Skip to main content
sharethis
 

1 ก.พ.53 เวลาประมาณ 9.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อแก้ไขปัญหาเครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย (คปท.) เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาของเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ โดยมีสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ และหน่วยงานราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมพูดคุย ซึ่งการประชุมนี้ถือเป็นครั้งแรกของปี 53 หลังจากมีการครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 11 มี.ค.52 และเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 52

ทั้งนี้ ในการดำเนินงานที่ผ่านมาคณะกรรมการอำนวยการฯ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 7 คณะ ได้แก่ อนุกรรมการชุดพื้นที่ป่าไม้ อนุกรรมการชุดที่สาธารณประโยชน์และที่ดินเอกชนทิ้งร้าง อนุกรรมการชุดที่ดิน ส.ป.ก. อนุกรรมการชุดที่ราชพัสดุ อนุกรรมการชุดที่อยู่อาศัย อนุกรรมการชุดนโยบาย และอนุกรรมการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาคดีความ เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนของสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ

ภาพ: บรรยากาศบริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เวลาประมาณ 9.00 น. มีชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินมารอเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ กว่า 100 คน แต่มีการอนุญาติให้เข้าร่วมประชุมเพียงคณะกรรมการฯ และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่ง

หลังจากการประชุมนานร่วม 3 ชั่วโมง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมแทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ต้องออกจากที่ประชุมไปก่อนเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เนื่องจากติดภารกิจ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงผลการประชุมในวันนี้ว่าได้แก้ไขปัญหาของเครือข่ายฯ ไปในหลายเรื่องเช่น กรณีสวนป่าคอนสาร (ต.ทุ่งพระ อ.คอนสาร) จ.ชัยภูมิ ที่มีความขัดแย้งจนเจ้าหน้าที่องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (ออป.) เข้าไปในพื้นที่ไม่ได้ ที่ประชุมเห็นว่าต้องมีการพูดคุยกันโดยทางสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นคนกลางให้ อ.อ.ป. กับชาวบ้านมาพูดคุยกัน

ส่วนปัญหาข้อพิพาทที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต วันนี้ทายาทได้รับเงินชดเชยจากกรมคุ้มครองสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว และได้มีการส่งกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ไปดูแลในพื้นที่แล้ว หลังจากเกิดความขัดแย้งกันอย่างหนักระหว่างเอกชนและชาวบ้าน โดยชาวบ้านขอให้ ตชด.ได้ตรวจตราให้ใกล้ชิดกับชาวบ้านมากขึ้น ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบ และนายกรัฐมนตรีได้มอบให้ตนประสานกับทาง ตชด.ให้ดูแลความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่

ภาพ: นายกมอบเงิน 1 แสนบาทจากกรมคุ้มครองสิทธิ์ ให้แก่ญาติของนายสมพร พัฒนภูมิ อายุ 53 ปี ชาวบ้านชุมชนบ้านคลองไทรพัฒนา ต.ไทรทอง อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี สมาชิกเครือข่ายปฎิรูปที่ดินฯ ที่ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.52 ปมความขัดแย้งจากปัญหาที่ดิน

นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่ากรณีปัญหาสหกรณ์การเช่าที่ดินคลองโยง จ.นครปฐม จากการประชุมเรื่องนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างมาก แต่ที่ยังมีปัญหามากในขณะนี้คือการดำเนินการของคณะอนุกรรมการชุดที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการอยู่ ทางสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินจึงขอให้นำมติที่ประชุมวันนี้ไปรายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวาระเพื่อทราบ เพื่อให้มีผลผูกพันกับการทำงานของทุกหน่วยงาน

สำหรับปัญหาที่คิดว่าต้องมีการแก้ไขกันต่อ คือกรณีการประกาศพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับพื้นที่ชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านต่อสู้เรียกร้องว่าเมื่อพื้นที่อุทยานไปทับพื้นที่ที่ชาวบ้านทำกินอยู่ก่อนแล้ว ได้มีการใช้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตัดฟันทำให้ทรัพย์สินเสียหาย แต่ทางอุทยานก็อ้างว่าต้องทำตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ ในกรณีนี้คณะกรรมการอำนวยการฯ มีแนวทางว่าในกรณีที่ชาวบ้านร้องว่าตัวเองมีสิทธิอยู่ก่อนก็ขอให้มีการทุเลาการดำเนินการไปก่อน เพื่อที่จะตรวจสอบเรื่องของสิทธิให้ถูกต้องและต้องเร่งดำเนินการ ถ้ากรณีใดที่เห็นว่าน่าจะให้ชาวบ้านมีสิทธิเข้าไปทำกินก็ขอให้แก้ไขปัญหาโดยใช้รูปแบบโฉนดชุมชน เพราะเรื่องโฉนดชุมชนขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของกฤษฎีกา ซึ่งจะพยายามเร่งให้แล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนกรณีผู้บุกรุกใหม่ ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการโดยเด็ดขาด

อีกกรณีที่ชาวบ้านติดใจคือ กรณีการจับกุมชาวบ้านฟ้องดำเนินคดีอาญาและมีการฟ้องแพ่งแล้วเรียกเงินจำนวนมากด้วยข้อหาบุกรุกป่าทำลายทรัพยากรทำให้โลกร้อน ที่ประชุมเห็นควรให้ใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย โดยในกรณีทุนทรัพย์ไม่เกินจำนวน 2 ล้านบาทให้อัยการร่วมกับส่วนราชการพื้นที่ทำการไกล่เกลี่ยได้ ส่วนกรณีทุนทรัพย์เกิน 2 ล้านบาท กระทรวงการคลังกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะดูแลไกล่เกลี่ย เพราะชาวบ้านที่ถูกฟ้องบางรายเป็นรายเล็กไม่มีเงิน แต่ถูกฟ้องเรียกรายหนึ่ง 2 - 3 ล้านบาท

ในส่วนความต่อเนื่องของการแก้ปัญหาที่ดิน นายสาทิตย์กล่าวว่า คณะอนุกรรมการทั้ง 7 คณะจะมีการประชุมต่อจากนี้ และในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ครั้งต่อไปนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมประมาณกลางเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเร่งรัดมติที่ประชุมทั้งหมดให้เดินหน้าต่อไป ส่วนกรณีนโยบายต่อเรื่องที่ดินชุดใหญ่ได้คุยกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแล้วก็เห็นด้วยว่าจะมีการพูดคุยกัน ซึ่งหลังจากการพูดคุยจะได้กำหนดแนวทางดำเนินการ และจะแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง

สำหรับเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับเป็นพิเศษคือ เรื่องแนวปฏิบัติที่แต่ละหน่วยงานรับไปแก้ไขปัญหาว่า ระหว่างที่กำหนดนโยบายโดยส่วนกลางให้ทำความเข้าใจกับส่วนราชการระดับจังหวัดหรือระดับพื้นที่ด้วย เพราะปรากฏในหลายเรื่อง เช่น กรณีของโฉนดชุมชน ถึงขั้นที่เจ้าหน้าที่ระดับจังหวัดบางคนประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายรัฐบาล ซึ่งชาวบ้านยกตัวอย่างในที่ประชุม เป็นต้น ฉะนั้นแต่ละกระทรวงจะต้องไปทำความเข้าใจในระดับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันด้วย

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งกองทุนธนาคารที่ดินว่า ในส่วนเครือข่ายปฏิรูปที่ดินได้เสนอให้ที่ประชุมเห็นชอบการตั้งธนาคารที่ดินของรัฐบาลวงเงิน 1,000 ล้านบาท พร้อมนำข้อเสนอให้ ครม.พิจารณา แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปจึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และตนไปพิจารณาเรื่องนี้ เพื่อเสนอที่ประชุมภายใน 2 สัปดาห์

ขณะนี้กองทุนธนาคารที่ดินเป็นข้อเสนอคณะทำงานซึ่งจะมี 2 ชุดคือชุดที่นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบ กับชุดที่ตนดูแลอยู่ ซึ่งก็ได้รับข้อเสนอเรื่องกรณีการจัดตั้งกองทุนธนาคารที่ดินไว้แล้ว และเรื่องนี้กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่ โดยจะได้นำข้อเสนอไปรวมไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นว่าน่าจะมีเวลาประมาณ 2 เดือนในการจัดทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ครั้งนี้ ถูกกำหนดขึ้นหลังจากที่สมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ จากทั่วประเทศได้เดินทางมาชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่ข้างทำเนียบรัฐบาล 3 วัน 2 คืน เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการมาแก้ปัญหามากกว่า 1 ปี แต่ในระดับพื้นที่กลับไม่มีความคืบหน้าในการทำงาน

ภาพ: กลุ่มชาวบ้านสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินฯ ที่รอฟังผลการประชุมร่วมกับรัฐบาลอยู่บริเวณประตูทางเข้า ตั้งแต่เช้าถึงบ่าย

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net