รสนา-ไพบูลย์-ประสาร นำกลุ่ม 40 ส.ว. เรียกร้องคนกรุงติดธงชาติที่บ้าน-รถยนต์ ยุแสดงพลังต้าน "เสื้อแดง" อ้างเตรียมก่อจลาจล หวั่น 3 เม.ย. เหมือนพฤษภาทมิฬ "รสนา"ชี้ ภัยคุกคามประเทศ สื่อรุมซักที่มาของข่าว อ้ำอึ้ง ไม่มีใครตอบได้ ก่อนที่ "ประสาร มฤคพิทักษ์" จะลุกหนีจากห้องแถลงข่าว 

1 เม.ย.53 ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 12.00 น. กลุ่ม 40 ส.ว. นำโดย นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา นางสาวรสนา โตสิตตระกูล ส.ว.กทม. นายประสาร มฤคพิทักษ์ และพล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ว.สรรหาร่วมกันแถลงรณรงค์ คัดค้านการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 3 เมษายน ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรงและร่วมปกป้องกรุงเทพ ปกป้องประเทศไทย

โดยนายประสาร กล่าวว่า จากการประเมินวิเคราะห์สถานการณ์และรายงานข่าวของการชุมนุมคนเสื้อแดงในวันที่ 3 เมษายน ที่จะมีการระดมมวลชนครั้งใหญ่ มีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงโดยการสร้างสถานการณ์ก่อความรุนแรงด้วยการยิงระเบิดใส่ผู้ชุมนุม ให้มีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากนั้นศพและคนบาดเจ็บจะกลายเป็นเครื่องมือ ปลุกให้เกิดความเคียดแค้น นำไปสู่การก่อจลาจล นอกจากนี้ทราบว่าจะมีการระดมกลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ไม่น้อยกว่า 5,000 คัน ออกสร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นทั้งเมือง จนนำไปสู่สถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ และนำไปสู่การบีบบังคับให้มีการเจรจาตามรูปแบบเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535

"กลุ่ม 40 สว. ขอเรียกร้องให้ผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมโปรดไตร่ตรองอย่างรอบคอบเพราะเป้าหมายการชุมนุมไปไกลเกินกว่าการเรียกร้องให้ยุบสภาไปแล้วแต่กลายเป็นการก่อจลาจลเพื่อหวังช่วยเหลือให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษอาญาแผ่นดินพ้นผิด และขอให้ประชาชนและชุมชนในกรุงเทพ และปริมณฑลติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และยกระดับการเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น เพราะการก่อการจลาจลเป็นการทำลายความสงบสุขของประเทศชาติและประชาชน ดังนั้นประชาชนพลเมือง เครือข่ายชุมชุนกรุงเทพ ประชาชนทั่วประเทศ ต้องลุกขึ้นมาจัดตั้งและจัดการตนเองในการเฝ้าระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและชุมชน และร่วมกันต่อต้านการจลาจล" นายประสารกล่าว

ด้านน.ส.รสนา กล่าวว่า วิกฤติการณ์ครั้งนี้เป็นวิกฤติของบ้านเมือง ไม่ใช่รัฐบาล เพราะฉะนั้น คนไทยทุกคน โดยเฉพาะ ประชาชนเขตกทม.ต้องลุกขึ้นมาป้องกันตัวเอง โดยการเฝ้าระวัง เพราะแกนนำคนเสื้อแดงอาศัยประชาชนที่เป็นมวลชน ปลุกระดมสร้างความรุนแรง ถือเป็นภัยคุกคามของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามของรัฐบาลแล้ว ขณะนี้เป็นสงครามสัญลักษณ์ จึงขอเชิญชวนให้ชาวกทม.ติดธงไตรรงค์ไว้ที่รถยนต์เพื่อแสดงถึงความต้องการเรียกร้องให้เสื้อแดงยุติความรุนแรงขอความสงบให้บ้านเมือง และแกนนำเสื้อแดงยุตติการชุมนุม เพราะรัฐบาลประกาศแล้วว่า สามารถประกาศยุบสภา ได้ก่อนครบวาระ และขอให้รับบาลตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย ให้ถือเป็นวาระแห่งชาติ การที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โฟนอิน ปลุกระดมให้ชุมนุมใหญ่วันที่ 3 เมษายนนี้ ถือเป็นภัยคุกคามของชาติเป็นความไม่หวังดีของประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การจลาจล เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่เป็นเรื่องของการใช้อำนาจ ซึ่งแกนนำควรยุติ การทำตามคำสั่งของพ.ต.ท.ทักษิณ ได้แล้ว เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ

น.ส.รสนา กล่าวต่อว่า การชุมนุมที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่เรื่องการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 แต่กลายเป็นภัยคุกคามบ้านเมือง ที่ผ่านมามีการก่อความรุนแรงด้วยวิธีปาหรือยิงระเบิดเข้าสถานที่ต่างๆกว่า 20 ครั้ง เพื่อเป็นการปูทางนำไปสู่การแตกหักการจลาจล เพื่อให้รัฐบาลประกาศยุบสภาทันที

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามหลายครั้งถึงกรณีระบุว่ารับทราบจากการข่าวว่าจะมีกลุ่มก่อการร้าย เพื่อนำไปสู่การก่อจลาจลในวันที่ 3 เมษายนนี้ เอาแหล่งข่าวมาจากไหน แต่ทางกลุ่ม 40 ส.ว. ได้บ่ายเบี่ยงที่จะตอบข้อซักถาม ซึ่งผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าทางศอ.รส.เองรายงานว่าไม่น่าจะเกิดความรุนแรง นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ตอบแบบอ้ำอึ้งว่า ต้องไปถามนายประสาร เพราะเป็นผู้ให้ข่าวนี้มายังกลุ่ม 40 ส.ว. แต่ปรากฏว่านายประสารได้ลุกเดินหนีออกจากห้องแถลงข่าวทันทีที่ได้แถลงข่าวเสร็จ โดยไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวเพิ่มเติม เมื่อถามย้ำว่าการออกมาให้ข้อมูลแบบนี้จะเป็นการเติมเชื้อไฟเข้ากองเพลิงหรือไม่ ซึ่งปรากฏว่าไม่มีใครชี้แจงคำถามดังกล่าว

ที่มา: เว็บไซต์มติชน