Skip to main content
sharethis

ที่ประชุม ครม.เพิ่มวงเงินหนี้สาธารณะอีก 4.4 หมื่นล้านบาท เป็น 1.75 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 49.81 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ โดยจะนำมาใช้สนับสนุนโครงการไทยเข้มแข็ง

นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. อนุมัติการปรับปรุงแผนบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2553 ครั้งที่ 3 โดยให้เพิ่มวงเงินอีก 43,995.08 ล้านบาท เป็น 1,748,662.70 ล้านบาท จากเดิมที่ 1,704,707.62 ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินใหม่ 13,955.08 ล้านบาท และการบริหารหนี้ 30,000 ล้านบาท

การปรับแผนดังกล่าว ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อปี ภายหลังการปรับแผนอยู่ที่ 49.81% ของจีดีพี ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่ต่ำกว่า 60% ของจีดีพี และมีสัดส่วนภาระหนี้ต่องบประมาณ อยู่ที่ 12.61% ไม่เกิน 15% ของงบประมาณ

การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะดังกล่าว เป็นการปรับปรุง ครั้งที่ 3 โดยจำนวนหนี้ที่เพิ่มขึ้น 4.4 หมื่นล้านบาทดังกล่าว เป็นการกู้ใหม่ 1.4 หมื่นล้านบาท และการบริหารหนี้ 3 หมื่นล้านบาท โดยในส่วนการบริหารหนี้ที่เพิ่มขึ้น 3 หมื่นล้านบาท เป็นการบริหารและจัดการ เงินกู้ เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สำหรับสนับสนุนโครงการลงทุน ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ทำให้วงเงินภายใต้แผนดังกล่าวเพิ่มเป็น 3.5 แสนล้านบาท จากเดิมที่มีการบรรจุไว้เพียง 3.2 แสนล้านบาท

ด้านวงเงินการกู้ใหม่ 1.4 หมื่นล้านบาท เป็นการปรับเพิ่มวงเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ 6 แห่ง จำนวน 1.14 หมื่นล้านบาท เพื่อชดเชยยอดค้างชำระนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือน ช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน โดยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ขอปรับเพิ่มวงเงินกู้ 2.16 พันล้านบาท เพื่อชำระหนี้ค่าดอกเบี้ย และสำนักงานธนานุเคราะห์ ขอบรรจุวงเงินกู้ 400 ล้านบาท สำหรับรองรับหมุนเวียนรับจำนำในช่วงเปิดภาคการศึกษาระหว่าง เม.ย. ถึง มิ.ย.53

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net