิดหูปิดตา
                        - เดินสุ่มไปตามสถานที่ราชการ เช่น ทำเนียบรัฐบาล, กองบัญชาการทางทหารต่างๆ หากตัวชี้เป้า หันไปทางใด แสดงว่ามีเผด็จการทั้ง 3 รูปแบบข้างต้นซุกซ่อนอยู่ รอการเก็บกู้ต่อไป
 
หมายเหตุ:          หากตรวจสอบได้ว่ามีวัตถุรอวันระเบิดอยู่ที่ใดแล้ว ควรเร่งช่วยกันตรวจสอบความโปร่งใสโดยเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องรอทีมกู้ชาติแต่ใดๆ เพราะการกู้ภัยชาติ เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนในชาติอยู่แล้ว
 
 
จึงประกาศมาให้ทราบด้วยถ้วนหน้ากัน
1 กุมภาพันธ์ 2553

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net