รวบแล้วมือยิงอาร์พีจีใส่กลาโหม สอบปากคำเข้มสาวผู้บงการ

‘ปณิธาน’ เผยจับแล้วมือยิงอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม กำลังสอบปากคำเข้ม ศอ.รส.ชี้แดงแตกต้นตอบึ้ม ‘จตุพร’ เชื่อฝีมือรัฐบาลสร้างสถานการณ์ ป.ป.ช.ขอกำลังตำรวจ-ทหารอารักขาเพิ่ม

2 คนยิงอาร์พีจีใส่กลาโหม
ความคืบหน้าคนร้ายก่อเหตุป่วนเมือง โดยขว้างระเบิดเอ็ม 67 เข้าใส่อาคารสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แห่งใหม่ ที่ถนนสนามบินน้ำ อ.เมืองนนทบุรี โดยระเบิดตกบริเวณสวนหย่อมหน้าอาคาร เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.50 น. วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา และคนร้ายใช้ระเบิดอาร์พีจียิงใส่กระทรวงกลาโหม แต่ระเบิดไปตกบริเวณซอยแพร่งภูธร แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กทม. ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดเวลา 22.00 น. วันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตศ 9818 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ซอยแพร่งสรรพศาสตร์ ห่างจากซอยแพร่งภูธร ประมาณ 700 เมตร ในรถพบปืนกลมือเอ็ม 3 กระสุน 20 นัด เสื้อแดง 2 ตัว กล่องกระสุน และกระสุนปืนขนาด 11 มม. 28 นัด ระเบิดขว้างชนิด เอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก เครื่องยิงอาร์พีจี 1 กระบอก เสื้อยืดคอกลมสีฟ้า ด้านหลังเสื้อสกรีนชื่อ ส.จ.คณะวัฒน์ อังสนานิวัฒน์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ไปตรวจสอบนั้น

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มีนาคม พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการราชแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ที่ สน.สำราญราษฎร์ จากนั้น พล.ต.อ.ปทีป ให้สัมภาษณ์ว่า คดีมีความคืบหน้ามาก คนร้ายที่ก่อเหตุมี 2 คน เป้าหมายทิศทางการยิงเข้าที่กระทรวงกลาโหม โดยมีรัศมีการยิงมาจากทางซอยแพร่งภูธร ส่วนจะเชื่อมโยงกับเหตุที่ ป.ป.ช.พื้นที่ จ.นนทบุรีหรือไม่นั้น ตรวจสอบแล้วไม่พบ

 

วงจรปิดจับภาพผู้ต้องสงสัย
พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ไม่พบคนร้ายตามที่ได้รับแจ้งว่า ได้รับบาดเจ็บ สำหรับรถคันก่อเหตุทางตำรวจนำมาเก็บรักษาไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์ โดยกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบพบว่า กระจกรถด้านซ้ายแตก ขอบประตูซ้ายถูกแรงดันของเครื่องยิงฉีดขาด ลิ้นชักเก็บของในรถหลุดหายและกระจกแค็บของรถหลุดหายเช่นเดียวกัน เนื่องจากเครื่องยิงดังกล่าวมีแรงอัดส่งท้ายสูง

ด้านผู้ชำนาญการตรวจสอบและเก็บกู้ กล่าวว่า จากแนววิถีการยิงและลักษณะท่ายิง คนร้ายยืนออกห่างจากตัวรถประมาณ 5 เมตร และยิงเข้าใส่ตัวเป้าหมายที่ใช้ระยะหวังผลการทำลายร้างประมาณ 500 เมตร ไกลสุด 1,000 เมตร

แหล่งข่าวกล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายเอาไว้ได้ พบว่า เวลา 22.33 น. ชายสูงประมาณ 170-175 เซนติเมตร ผมสั้นรองทรง สวมเสื้อยืดสีดำแขนสั้น กางเกงขายาวทรงทหาร ถือหมวกแก๊ปดำ สวมรองเท้าหนังสีดำ เดินออกจากจุดจอดรถ และเวลาประมาณ 22.33 น. พบชายสูงประมาณ 175-180 เซนติเมตร ตัดผมรองทรง สวมหมวกแก๊ปธรรมดาไม่ทราบสี สวมเสื้อคอปกแขนสั้นลายขวาง กางเกงขายาวทรงทหาร รองเท้าหนังสีดำ สะพายกระเป๋า

"รถคันที่ใช้ก่อเหตุติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม ทะเบียนจริงเป็นรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า และตรวจสอบเลขเครื่องแชสซีส์ ทะเบียน บว 8802 สงขลา มีนางสุนัน โดมหอม เลขที่ 216 ถนนจันทร์-ประทีป อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นผู้ครอบครอง ส่วนกรรมสิทธิ์ยังเป็นของบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง โดยรถคันนี้ได้หลบหนีการติดตามของไฟแนนซ์ มีการขายให้กับบุคคลถึงขั้นตอนนี้ 4 ผู้ครอบครอง" แหล่งข่าวกล่าว

 

"ปณิธาน" ตีปี๊บจับตัวได้แล้ว
นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษก รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น ถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายยิงระเบิดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม และสำนักงาน ป.ป.ช. แห่งใหม่ ว่า จากการตรวจสอบขณะนี้ ได้หลักฐานชิ้นสำคัญที่สาวไปถึงตัวบุคคลได้ โดยหลักฐานชี้ชัดได้ว่าเป็นกลุ่มใด ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามความคาดหมายของรัฐบาลที่ได้ยินกระแสข่าวมา และเตรียมรับมือเหตุการณ์ซึ่งกลุ่มคนร้ายทนแรงบีบของเจ้าหน้าที่ไม่ไหวออกมาก่อเหตุ และครั้งนี้เกิดพลาดทำให้ผู้ก่อเหตุก็ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งรถที่สงสัยก่อเหตุก็ได้รับความเสียหาย

"มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยก่อเหตุที่กระทรวงกลาโหมได้แล้ว และอยู่ระหว่างการสอบปากคำ โดยเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเจ้าของดีเอ็นเอ คราบเลือดของคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นใครมาจากไหนหรือเป็นกลุ่มใด โดยพบคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ในตัวรถ" นายปณิธานกล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สำหรับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ได้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยต้องใช้เจ้าหน้าที่บุคลากรจำนวนมากขึ้น เมื่อถามว่าการข่าวของรัฐบอกล่วงหน้าได้ว่า จะเกิดเหตุตรงไหนแต่ทำไมไม่สามารถป้องกันได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มีการดูแลในพื้นที่ที่คิดว่า เป็นเป้าหมายจริง แต่การคาดการณ์ไม่ได้แม่นยำได้ 100% ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวบ่งบอกว่าจะเป็นการฉกฉวยโอกาสจากสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายขึ้น และห่วงในแง่การชุมนุม

 

ศอ.รส.ชี้แดงแตกต้นตอบึ้ม
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศอ.รส.วิเคราะห์ถึงระเบิดที่เกิดขึ้น 2 จุดเมื่อคืนวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาว่า เป็นความพยายามของผู้พยายามสร้างสถานการณ์ เพื่อเร่งเร้าสถานการณ์การชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างดีที่สุดแล้วแต่ก็เป็นธรรมดาของผู้ที่จ้องจะกระทำ กับผู้ที่พยายามป้องกันนั้นโอกาสผิดกัน ซึ่ง ศอ.รส. ไม่สบายใจและเป็นกังวลอย่างยิ่งกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงไม่มีความเป็นเอกภาพ และมีความคิดที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะแกนนำในปัจจุบันก็ยอมรับกับสังคมว่า ไม่สามารถควบคุมการปฏิบัติของแกนนำอื่นๆ ที่เคยอยู่ร่วมกันได้ และด้วยความไม่เป็นเอกภาพนั้นทำให้มีแนวโน้มที่สามารถเป็นไปได้ว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในการสร้างสถานการณ์ อาจจะมีส่วนเชื่อมโยงหรือมีความเกี่ยวข้องกับความไม่เป็นเอกภาพของแกนนำ

ศอ.รส.ไม่ได้ฟันธงลงไปว่าเป็นฝีมือใคร แต่เราไม่สบายใจ จากภาพที่บังเกิดขึ้น เรื่องความไม่เป็นเอกภาพของแกนนำผู้ชุมนุมอาจจะมีโอกาสและเป็นไปได้ที่จะมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ ในที่เกิดเหตุพบวัตถุพยาน อุปกรณ์อาวุธวัตถุระเบิดที่ยึดได้ รวมทั้งรถ ทำให้เรามั่นใจว่าวัตถุพยานหลายอย่าง การประสานกับนิติวิทยาศาสตร์ ในการเก็บข้อมูลลายมือ มันก็น่าจะสามารถเชื่อมโยงได้ โดยเฉพาะหมายเลขตัวถังรถ ทำให้เชื่อว่ามีข้อมูลที่น่าจะเพียงพอ พ.อ.สรรเสริญกล่าว

 

"จตุพร" ซัดฝีมือคนรัฐบาล
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวถึงเหตุระเบิดที่หน้ากระทรวงกลาโหม และหน้าที่ตั้งของ ป.ป.ช. แห่งใหม่ ว่า ขอให้เข้าใจว่าเป็นฝีมือของรัฐบาลที่สร้างสถานการณ์ โดยมีแหล่งข่าวที่เป็นทหารใน ศอ.รส.ระบุว่า การยิงใส่กระทรวงกลาโหมเป็นการปฏิบัติการที่ผิดพลาดของทหารที่ยิงโดนสายไฟและทำให้ตัวเองบาดเจ็บ ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสงสัยว่า นายปณิธานนำเรื่องนี้มาพูดเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นข่าว ไม่ให้มีการออกข่าวการเคลื่อนมวลชนของคนเสื้อแดงใน กทม.

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ระเบิดที่เกิดขึ้นถือเป็นการสร้างสถานการณ์รายวัน แต่หน่วยงานความมั่นคงที่รับผิดชอบ รวมถึงนายสุเทพ เทือกสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่สามารถป้องกันเหตุร้ายได้ สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการทำงานที่ล้มเหลวผิดพลาดซ้ำซาก จึงขอเรียกร้องให้นายสุเทพ และ พล.อ.ประวิตรรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง

 

ที่มา: เว็บไซต์มติชน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท