เมื่อ 'นักศึกษาจีนฝึกงาน' ใส่แว่นใสๆ สังเกตการชุมนุม

8 มีนาคม 2553 นักศึกษาจีน 2 คน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทยแห่งหนึ่ง เริ่มต้นฝึกงานกับหนังสือพิมพ์ออนไลน์ประชาไท 

ก็เหมือนกับนักศึกษาไทยทั่วไปที่โดยมากไม่ได้สนใจกับปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเวลานี้เท่าใดนัก ยังไม่ต้องนับถึงข้อจำกัดทางด้านภาษาที่จะอย่างไรก็ย่อมไม่แตกฉานเท่ากับคนไทยทั่วไปเป็นธรรมดา 

เพียง 1 สัปดาห์ของการรู้จักกัน ท่ามกลางการปั่นกระแสเรื่องความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชุมนุมของคนเสื้อแดง นักศึกษาจีนฝึกงาน 2 คนนี้ ขอโอกาสลงพื้นที่การชุมนุม หลังจากการชุมนุมได้เริ่มต้นขึ้นเพียง 4 วัน ในการนี้เราจึงได้ ‘ให้งาน’ เป็นบันทึกสั้นๆ ‘อะไรก็ได้’ ที่ได้จากการชุมนุมเป็นภาษาไทย ตามจุดประสงค์ของการฝึกงาน (วิชาการใช้ภาษาไทย)

ต่อจากนี้ คือบันทึกเรียบง่ายที่ได้จากการสังเกตการณ์การชุมนุมของนักศึกษาจีน 2 คน แน่ละไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมากมาย ทว่าในสภาพที่เราหาคนกลางไปชี้วัดอะไรได้ยากเต็มที เรื่องราวการชุมนุมที่ออกมาจากนักศึกษา 2 คนที่มีเพียง ‘แว่นใสๆ’ ไร้อคติใส่ไปสังเกตการชุมนุม จึงน่าสนใจ

ทั้งนี้ กองบรรณาธิการขออนุญาตปกปิดชื่อจริง และสถาบันการศึกษาของนักศึกษาสองคนนี้ ด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย คงมีเพียงชื่อไทยที่อาจารย์และเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยตั้งให้เท่านั้น

0 0 0

1
บันทึกของ ‘เป้ – ชยันต์ เหวย’

วันที่ 17 เดือนมีนาคม ผมได้มีโอกาสไปชุมนุม ผมตื่นเต้นมากที่ได้การเข้าร่วมกิจกรรมอย่างนี้ซึ่งที่ผมไม่เคยเจอในอดีต ตอนที่เข้าบริเวณการชุมนุม ทั้งหมดมีแต่สีแดงเลย เหมือนทะเลสีแดง คนเสื้อแดงเดินไปเดินมาเต็มไปหมด ตอนที่ผมอยู่ประเทศจีนก็เคยได้อ่านข่าวว่า การชุมนุมที่ประเทศไทยเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เราก็ไม่กล้าเข้ามาเมืองไทยเลย

วันที่ 12 เดือนนี้เป็นการชุมนุมวันแรก อาจารย์ที่ปรึกษาเราก็เป็นห่วงมาก ไม่ให้เราไปเข้างานกลัวเป็นอะไร เราไม่รู้ความจริงก็เป็นห่วงเหมือนกัน พ่อแม่ญาติพี่น้องก็เป็นห่วงมาก ไม่อยากให้เราออกไปข้างนอก แต่เมื่อวันนี้เราไปที่สนามการชุมนุม จึงได้รู้ว่ามันไม่อันตรายจริงๆ กลุ่มเสื้อแดงจัดการชุมนุมอย่างความสงบ ที่ข้างๆ ถนนก็มีคนมาขายสินค้าต่างๆ เช่นขายเสื้อแดง หมวก ขายข้าวขายน้ำ เป็นต้น ก็มีคนไปซื้อเยอะด้วย เหมือนไปเที่ยวที่ตลาดนะ HA HA.. พอเดินไปถึงที่เวที ที่นั่นเป็นคนเสื้อแดงเยอะที่สุด มีคนพูดอยู่บนเวทีแล้วเสื้อแดงนั่งอยู่ที่พื้นข้างล่างฟังและตบมือให้ด้วย คนที่พูดคงจะพุดได้ถูกใจคนที่ฟัง แล้วคนที่ฟังตื่นเต้นตลอดเวลาเลย เสื้อแดงมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ตอนที่เราถ่ายรูปพวกเขาก็ยินดีด้วย ยิ้มตลอดเลย ไม่เหมือนที่คนพูดข้างนอกว่าเสื้อแดงรุนแรงและอันตรายเลย แล้วเราก็ได้สัมภาษณ์หลายคน พวกเขาก็ยินดีด้วยอย่างมิตรภาพ เราแค่ถามว่าท่านมาร่วมชุมนุมเพื่ออะไร คนแรกที่เราสัมภาษณ์ เขาบอกว่าตอนนี้รัฐบาลไม่มีความสามารถทำให้ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น เขายกตัวอย่างของเขาว่าสองสามปีที่แล้ว ที่ท่านทักษิณมีความสามารถทำให้ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยดีมาก ตอนนั้นเขามีรถสามคันมาทำค้าขายและธุรกิจก็ดีมาก อยู่ข้างบ้านเขามีร้าน KARAOKE เต็มไปหมด แล้วตอนนี้เศรษฐกิจแย่มาก อยู่ข้างบ้านเขามีแต่ร้านขายน้ำแข็งแล้ว

วันที่ 16 เขาก็ให้เอาเลือดไปด้วย เขาบอกว่าจริงๆ แล้ว เขาอยากให้ตัดหูก็ได้ ไม่กลัว เพราะว่าไม่พอใจจริงๆ เราฟังแล้วรู้สึกถ้าทำอย่างนั้นก็รุนแรงมากแล้ว เราสัมภาษณ์คนที่สอง เขาไม่ได้ใส่เสื้อแดงและแต่งตัวแบบเสื้อแดงอย่างไร เขาเป็นคนที่ไม่เข้าฝ่ายไหนเลย เขามาเพื่อเรียกร้องความไม่พอใจกับรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางเศรษฐกิจ เพราะว่าตอนนี้ประชาชนตกงานเยอะและรัฐบาลไม่มีนโยบายใดมาแก้ไขให้เรื่องตกงานนี้ได้ดีขึ้น

ผมคิดว่าอย่างไรก็ตาม การชุมนุมนี้เป็นทางที่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นของตนเอง อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่อย่ารุนแรง ให้รัฐบาลทราบว่าความไม่พอใจคืออะไรและตั้งนโยบายมาแก้ไขก็พอแล้ว ถ้าหากทำอย่างรุนแรงแล้วข่าวออกไปทั่วโลกจะทำให้ชาวต่างชาติกลัว ไม่กล้าเข้ามาเที่ยวเมืองไทย แล้วเศรษฐกิจไทยจะแย่ยิ่งขึ้น จะไม่คุ้ม สังคมไทยจะไม่มีการพัฒนา

 

0 0 0

2
บันทึกของ ‘เอก - พัสกร จง’

วันพุธที่ 17 มีนาคม 2553 ผมได้ไปที่ชุมนุมสองครั้งแล้ว ในครั้งนี้ ผมได้เจอคนที่แตกต่างกันและมากมาย มีคนที่ทำธุรกิจ คนที่ยากจน คนแก่ คนเด็กๆ ก็ยังมีคนต่างชาติที่มาสัมภาษณ์ด้วย คนเสื้อแดงเพื่อต่อสู้ เพื่อปลดแอก เพื่อได้รับประชาธิปไตย เพื่อได้มีอำนาจ พวกเขาจึงมาร่วมชุมนุมครั้งนี้ บางคนมาจากต่างจังหวัด บางคนอาจจากเป็นคนที่ไม่มีงานทำ บางคนเป็นนักเรียน เป็นต้น พวกเขามาเพื่อร่วมชุมนุม บางคนแม้แต่ย้ายบ้านไปที่พักอยู่พื้นข้างถนนในกรุงเทพ ฯ ด้วย

ในช่วงคุยกับพวกเขา ผมได้เห็นผู้แก่คนหนึ่งที่มีอายุมากกว่า 70 ปีแล้ว เขากำลังกินข้าวกล่องที่เล็ก ไม่ค่อยมีเนื้อ ผมอยากไปคุยกับเขา แต่ผมไม่กล้าไป เขาอาจจะเหนื่อยมากแล้ว ผมกลัวเสียเวลาพักของเขา ผมมีแต่มองอย่างเดียว ประมาณ 10 นาทีแล้ว เขาก็ยืนยักแย่ยักยัน แล้วก็หายไปที่กลุ่มสีแดง ผมรู้สึกสงสารมากและเสียใจมาก การชุมนุมนี้จะจบเมื่ออะไร จะเป็น 10 วันหรือ 20 วันหรือหนึ่งเดือน ในช่วงนี้จะยังมีกี่คนเหมือนแบบนี้แหละ ถ้าจบแล้วแต่คนเสื้อแดงไม่ได้รับความสำเร็จ คนเสื้อแดงจะทำอย่างไงดี ถ้าคนเสื้อแดงได้รับความสำเร็จแล้ว คนเสื้อเหลืองก็จะทำอย่างไงดี หรือว่าคนเสื้อเหลืองจะชุมนุมอีกด้วยหรือ ย้อนกลับไปกลับมาอย่างนี้ ประชาชนไทยจะเป็นอย่างไงดี มีแต่ให้ประชาชนมีความลำบากความยากจนมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าจะเป็นคนเสื้อแดงหรือว่าคนเสื้อเหลืองหรือว่าคนอื่นๆ ความคิดเห็นไม่เหมือนกัน แต่มีประเทศชาติเดียวกัน เมื่อเกิดอะไรขึ้นในระหว่างประชาชน รัฐบาลประเทศจะต้องออกมาเป็นคนกลางที่ช่วยไกล่เกลี่ยปัญหา ต้องคิดถึงประโยชน์ของประชาชนที่ส่วนใหญ่ตลอดเวลา ไม่ใช่คิดถึงประโยชน์เองเดียว ต้องไปหาวิธีที่ดีที่ยังประเทศให้พัฒนาได้ดียิ่งขึ้นและเป็นประเทศที่มีความสงบด้วย

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท