สำนักข่าว AFP รายงานอ้างข้อความในจดหมายที่กูเกิล เซิร์ชเอนจิ้นยักษ์ใหญ่ของโลกให้สัญญาต่อรัฐบาลกัมพูชาว่า จะตรวจสอบแผนที่ตั้งของปราสาทพระวิหาร ที่เป็นศูนย์กลางข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทย
หลังจากรัฐบาลกัมพูชาได้กล่าวหากูเกิลในจดหมายที่ส่งไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ขาดความรับผิดชอบอย่างมืออาชีพ เนื่องจากกูเกิลเอิร์ธ แม็พ หรือ แผนที่โลกของกูเกิล แสดงภาพให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของปราสาทพระวิหาร ที่สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 11 อยู่ในดินแดนของประเทศไทย
ทหารไทยและกัมพูชาต่างอยู่ระหว่างการคุมเชิงกันอยู่คนละฝั่งของดินแดนที่เป็นข้อพิพาท ตั้งแต่ปี 2551 และมีการยิงปะทะกันเป็นระยะ ๆ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายคนซึ่งกูเกิล ได้ระบุในจดหมายว่า เราจะตรวจสอบอย่างระมัดระวังต่อคำคัดค้านของทางกัมพูชา เกี่ยวกับพรมแดนของกัมพูชาในกูเกิล เอิร์ธ และจะตอบกลับจดหมายของทางการกัมพูชา ในอนาคตอันใกล้
ในจดหมายที่เขียนเมื่อวันอังคาร ลงนามโดยนายรอสส ลาเชิญแนส ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานกับรัฐบาลในเอเชีย-แปซิฟิกของกูเกิล และถูกส่งไปถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลกัมพูชา ซึ่งมีการระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ข้อมูลในแผนที่ได้อาศัยอ้างอิงจาก เทเล แอตลาสซึ่งเป็นบริษัทจัดทำแผนที่สากล
ทั้งนี้ ศาลโลกได้ตัดสินเมื่อปี 2505 ว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา แม้ว่า ทางเข้าจะอยู่ทางฝั่งไทย ขณะที่พื้นที่ในอาณาบริเวณโดยรอบ ยังคงเป็นข้อพิพาทระหว่างสองประเทศมาจนทุกวันนี้ และความตึงเครียดได้พุ่งสูงขึ้นจนกลายเป็นความรุนแรง เมื่อเดือนกรกฎาคม
ปี 2551 เมื่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารให้เป็นมรดกโลก
การร้องเรียนกูเกิล ได้มีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ใกล้บริเวณที่เป็นข้อพิพาทกับไทย และยังกล่าวหาไทยว่ารุกรานกัมพูชาอีกด้วย ขณะที่ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานของสองประเทศ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน จากการที่ผู้นำ
กัมมพูชาแต่ตั้งพตท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังหลบหนีคดี เป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจ
ที่มาข่าว: เว็บไซต์คมชัดลึก