สุริยะใสรู้แล้วใครบึ้มข้างทำเนียบ-ศาลฎีกา

เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่เชื่อคนมีสีบึ้มทำเนียบ-ศาลฎีกา แต่ไม่ฟันธงเป็นคนเสื้อแดง ชี้ทำเพื่อให้เกิดรัฐประหารก่อนยึดทรัพย์ โดยมีคนเสื้อแดงเคลื่อนไหวสอดคล้อง บอกคนเสื้อแดงหากกลัวเจ็บกลัวตายให้ระวังตกเป็นเหยื่อ แนะ “มาร์ค” ทำอะไรบางอย่างจัดการเครือข่ายทักษิณที่เคลื่อนไหวสร้างความรุนแรง

 

เมื่อคืนวานนี้ (14 ก.พ.) ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการก่อนจะถึงจันทร์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ถึงกรณีที่มีการลอบยิงเอ็ม 79 เข้าไปในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตพณิชยการพระนคร ที่อยู่ห่างทำเนียบรัฐบาลเพียง 50 เมตร และการนำระเบิดซีโฟร์ใส่กล่องน้ำผลไม้ไปวางไว้ในรั้วศาลฎีกา 

 

เชื่อคนลงมือข้างทำเนียบ-ศาลฎีกาเป็นคนเดียวกันและเป็นคนมีสี แต่ไม่ฟันธงเป็นคนเสื้อแดง

โดยนายสุริยะใสให้สัมภาษณ์ว่า คิดว่าคนลงมือน่าจะเป็นคนเดียวกัน เพราะระเบิดใน 2 เหตุการณ์มีความสอดคล้องกัน ทั้งที่เวลานี้ ฝ่ายความมั่นคงก็ดูจะเข้มแข็งเรื่องการป้องกันเหตุร้าย แต่ทำไมถึงปล่อยให้กลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายย่ามใจก่อเหตุเช่นนี้

ดังนั้น ตนคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนมีสี ซึ่งเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ถูกใช้ออกมาปฏิบัติการ โดยในที่นี้ตนไม่ได้พุ่งเป้าไปว่า ต้องเป็นฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเรื่องจริงหรือไม่ ก็ไม่มีใครทราบ

 

ชี้ต้องการให้เกิดรัฐประหารก่อนยึดทรัพย์ และคนเสื้อแดงก็เคลื่อนไหวสอดคล้อง

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการกระทำดังกล่าวต้องการนำไปสู่ความรุนแรงให้เกิดการรัฐประหาร ทั้งนี้ มันมีความเป็นไปได้ เพราะก่อนจะถึงวันที่ศาลจะตัดสินคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น เนื่องจาก ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงก็สอดคล้องว่ามีแนวโน้มต้องการให้มีการใช้ อำนาจพิเศษที่จะนำสู่การรัฐประหารให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง

นายสุริยะใสกล่าวต่อว่า เหตุร้ายทั้ง 2 เหตุการณ์ไม่ได้หมายจะพุ่งเป้าแค่โจมตีรัฐบาล แต่ต้องการทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนด้วย ซึ่งมันสะท้อนภาพของหน่วยงานความมั่นคงว่ากำลังมีปัญหา ถือว่าผลงานที่ผ่านมาสอบตก ซึ่งตนไม่ไว้ใจในสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ เช่นเดียวกับท่าทีของพรรคการเมืองใหม่ที่อยากให้ประชาชนพึงระวังในสถานการณ์ และดูแลตัวเองให้ดี เพราะเวลานี้ ไม่ได้มีแค่การเผชิญหน้าของ 2 ฝ่าย หากแต่มีอีกหลายฝ่ายปรากฏตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ 3 หรือฝ่ายที่ 4 ที่ไม่ได้มีการสถาปนาอำนาจของตนเองอย่างชัดเจน แต่เป็นกลุ่มอำนาจใหม่ที่ต้องการทำให้บ้านเมืองเสียหาย โดยมีแนวโน้มจะไปผสมโรงกับฝ่ายใดก็ได้

 

แนะมาร์คต้องเด็ดขาด กำจัดความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น

นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า โดยเหตุร้ายที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูล และทราบว่าเป็นฝีมือของฝ่ายไหน เพราะเชื่อว่าพยานหลักฐานก็มีอยู่ในมือ แต่อยู่ที่จะดำเนินการหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่นอน และน่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มเดียวกัน โดยตนเห็นต่างกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีเงื่อนไขของการรัฐประหาร เพราะตราบใดที่ยังมีการใช้อาวุธร้ายแรงยิงเข้าใส่สถานที่ต่างๆ หรือมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคล ก็ล้วนแล้วแต่เสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง ดังนั้น ถ้าหากอยากจะไม่ให้มีเงื่อนไขการรัฐประหารจริง นายกรัฐมนตรีต้องใช้ความเด็ดขาด กำจัดความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น

“ผมคิดว่าเวลานี้คุณอภิสิทธิ์ ต้องจัดระเบียบฝ่ายความมั่นคงใหม่ และต้องดูแลให้ตำรวจทำงานอย่างมีเอกภาพ เพื่อคอยดูแลความสงบของบ้านเมือง ไม่ใช่มัวแต่วุ่นวายเรื่องสร้างอิทธิพล เพราะแค่นายกฯ ตั้งแต่ ผบ.ตร.ไม่ได้ ก็นับเป็นเรื่องที่น่าคิด ยิ่งปล่อยให้ตำรวจทำงานเช่นนี้อีก ก็เหมือนเป็นการขืนใจประชาชนซ้ำ” นายสุริยะใส กล่าว

 

บอกคนเสื้อแดงหากกลัวเจ็บกลัวตายให้ระวังตกเป็นเหยื่อ

นายสุริยะใสกล่าวถึงบทบาทกองทัพว่า ตนคิดว่าเหตุร้ายที่เกิดขึ้น กองทัพจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ และต้องมีความกระตือรือร้นมากกว่านี้ เพราะประเทศกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตด้านความมั่นคง ซึ่งตนอยากฝากให้พันธมิตรฯ อยู่ในที่ตั้ง กับสถานการณ์เช่นนี้ และไม่อยากให้ตกเป็นเหยื่อของการก่อความรุนแรง เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม นอกจากนี้ อยากบอกคนเสื้อแดงว่า หากคิดกลัวเจ็บกลัวตาย ให้ระวังตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากแผนการชุมนุมกดดันก่อนศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ มีแนวโน้มนำไปสู่เงื่อนไข โดยใช้ความรุนแรงเป็นตัวนำ

 

ชี้การเคลื่อนไหวทักษิณมีการจ้าง แต่พฤติกรรมรุนแรง นายกฯ ต้องจัดการ

“ผมคิดว่าที่ผ่านมาการเคลื่อนไหวของระบบทักษิณ มีทั้งเกมใต้ดินและบนดิน ซึ่งคนหลายกลุ่มถูกจ้างมาปฏิบัติการโดยอ้างเรื่องสิทธิการชุมนุม ทั้งนี้พฤติกรรมเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ ล้วนแล้วแต่มีความรุนแรง ดังนั้น สถานการณ์ที่เป็นอยู่ นายกรัฐมนตรีต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อจัดการเรื่องนี้” นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวปิดท้ายว่า ช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะถึงวันศาลตัดสินคดียึดทรัพย์ ตนอยากให้นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติภารกิจที่ไม่จำเป็น เพื่อลงมาคุมงานความมั่นคงด้วยตัวเอง เพราะแม้แต่นายอภิสิทธิ์ ยังถูกคุกคามต่างๆ แล้วประสาอะไรกับประชาชนธรรมดา จะมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น นายกรัฐมนตรีต้องทำอะไรสักอย่างที่เป็นการปกป้องประชาชน และควรจัดลำดับความสำคัญของงานว่าวาระใดควรกระทำก่อนหรือหลัง ส่วนเรื่องการออกกฎหมาย ตนคิดว่าไม่จำเป็น เพียงแต่รัฐบาลพยายามใช้กฎหมายที่มีอยู่ในมือให้เป็น รวมทั้งจี้เจ้าหน้าที่ให้ทำหน้าที่ของตัวเอง อย่าเกียร์ว่าง เพราะจะเป็นการเปิดทางให้ฝ่ายไม่หวังดี ก่อเหตุร้ายได้อีก โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ ต้องกวดขันแก้ปัญหาความอ่อนแอของหน่วยงานความมั่นคงมากเป็นพิเศษ

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท