‘ปลื้ม’ เตือนเสื้อแดงทำเกินเลย ถึงเวลาต้องถอย

ปลื้มเตือนการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงส่งผลต่อเศรษฐกิจ และหากยังคงยืดเยื้อต่อไปอาจ ‘เน่า’ แบบตอนพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน และหากมีเงื่อนไขให้รัฐบาลปราบม็อบ ก็อาจเกิดรัฐประหารล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งทำให้ ‘เสียด้วยกันทั้งสองฝ่าย’

แดงทำเกินเลย ถึงเวลาต้องถอย
เมื่อวันที่ 5 เม.ย.53 ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ได้กล่าวในรายการ Daily Dose ออกอากาศทาง Voice TV เมื่อเวลา 18.14 น. ในชื่อตอน “แดงทำเกินเลย...ถึงเวลาต้องถอย เพราะถ้าไม่ในที่สุดจะถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้าย” โดยกล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนพลไปยึดพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา สร้างความวุ่นวายให้กับประเทศชาติมากทีเดียว เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 ฝ่าย (กกร.)ได้ประเมินว่าแต่ละวันมีการสูญเสียรายได้ไปถึงวันละ 200-300 ล้านบาท บริเวณนั้นมีทั้งโรงแรมที่ชาวต่างชาติพักอยู่ นักลงทุนก็มากเหมือนกัน ทั้งยังห้างสรรพสินค้าหลายห้าง ถ้าเกิดยึดพื้นต่อติดต่อกันไปเป็นเวลา 1 เดือน อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นเม็ดเงินถึง 2 หมื่นล้านบาท

ถ้าเสื้อแดงถอยไม่ทัน มีสิทธิ ‘เน่า’ เหมือนเสื้อเหลือ
ณัฏฐกรณ์ กล่าวว่า การเคลื่อนพลของกลุ่มเสื้อแดงในครั้งนี้นั้น เกินเลย” จุดหรือเส้นแบ่ง ระหว่างสิ่งที่ ควร” และ ม่ควร แล้ว ผลกระทบต่อประเทศไทยไม่ต้องพูดถึง กกร. ได้พูดไว้อย่างชัดเจนแล้วถ้าย้อนกลับไปดูในอดีตตั้งแต่การยึดอำนาจปี 49 การปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง แล้วก็การยึดทำเนียบรัฐบาลของพันธมิตรฯ ในปัจจุบันการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นที่ กกร.แถลงนั้นส่วนใหญ่ก็มีเหตุมีผลจริงๆ

ถึงเวลาแล้วที่เสื้อแดงจะต้องประเมินสถานการณ์ใหม่  แล้วก็หาวิธีการที่จะเคลื่อนกดดันรัฐบาลแบบที่เป็นสันติวิธีจริงๆ การเคลื่อนพลแบบนี้ไม่สันติเท่าไร ถ้าคุณดูในวันนี้ การที่ส่งกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปที่ศูนย์ราชการของกกต.แล้วก็บุกเข้าไปในหน่วยงานราชการเข้าไปเดินเพ่นพ่านกันวันนี้ ถือว่าไม่สันติแล้ว ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแน่นอน ปฏิเสธไม่ได้ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความชอบธรรมแล้วที่จะจับกุมตัวเสื้อแดงทุกคนที่บุกเข้าไปในสถานที่ราชการด้วยซ้ำไป แต่ผมก็ไม่เห็นมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
“แน่นอนเส้นแบ่งที่เคยมีระหว่างพฤติกรรม ที่ถือว่าเป็นพฤติกรรมของอารยะมวลชน กับพฤติกรรมที่เป็นอนารยะมวลชน ผมเชื่อว่าเสื้อแดงในตอนนี้ได้ผ่านมายังซีกข้างนี้แล้ว” ปลื้มกล่าว
เขากล่าวอีกว่า เป็นเรื่องที่ต้องประเมินกันดีๆ ถ้าหากถอยไม่ทันแล้วเสื้อสีแดงจะเน่าเหมือนเสื้อสีเหลือง แบบที่ตอนนั้นพันธมิตรฯ ได้ยึดทำเนียบ ได้ปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง นี่เป็นสิ่งที่แกนนำเสื้อแดงต้องเก็บไปประเมินแล้ว

“การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ใช่เป้าหมาย เป็นสิ่งที่ไม่ควรที่จะบรรลุหรือได้รับความชอบธรรม เป้าหมายคือผมก็ไม่อยากเห็นคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกัน  แต่ว่าวิธีการที่ใช้ตอนนี้  ผมมานั่งดูแล้วต้องถามดูว่ามันคุ้มหรือเปล่าที่จะทำลายภาพพจน์และเศรษฐกิจชาติขนาดนี้  แน่นอนว่าเป้าหมายเป็นสิ่งที่อยากเห็น แต่วิธีการมันอาจจะไม่คุ้ม  มันอาจจะมากเกินไปแล้ว” ปลื้มกล่าว

ตั้งสมมุติฐานระเบิดมีจุดประสงค์ทางการเมือง

เขากล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขนานไปกับ กลุ่มคนเสื้อแดงก็คือเมื่อคืนก่อนเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้นที่สถานอาบอบ นวดชื่อดัง โพไซดอน” ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง ระเบิดเป็นคาร์บอม TNT ประมาณ 10 ปอนด์ ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ ไม่ใช่ M79 ไม่ใช่ M67 ที่โยนเข้าไปแล้วก็ด้าน นี่เป็นระเบิดที่ทำให้รถยนต์คันนั้นพังทลายเป็นเศษ ถ้าเป็นการทำคาร์บอมแล้วมีคนอยู่บริเวณนั้นพลุกพล่าน จะมีคนตายเป็นสิบ เผลอๆเป็นร้อย
เขากล่าวว่า ไม่ได้กล่าวหาว่ารัฐบาลหรือคนเสื้อแดงเป็นคนทำ ไม่ว่าใครเป็นคนทำก็ต้องหาทางจับกุมให้ได้ แต่ว่าอย่างไรก็ดี คุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการวางระเบิดในจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น NBT หรือพื้นที่ในหลายจังหวัด แล้วอาจจะมีอีกในคืนวันนี้หรือคืนวันพรุ่งนี้ก็ได้
อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าการวางระเบิดใน จุดต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ทำเพื่อกดดันรัฐบาลให้ยุบสภา ไม่ว่าเป็นฝีมือของใคร เป้าประสงค์ของการวางระเบิดเป็นเป้าประสงค์ทางการเมือง ถ้าวิเคราะห์ภาพรวมและเข้าใจการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นแบบเป็นคู่ขนานกันไป
“ผมถึงบอกว่าถ้าเสื้อแดงไม่ถอยนั้น เวลาผ่านไปแล้วคนมองกลับมา เขาจะมองแล้วว่านี่เป็นการเคลื่อนไหวที่เปรียบเสมือนการก่อการร้ายไปพร้อมๆ กัน ทั้งๆ ที่คนที่เข้ามาชุมนุมไม่ได้มีส่วนร่วมกับการวางระเบิดเลย” ณัฏฐกรณ์กล่าว 

ไม่ใช่  ‘win- win situation’ หากแต่เป็น ‘lose –lose situation’
เขากล่าวว่า หากมองข้ามไปอีกนอกเหนือจากการกระทำของเสื้อแดงที่เกินเลยไปแล้ว ถ้ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์แล้วปล่อยให้เกิดไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็จะเปิดช่องให้ทหารอ้างว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมรักษา ความสงบในประเทศไว้ และทหารสามารถออกมายึดอำนาจได้อยู่ดี รัฐบาลก็ต้องไปอยู่ดีโดยไม่ใช่เหตุผลที่เสื้อแดงนั้นชุมนุมขับไล่ให้รัฐบาลยุบสภา เราอยู่ในช่วงที่สถานการณ์รุนแรงขึ้นมาก ทหารหาเรื่องยึดอำนาจได้เสมอ
“รัฐบาลต้องเลือก รัฐบาลต้องปราบม็อบ ไม่ให้เคลื่อนไหวแบบไม่สันติ ไม่ให้เคลื่อนไหวแบบยึดพื้นที่แบบที่กระทบต่อชีวิตประชาชนทุกคน อย่างที่สี่แยกราชประสงค์ รัฐต้องสามารถทำให้ม็อบไม่สามารถยึดพื้นที่ในหน่วยงานราชการได้ แบบที่ทำที่กกต. ในวันนี้ รัฐบาลต้องปราบคนที่อยู่เบื้องหลังการวางระเบิด ถ้ารัฐบาลปล่อยให้เละแบบนี้ไปเรื่อยๆ แบบนี้ ในที่สุดรัฐบาลนี้ก็ต้องไปอยู่ดี เพราะเป็นรัฐบาลที่ล้มเหลว นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ win- win situation สำหรับใครเลย นี่เป็นสถานการณ์ที่เป็น lose –lose situation เสื้อแดงก็จะพัง รัฐบาลนี้ก็จะพัง แล้วในที่สุดเผลอๆ ประเทศนี้ก็จะพัง เศรษฐกิจไม่ต้องพูดถึง น่าเป็นห่วงทีเดียว” ปลื้มกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท