รัฐบาล-ฝ่ายค้าน เห็นพ้องซื้อ "ไฟโด้-เซเบอร์" แทน "จีที 200"

"สุเทพ" เล็งสั่งซื้อ "ไฟโด้-เซเบอร์" ตรวจระเบิดใน 3 จังหวัดใต้แทนจีที 200 ด้านเพื่อไทยเตรียมยื่น ป.ป.ช.สอบ 23 ก.พ. หนุนซื้อของใหม่ ส่วน "อนุพงษ์" ลั่นพร้อมให้สอบหากซื้อไม่โปร่งใส "เทพไท" วอนอย่าโยงจีที 200 ให้เป็นกรณีการเมือง 

"เพื่อไทย"หนุนซื้อ"ไฟโด้-เซเบอร์" ใช้งานแทน"จีที200"

20 ก.พ. 53 - มติชนออนไลน์รายงานว่า น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐบาลเตรีรยมสั่งซื้อตรวจหาวัตถุระเบิดเครื่องไฟโด้และเครื่อง เซเบอร์ 4000 มาใช้งานแทนเครื่องจีที 200 ว่า  เรื่องนี้จำเป็นอย่างเร่งด่วน และหากอุปกรณ์ดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการช่วยตรวจและค้นหาวัตถุระเบิดได้จริง พรรคเห็นด้วยที่จะสนับสนุนและควรเร่งรีบให้กับผู้ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เสี่ยงภัยได้ใช้งานได้ทุกที่

เมื่อถามว่า หากมีการจัดซื้อเครื่องไฟโด้จะต้องมีตรวจสอบก่อนใช้หรือไม่ น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า จะต้องมีการตรวจสอบเพราะบทเรียนที่ผ่านมาเป็นบทเรียนครั้งใหญ่หลวง งบประมาณหลายพันล้านบาทที่ถูกจ่ายไปกับผลที่ไม่ได้มีการตรวจสอบให้ถูกต้อง ก่อนว่าใช้งานได้จริงหรือไม่

"สุเทพ" ไม่มีอำนาจเลิก-ไม่เลิกจีที 200

ก่อนหน้านี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก และ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสำนักนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ถึงกรณีการใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังผลทดสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระบุว่าไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา เพราะเวลาลงพื้นที่จะมีเจ้าหน้าที่มาขอเครื่องจีที 200 เพราะเขาเชื่อว่าจะค้นหาวัตถุระเบิดได้ แต่เมื่อเครื่องมีปัญหาชักจะหนักใจว่า คนที่ทำงานในพื้นที่จะเอาเครื่องมืออะไรมาใช้แทน แต่ต้องหนักแน่น เพราะเมื่อก่อนไม่มีเครื่องมือก็ทำงานได้ ต้องใช้ความสามารถการฝึกฝนที่เข้มงวดของคน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลสอบกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯกับการใช้งานในพื้นที่แตกต่างกันยังให้กำลังพลใช้ ต่อไปหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องการปฏิบัติงาน แต่หากผู้ปฏิบัติคิดว่าสามารถพึ่งพาได้ในการปฏิบัติงานแล้วไม่ทำให้เราใช้งบ ประมาณเพิ่มขึ้นก็ควรให้ดำเนินงานไป แต่ทั้งหมดไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะตัดสินใจ  เมื่อถามว่า จะเป็นการนำกำลังพลไปเสี่ยงใช้เครื่องมือที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า หากไม่มีเครื่อง กำลังพลเสี่ยงหรือไม่ มันก็เสี่ยงเหมือนกัน แต่ต้องพยายามหาทางแก้ไข เมื่อถามว่า จะให้ความรู้กับกำลังพลในเรื่องจีที 200 หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ตนทราบว่าจะลงพื้นที่ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ แต่เรื่องนี้อย่าไปให้ความสำคัญเกินไป เพราะปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องจีที 200 แต่อยู่ที่ทำอย่างไรให้ประชาชนในพื้นที่เชื่อมั่นศรัทธาในรัฐบาล

"บิ๊กป๊อก" พร้อมให้สอบทุจริต

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีแสดงความไม่สบายใจหากจะใช้เครื่องจี ที200 ว่าตนรับนโยบายมาจากนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่ายังไม่ให้เลิกใช้ตอนนี้ แต่ต้องทำความเข้าใจ คือ ต้องบอกกรณีที่ตรวจเจอหรือไม่เจอเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่กลัวว่าถ้าหากมีแล้วตรวจไม่เจอ เครื่องไม่ชี้จะเป็นอันตราย นั่นคือสิ่งที่กังวล นายกรัฐมนตรีจึงบอกให้ระมัดระวังดูแลตัวเองให้ดี

"แต่สิ่งสำคัญมีคนพยายามไปพูดว่ามันซื้ออะไรกันเละตุ้มเป๊ะ ซึ่งความต้องการมาจากหน่วยข้างล่าง ที่เขามีประสบการณ์และถ้าทุจริตก็ไม่ต้องกังวลหน่วยงานที่ตรวจสอบก็ตรวจสอบ ได้ กองทัพพร้อม ถ้าไม่บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่ว่าเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับการจัดซื้อต้องรับการ ตรวจสอบได้และถ้ามีความผิดต้องรับโทษ" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว และว่า เรายอมรับผลการทดสอบและก็จะไม่ขอทดสอบซ้ำ อย่างที่บอกผลของการตรวจสอบหากทดสอบอีกครั้งอาจจะได้ผลมากกว่านั้น อาจจะเป็น 10 หรือ 20 ก็ได้ แต่ไม่ได้เป็นการแสดงประสิทธิภาพของเครื่องอย่างแท้จริง ก็อยากให้จบไปแบบนั้นก็ไม่เป็นไร

สั่งซื้อเครื่อง"ไฟโด้-เซเบอร์"เพิ่ม

ต่อมาคณะนายสุเทพ ได้เดินทางถึงค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อประชุมผู้บัญชาการหน่วยถึงระดับเฉพาะกิจ มี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 บรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติการสำคัญเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้

จากนั้นนายสุเทพแถลงว่าที่ประชุมหารือปัญหาเครื่องจีที 200 โดยปรึกษากันว่าต้องวางมาตรการรองรับ ซึ่งสั่งการให้ปรับแผนการทำงานใหม่ เช่น การเพิ่มงบฯด้านการข่าว พร้อมกันนี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เสนอให้จัดซื้อเครื่องไฟโด้ และเครื่องเซเบอร์ 4000 ซึ่งเคยใช้งานอยู่แล้วมาใช้งานในพื้นที่แทน แม้เครื่องไฟโด้จะมีราคาสูงถึงเกือบ 4 ล้านบาท แต่ก็ต้องเตรียมการรองรับ เพราะรัฐบาลต้องการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน จึงมอบให้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์และทหารไปดูว่าถ้าจะจัดซื้อต้องใช้กี่เครื่องบริเวณใดบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำเครื่องไฟโด้มาใช้แทนเครื่องจีที 200 ใช่ไหม นายสุเทพตอบว่า "เรื่องจีที 200 หยุดพูดสักพักได้หรือไม่ เอาว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่เรามีแค่มือเปล่า ไม่มีอะไรใช้ บางส่วนยังเห็นว่าเครื่องยังใช้ได้ก็ให้ใช้ไปก่อน ระหว่างนี้จะเตรียมมาตรการทดแทน"

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องตรวจสอบประสิทธิภาพของเครื่องไฟโด้ก่อนที่จะจัดซื้อมาใช้งานในพื้นที่ หรือไม่ ปรากฏว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ตอบแทนว่า เครื่องไฟโด้ได้รับการการันตี โดยหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาแล้ว

"มาร์ค" ปัดปมเกาเหลาผบ.ทบ.

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีที่กองทัพบกยืนยันที่จะใช้เครื่องตรวจระเบิดจีที 200 ต่อไปว่า พล.อ.อนุพงษ์มาชี้แจงเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นคือการชี้แจงประสบการณ์ของผู้ใช้และอธิบายถึงที่มาที่ไป ยืนยันว่าจะไม่ใช้เครื่องจีที 200 ไปละเมิดสิทธิ และไม่เคยใช้ไปจับกุมใครโดยลำพัง อีกทั้งอยู่ในช่วงที่กำลังทำความเข้าใจกับกำลังพล และปรับแผนรองรับเมื่อไม่ใช้เครื่องจีที 200 ดังนั้น ไม่ได้มีอะไรขัดแย้งกัน แต่ในชั้นนี้ ต้องมีเวลาปรับตัว ซึ่งแนวทางต้องชัด คือไม่ใช้กับบุคคล และทุกคนต้องเข้าใจความเสี่ยง ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเครื่องจีที 200 ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันจริงๆ ซึ่ง ผบ.ทบ.ย้ำว่าไม่ได้มีลักษณะที่จะไปสวนทาง ไม่ได้ปฏิเสธผลการทดสอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ

ยังกั๊กไม่ตั้งกก.สอบผบ.เหล่าทัพ

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ทางกองทัพประกาศเดินหน้าใช้ต่อยังสามารถทำได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า "ใจผมต้องลดและเลิกให้เร็วที่สุด" เมื่อถามว่า แต่ถ้ายังใช้ต่อจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ขณะนี้เขาไปทำแผนอยู่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

เมื่อถามว่าได้มีการศึกษาโดยจะนำเครื่องดมกลิ่นระเบิดอิเล็กทรอนิกส์หรือไฟโด้มาใช้แทน จีที 200 นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทดแทนกันเลยคงไม่ได้ เพราะว่าเครื่องไฟโดไม่สามารถที่จะช่วยจำกัดพื้นที่หรือว่าใช้ในพื้นที่ กว้างได้ แต่ว่าอาจจะต้องคิดวิธีใช้เครื่องไฟโด้ประกอบเครื่องมืออื่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าในประเด็นการทุจริตการจัดซื้อจีที 200 จะต้องสอบแค่ไหนอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องรอรายงานของแต่ละหน่วยงานซื้อเมื่อไหร่ราคาเท่าไหร่ที่มาที่ไปของการจัด ซื้อเป็นอย่างไร เราจะได้ตรวจสอบดู เมื่อถามว่า จะมีโอกาสสอบไปถึงระดับผู้นำเหล่าทัพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอย่างไร ตนว่าขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องของข้อเท็จจริง ซึ่งเวลาที่เราสอบแล้วมาตั้งโจทย์กันตั้งแต่ต้นว่าจะต้องไปถึงคนนั้นคนนี้ โดยยังไม่มีข้อมูลคงไม่ใช่ เพราะทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงถ้าข้อเท็จจริงไปถึงก็ถึงถ้าไม่ ถึงก็คือไม่ถึง

อนุมัติเพิ่มสุนัขทหารตรวจระเบิด

ด้าน พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) กล่าวว่า ตนเล็งเห็นความสำคัญชุดสุนัขทหารตรวจระเบิด ในปี 2553 จึงอนุมัติเพิ่มอัตรากำลังพลสุนัขทหารขึ้น ทำให้ปัจจุบันหมวดสุนัขทหารอโณทัย มี 54 นายและสุนัขทหาร 34 ตัว เพื่อสนับสนุนภารกิจด้านยุทธการร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจประจำจังหวัด 3 จังหวัด โดยจัดกำลังสุนัขทหาร 1 ชุดปฏิบัติการ มีกำลังพล 6 นาย สุนัข 4 ตัว ซึ่งจากภารกิจของหมวดสุนัขทหารอโณทัย ไม่ได้ใช้เครื่องตรวจระเบิด จีที 200 เป็นอุปกรณ์เพียงชนิดเดียวในการค้นหาวัตถุต้องสงสัยในพื้นที่ มีชุดสุนัขทหารร่วมปฏิบัติการด้วยในหลายภารกิจ ไม่เคยมีสุนัขทหารเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่

"ชุด ตรวจระเบิดสุนัขทหารประสบปัญหาบ้างในบางภารกิจ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว อย่าง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีชุมชนมุสลิมส่วนใหญ่ ไม่ยอมให้สุนัขเข้าพื้นที่ด้วยเหตุผลทางศาสนา จึงทำให้ภารกิจตรวจค้น เพื่อหาตัวคนร้ายและอาวุธไม่สามารถใช้สุนัขได้ทุกครั้ง จึงต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ น่าจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น" พล.ท.กสิกรกล่าว

"จาตุรนต์" จี้นายกฯปลด ผบ.ทบ.

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การที่ พล.อ.อนุพงษ์นำผู้ใต้บังคับบัญชาออกมาแถลงข่าวกรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจี ที 200 โดยมีลักษณะปกป้องตัวเองและผู้ใต้บังคับบัญชา มีลักษณะกระด้างกระเดื่องแข็งข้อต่อนายกรัฐมนตรี ถือเป็นความผิดที่นายกรัฐมนตรีต้องจัดการ ซึ่งตามหลักประชาธิปไตยก็จะให้เป็น ผบ.ทบ.ต่อไปไม่ได้ แต่การพูดอย่างนี้จะขัดกับความจริงเพราะนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชนอย่าง เช่นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายสมัคร สุนทรเวช ยังถูก ผบ.ทบ.คนนี้กระทำในลักษณะเดียวกัน แต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งของ พล.อ.อนุพงษ์ และน่าสงสัยว่ากุมความลับนายกรัฐมนตรีไว้ ประกอบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมาเมื่อเกิดการชุมนุมของประชาชนแล้วกองทัพไม่สนับสนุนเมื่อไหร่ รัฐบาลก็อยู่ลำบาก ดังนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ถือไพ่เหนือกว่า ส่วนนายกรัฐมนตรีอยู่ในที่นั่งลำบากเหมือนลูกไก่ในกำมือ

ด้านนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงที่พรรคเพื่อไทยว่าไม่สบายใจ เพราะผลตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯระบุชัดว่าเครื่องจีที 200 ไม่มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพในการทำงานค้นหาสารประกอบวัตถุระเบิดได้ ดังนั้นทุกฝ่ายต้องให้การยอมรับในผลตรวจสอบ และต้องตรวจสอบเพื่อเอาผิดกับผู้ที่มีส่วนในการอนุมัติให้จัดซื้อ เพราะทำให้รัฐเสียงบประมารนับพันล้านบาท วันที่ 23 กุมภาพันธ์ จะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อ เครื่องจีที 200

เทพไท วอน ‘จาตุรนต์ – พท.’ อย่าโยงจีที 200 ให้เป็นกรณีการเมือง

ด้านนาย นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีความเห็นของนายจาตุรนต์ ฉายแสง ที่เปรียบเทียบนายกฯ เหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือของ ผบ.ทบ.ว่า เป็นการยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ นายเทพไทยืนยันรัฐบาลชุดนี้กับกองทัพมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอดและกองทัพเป็นนายทหารอาชีพจริง ๆ ไม่เคยมากดดันรัฐบาลแต่อย่างใด
         
“ทั้งทหารและรัฐบาลไม่มีความลับอะไรต่อกัน รัฐบาลอยู่ในฐานะผู้บังคับบัญชาของกองทัพเท่านั้นเอง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ได้รับการยอมรับจากกองทัพค่อนข้างสูง และการบริหารราชการแผ่นดินก็เป็นที่ยอมรับของกองทัพและพี่น้องประชาชน คุณจาตุรนต์ไม่ควรยกเอาเหตุการณ์ของรัฐบาลคุณสมัคร รัฐบาลคุณสมชายมาเปรียบเทียบ และท่าทีของผู้นำเหล่าทัพในขณะนั้น ก็เป็นเพราะรัฐบาลชุดนั้นในขณะนั้นไม่ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน และมีการใช้อำนาจทางการเมือง อำนาจของรัฐบาลในทางที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศใช้กฎหมายพิเศษเพื่อใช้กำลังปราบปรามพี่น้องประชาชนกลุ่มพันธมิตร จึงไม่ได้รับการสนองตอบจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ” นายเทพไทกล่าว
         
อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีจีที 200 นั้นนายเทพไทเชื่อว่าเรื่องนี้ทุกฝ่ายก็จะหาจุดลงตัวและไม่นำไปสู่ความขัดแย้งอย่างแน่นอนเพราะทุกฝ่ายต่างยอมรับเหตุผลซึ่งกันและกัน ส่วนการที่ ผบ.ทบ. กล่าวถึงเครื่องจีที 200 นั้น ตนเห็นว่าเป็นการแสดงท่าทีในฐานะที่เป็นผู้ปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ที่มีความรู้สึกต่อการใช้เครื่องจีที 200 มากกว่า

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์, เว็บไซต์พรรคประชาธิปัตย์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท