ตำรวจบุกยึดเซิร์ฟเวอร์ ‘เคทอง’ คนสนิท ‘เสธ.แดง’

 

เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 53 ที่ผ่านมาเว็บไซต์คมชัดลึกรายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านการสอบสวน กล่าวถึงผลการตรวจสอบข้อกฎหมายเอาผิดกับนายพรวัฒน์ ทองสมบูรณ์ ฉายาเคทอง ลูกน้องคนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ปล่อยข่าวผ่านวิดีโอคลิปวันที่ 26 ก.พ.เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตว่า หลังจากวันที่ 26 ก.พ.จะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นใน กทม.มีเหตุระเบิดธนาคารกรุงเทพฯว่า ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่าย สืบสวนนครบาล 3 ในข้อกฎหมายว่าจะเอาผิดกับนายพรวัฒน์ได้หรือไม่อย่างไร เพราะขณะนี้เขาอยู่ในช่วงประกันตัวคดีที่ถูกจับกุมอาวุธสงครามและเครื่อง กระสุนจำนวนมากในบ้านพักเสธแดง ซึ่งในเรื่องที่นายพรวัฒน์ใช้ถ้อยคำรุนแรงพูดผ่านคลิปวีดีโอในยูทูปวันที่ 26 ก.พ.ว่าจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นต่อเนื่อง กระทั่งวันที่ 27 ก.พ.ได้มีเหตุเกิดขึ้นจริงในหลายจุด

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า การพูดลักษณะนี้ทำให้สังคมเกิดความสับสน สร้างความปั่นป่วนหวาดระแวงในสังคมทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว โดยตนเองได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายพรวัฒน์ จากการหารือข้อกฎหมายและสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจนครบาล ลงความเห็นขอศาลอนุมัติหมายจับนายพรวัฒน์ 2 ข้อหา ภายหลังพบว่า คำพูดที่นายพรวัฒน์พูดนั้นถือมีความผิดเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต

(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย

(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ

(3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี

และข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสียหาย หรือชื่อเสียงของผู้ถูกขืนใจนั้นจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยได้กระทำไปเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจ ทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใดและยักยอก ลหุโทษจำคุก 3 เดือน

 

บุกค้นอาคารโทรคมนาคมเก็บเซฟเวอร์ "เคทอง"

ต่อมาเมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รอง ผบก.ปอท. นำกำลังกว่า 20 นาย พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นศูนย์อินเตอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์ ที่อาคารโทรคมนาคม (CAT TOWER) ชั้นที่ 13 เลขที่ 72 ถนนเจริญกรุง ซอยม่วงแค แขวงและเขตบางรัก กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเซิร์ฟเวอร์ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ต บริษัท CAT จากการตรวจค้นพบเซิร์ฟเวอร์ของโปรแกรมแคมฟร็อกห้อง VOICE OF CHANGE จำนวน 1 เครื่อง เลขที่ไอดี 112.155.3.97 จึงยึดไว้ตรวจสอบ

พล.ต.ท.ไถง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ก่อนเกิดเหตุปาระเบิดธนาคารกรุงเทพ 4 สาขา นายพรวัฒน์ หรือ "เคทอง" เข้าไปใช้แคมฟร็อกในห้องสนทนา "VOICE OF CHANGE" โดยถ่ายทอดสัญญาณให้แก่ผู้เข้าชมใจความตอนหนึ่งว่า “ประกาศสงครามกลางเมืองนับแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นแล้วครับ ใครที่เล่นหุ้น ถือหุ้น ถอนออกมาซะ ระเบิดจะดังขึ้นทุกวัน”

"ข้อความที่ เคทอง พูดออกไป จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ซึ่งเป็นการเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2552 มาตรา 18 (8) ว่าด้วยยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตาม และความผิด พ.รบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และมาตรา 14 (2) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกต่อประชาชนโดยมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือไม่เกิน 1 แสนบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจยึดมาได้จะนำเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวไปตรวจสอบที่กระทรวงไอซีทีโดยละเอียด" พล.ต.ท.ไถงกล่าว

ที่มาข่าว: เว็บไซต์คมชัดลึก 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท