เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2553 ที่ประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบล (สอช.ต.)จังหวัดขอนแก่น ได้มีการจัดประชุมสมาชิกสภาฯ ขึ้น ณ ห้องประชุมดอกคูณเสียงแคน ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยมีนายพิทยพันธ์ แวะศรีภา เป็นประธาน , นายสน รูปสูง สมาชิกสภาองค์กรชุมชนตำบลท่านางแนว และรองสภาพัฒนาการเมือง จังหวัดขอนแก่น เข้าร่วมและเป็นผู้ดำเนินการประชุม
ในวาระเพื่อพิจารณา ได้มีการหยิบยกปัญหาการประกันราคาข้าวขึ้นมาพิจารณา เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
ต่างประสบกับปัญหาการจ่ายค่าทดแทนการประกันราคาข้าวที่ไม่เป็นธรรมกันทั่วประเทศ จนกระทั่งได้มีการชุมนุมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มี อ.ภูเวียง , อ.พล , อ.บ้านไผ่ , อ.แวงใหญ่ และ อ.แวงน้อย เพื่อให้มีการปฏิบัติต่อเกษตรกรโดยยุติธรรม – เท่าเทียมกัน จนเป็นข่าวคราวหลายครั้ง จนได้มีการนำมาตรการปิดถนนมาใช้ในที่สุด
ในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นให้จัดทำเป็นบันทึกเสนอในนาม สอช.ต.ขอนแก่น เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง
ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน ดังต่อไปนี้
-
บันทึกถึง ที่ประชุมสภาองค์กรชุมชนระดับชาติ ให้นำเรื่องนี้ขึ้นหารือ – เจรจากับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาในประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยมีมาตรฐาน – วิธีปฏิบัติที่เป็นแบบเดียวกันทั่วประเทศ
-
บันทึกถึง สภาพัฒนาการเมือง ให้มีการตั้งกรอบงบประมาณสำรองเพื่อสนับสนุนการใช้สิทธิทางการเมืองของพลเมืองตามข้อเสนอในแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ของสภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งชมพู อ.ภูเวียง ซึ่งปรากฏตามข่าว
หลังจากที่ประชุม สอช.ต.ขอนแก่น ปิดการประชุมครั้งที่ 1 / 2553 เวลา 15.00 น. แล้ว นายพิทยพันธ์ แวะศรีภา ประธาน สอช.ต.ขอนแก่น ได้นำตัวแทนระดับจังหวัดของ สอช.ต.ทุ่งชมพู , แกนนำเกษตรกร ต.ทุ่งชมพู และสมาชิก สอช.ต.ขอนแก่น หลายคน เพื่อนำปัญหา และข้อเสนอของเกษตรกรในอำเภอภูเวียง มอบให้ นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ เพื่อหาทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป
แถลงการณ์
เรื่อง เสนอแนะแนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาความผิดพลาดซ้ำซากจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่รัฐ
มีหลายครั้งที่นโยบายแก้ปัญหาของรัฐเริ่มต้นด้วยหลักการอันดีงามและสร้างสรรค์ แต่หลาย โครงการกลับเหลวไม่เป็นท่าเมื่อมาถึงขั้นตอนการแปลงนโยบายเป็นการปฏิบัติ กรณีการจ่ายเงินค่าทดแทนการประกันราคาข้าวตาม“โครงการประกันรายได้เกษตรกร” ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่นี้ก็เป็นอีกกรณีหนึ่ง ทั้งนี้มีเหตุผลง่าย ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญหนึ่งในการประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวของโครงการนั้น ๆ คือ
1. เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายบางส่วนเห็นว่าเป็นการเพิ่มภาระงาน จากหน้าที่ปกติของเขา แต่ค่าตอบแทนกลับไม่เพิ่มตาม จึงทำงานแบบขอไปที
2. รัฐไม่พยายามใช้ทุนที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ เช่น ไม่ร่วมมือกับคนในพื้นที่ซึ่งเข้าใจปัญหาและรู้จริงในรายละเอียดปีกย่อย มากกว่าเจ้าหน้าที่รัฐ เพียงเพราะคนผู้นั้นไม่สังกัดภาครัฐ (เป็นภาคประชาสังคมและภาคอื่น ๆ )
สภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งชมพู อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นองค์กรนิติบุคคลตามพระ ราชบัญญัติสภาองค์กรชุมชน พ.ศ. 2551 ได้ศึกษาข้อมูลและมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับมอบ หมายให้ปฏิบัติงานตามโครงการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ต่อกรณีการจ่ายเงินค่าทดแทนการประกันราคาข้าว นี้ รัฐควรจ่ายค่าทดแทนตามที่เกษตรกรร้องขอ พร้อมทั้งจ่ายค่าจัดการชุมนุมและค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับผู้ร่วมชุมนุมตามอัตรา ค่าแรงขั้นต่ำ
2. ต่อแนวทางการแก้ปัญหาระยะยาว
2.1 กรณีโครงการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ สุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชน ควรให้ภาคส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
2.2 สนับสนุนให้องค์กร / ภาคส่วนอื่น ๆ ที่สมัครใจและมีความพร้อมเข้ามารับผิดชอบในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาในข้อ 2.1 แทนการเพิ่มภาระให้กับหน่วยงานรัฐ เช่น การจัดทำฐานข้อมูลแปลงผลิตของเกษตรกรเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ เป็นปัจจุบัน อาจให้ขบวนที่ดิน ซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่ทำงานเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้ ร่วมกับ พอช.เป็นผู้รับผิดชอบ เป็นต้น
3. ต่อสภาพัฒนาการเมือง ควรบรรจุกรอบงบประมาณเพื่อการชุมนุมเรียกร้องสิทธิทางการเมืองและมีระเบียบ ให้สามารถขออนุมัติย้อนหลังได้
สภาองค์กรชุมชนตำบลทุ่งชมพู
|