มทบ.33 เรียกค่าเสียหาย 7,600 บาท หลังพระครูสาดเลือดใส่สารวัตรทหาร 3 นาย และสาดเลือดใส่กระถางธูปหน้าอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ ด้านดีเจอ้อม-เพชรวรรตเข้าพบพนักงานสอบเหตุชุมนุมหน้า บก.ตำรวจภาค 5 เผยถูกฟ้องรวม 27 คดี 65 ข้อหา เผยจะระดมรักเชียงใหม่ 51 เข้ากรุงร่วม นปช. ส่วนกลางชุมนุม 3 เม.ย.

ดีเจอ้อม-เพชรวรรตเข้าพบ พนง.สอบคดีชุมนุมหน้าภาค 5

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (30 มี.ค.) นายเพชรวรรต วัฒนพงษ์ศิริกุล น.ส.กัญญาภัค มณีจักร หรือดีเจอ้อม สองแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมด้วยสมาชิกของกลุ่มรวม 8 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อิทธิรัชต์ แสนปัญญา พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่

คดีนี้สืบเนื่องจาก การชุมนุมปิดล้อมกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 ขับไล่ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาตามคดีอาญาที่ 95/2553 ทั้งบุกรุกสถานที่ราชการ มั่วสุมเกิน 10 คน ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ร่วมกันขืนใจเจ้าพนักงาน หมิ่นประมาท กระทำการให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน รวมทั้ง หมด 12 คดี ก่อนจะนำตัวพิมพ์ลายนิ้วมือและทำประวัติ จากนั้นได้ปล่อยตัวและจะนัดมา พบอีกครั้งเพื่อส่งตัวให้พนักงานอัยการ

สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดรวม 11 คน แต่ ได้เข้าพนักงานสอบสวน 8 คน ส่วนที่เหลืออีก 3 คน ที่มีสามเณรอนุวรรณ เขมะชะ รวมอยู่ด้วยยังไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

เฉพาะการเรียกพบของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้ นายเพชรวรรตกับพวกถูกตั้งข้อหารวมทั้งหมด 12 ข้อหา และโดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำสำนวนฟ้องเฉพาะนายเพชรวรรตรวม 27 คดี รวม 65 ข้อหา ทั้งหมดเป็นเหตุที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ

เพชรวรรตลั่นระดมรักเชียงใหม่ 51 สมทบ นปช. ส่วนกลาง 3 เม.ย. นี้

นายเพชรวรรตให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ผลการเจรจาของแกนนำ 3 เกลอกับรัฐบาลที่ผ่านมาถือว่าไม่มีผลอะไรกับคนเสื้อแดง เพราะคนเสื้อแดงออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ให้อภิสิทธิ์ยุบสภา ไม่ได้ออกมาเรียกร้องให้เจรจา ถ้ามุ่งเจรจาอย่างเดียวก็ไม่ต้องชุมนุมก็ได้ ให้แกนนำไปนั่งโต๊ะเจรจาอย่างเดียว

แต่ที่คนเสื้อแดงออกมาชุมนุม ถือเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ โดยในการต่อสู้ของคนเสื้อแดงถ้าเรียกร้องให้ยุบสภาอย่างเดียว คนเสื้อแดงก็ออกมาเป็นล้านแล้ว ดังนั้นไม่ต้องสนใจว่ารัฐบาลจะเจรจาหรือไม่ โดยในการชุมนุมใหญ่ 3 เม.ย. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จะระดมคนเข้ากรุงเทพฯ ให้มากกว่าการชุมนุมใหญ่รอบที่ผ่านมา โดยรอบแรกกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ระดมรถยนต์กว่า 350 คัน รอบ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ระดมรถยนต์เข้ามากว่า 425 คัน และในการชุมนุมใหญ่ที่จะถึงนี้ตั้งเป้าว่าจะระดมรถยนต์ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 คัน

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานคำพูดของนายเพชรวรรต ที่กล่าวว่าในวันที่มีการชุมนุม พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภาค 5 บอกให้คนเสื้อแดง "ว่ากันเต็มที่ ผมไม่ถือ ผมทนได้" แต่มาวันนี้กลับมีการแจ้งความหลายข้อหาเป็นหางว่าว อย่างไรก็ตามนายเพชรวรรตกล่าวว่าพร้อมจะต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม นอกจากนี้กำลังปรึกษาทนายความเพื่อเตรียมฟ้องกลับ ผบช.ภาค 5 หรือ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.

ฟ้องพระสาดเลือดใส่ทหาร ค่ากระถางธูปเสียหาย 7,600 บาท

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ ยังรายงานกรณี พระครูสุเทพสิทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง ที่ถูก พ.ต.ท.ชัชพล องค์ศิริพร พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง ออกหมายเรียกในคดีสาดเลือดใส่สารวัตรทหาร 3 นาย และ ทำให้เสื่อมค่าซึ่งกระถางธูปในบริเวณอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละ หน้ามณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่า ในวันนี้ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาด้วยเช่นกัน

พระครูสุเทพสิทธิคุณ ให้การว่า ในวันดังกล่าวได้นำประชาชนเดินทางไป เพื่อสักการะอนุสาวรีย์พระเจ้ากาวิละเพื่อเป็นขวัญกำลังในก่อนเดินทางร่วม ชุมนุมใน กรุงเทพฯ โดยตั้งใจนำเลือดไปทิ้งที่สุสานหายยา อ.เมืองเชียงใหม่ แต่ปรากฏว่ามีสารวัตรทหารมาขวางไว้ เมื่อขอผ่านดี ๆ ไม่ให้เลยต้องสาดเลือดเข้าใส่ โดยยืนยันว่าไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์โกรธแต่ทำไปเพราะหัวใจประชาธิปไตยที่ทนไม่ได้ที่รัฐบาลย่ำยีศาสนา

สำหรับข้อกล่าวหาสาดเลือด พระครูสุเทพสิทธิคุณ ยอมรับและยินยอมจ่ายค่า ปรับ 500 บาท ส่วนค่าเสียหายของกระถางธูปที่ต้องมีการเปลี่ยนใหม่ในราคา 7,600 บาท  พนักงานสอบสวนจะเรียกตัวแทนจาก มทบ. 33 มาเจรจาตกลงอีกครั้ง

พ.ต.อ.วีระวุฒิ เนียมน้อย รอง ผบก.ภว.เชียงใหม่ ซึ่งเดินทางไปดูแลความเรียบร้อยในการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของกล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะดำเนินการตาม ระเบียบในทุกขั้นตอน และหากผู้ตองหาต้องการอะไรที่อยู่ในระเบียบของกฎหมายตำรวจ ก็จะอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่