ทั้งนี้กราบขออภัยชาวกรุงเทพหมานครที่ทำให้ไม่สะดวกบ้าง และขอขอบพระคุณที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง ยืนยันว่าที่ทำลงไปก็เพื่อให้ลูกหลานมีสิทธิเสรีภาพไม่ถูกกดขี่ทางชนชั้น กรณีที่มีข่าวว่าถูกขว้างขวดบนถนนระหว่างการเคลื่อนพล ยืนยันว่าไม่มีเพราะมีการขว้างก่อนหน้านี้ พอตนไปถึงก็ได้พูดจาทำความเข้าใจจนเหตุการณ์สงบลง
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นปช.ไม่ปิดประตูการเจรจาเพราะการเจรจาเป็นแนวทางที่ดีที่สุด แต่ไม่ต้องการเจรจากับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนไม่มีราคาโดยเฉพาะนายสาทิตย์ เป็นรัฐมนตรีที่ไม่มีหัวใจประชาธิปไตย แทรกแซงสื่อสารมวลชน จะเจรจากับผู้มีอำนาจสูงสุดคือ นายอภิสทธิ์ ในเงื่อนไขเดียวคือ ยุบสภาทันที ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่าใช้การเจรจาเป็นเวทีรำฉุยฉายซื้อเวลา ซึ่งหลังจากยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่จึงมาเริ่มกระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ โดยจะเริ่มจากการทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ แต่ถ้านายอภิสิทธิ์ ยังมั่นใจว่าเสื้อแดงจะแผ่วหรือหมดกำลังก็ไม่ต้องเจรจา อยู่ไปอย่างนี้
ส่วนประเด็นการนิรโทษกรรม จะมีต้องมีการลงบันทึกหรือไม่ว่าเมื่อเลือกตั้งใหม่จะไม่มีการนิรโทษกรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน แต่ทุกพรรคมีสิทธิบรรจุเป็นนโยบาย สามารถนำไปปฏิบัติได้ ถ้าชนะ ทั้งนี้การเจรจาไม่จำเป็นต้องมีคนกลาง เพราะไม่มีองค์กรใดที่เป็นกลาง รัฐบาลกับเสื้อแดงสองฝ่ายคุยกันได้
“ถ้านายอภิสิทธิ์ ไปไหนจะมีเสื้อแดงเป็น 10,000 ตามไปด้วย ถ้าอยู่ใน กทม.จะระดมคนจากสะพานผ่าฟ้า ถ้าไปต่างจังหวัดจะระดมจากจังหวัดต่างๆ อย่าถามว่าม็อบจะอยู่นานแค่ไหน ควรถามว่านายอภิสิทธิ์ จะอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้นานแค่ไหน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ขณะนี้แกนนำยังไม่ได้กำหนด ซึ่งจะแจ้งมาตรการระดับเข้มข้นให้ทราบในวันที่ 21 มี.ค. ส่วนกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ออกระบุว่ากลุ่มคนเสื้อแดงพยายามใช้ความรุนแรงและคิดแบ่งชนชั้น ขอบอกว่าไม่เคยคิดที่จะใช้ความรุนแรงและแบ่งชนชั้นแต่อย่างใด เพียงแต่ยกเรื่องนี้มาอธิบายเพื่อนร่วมชาติได้เข้าใจเท่านั้น
ด้านนายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า การส่งนายสาทิตย์ กับ นายกอร์ปศักดิ์ มาเจรจา แสดงว่านายอภิสิทธิ์ ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง เพราะถ้ายุบสภาแล้วพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ประโยชน์ สามารถไปหาเสียงในภาคเหนือภาคอีสานได้โดยไม่ถูกต่อต้าน โดยจะต้องมีการลงสัตยาบันร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองและองค์กรเคลื่อนไหวต่างๆ ว่าจะทำให้การหาเสียงเป็นไปอย่างราบรื่นและยอมรับการเลือกตั้ง เวลานี้ไม่ต้องมาพูดถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะนายอภิสิทธิ์ ไม่มีความจริงใจมาตลอด เห็นได้จากร่างรัฐธรรมนูญ ของ คพปร.ซึ่งถูกบรรจุเป็นวาระที่ 1 นานกว่า 1 ปี กลับถูกรัฐบาลเลื่อนมาโดยตลอด
ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ อ้างว่า ถ้ายังเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน พรรคการเมืองจะถูกยุบอีก นายจตุพร กล่าวว่า ไม่เป็นไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภารัฐสภาชุดใหม่ที่ต้องดำเนินการ โดยเสนอให้ประชาชนเลือกระหว่างรัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)