"กษิต" พูดถึงเรื่องสถาบันกษัตริย์ที่สหรัฐอเมริกา

รายงานจาก "นิวยอร์กไทมส์" เกี่ยวกับเรื่องความเปลี่ยนแปลงของไทยในประเด็น “บทบาทสถาบันกษัตริย์” จากคำกล่าวของ "กษิต ภิรมย์" รมว.ต่างประเทศของไทย ที่มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอบกิ้นส์ สหรัฐเมริกา  

แปลและเรียบเรียงจากบทความ “Thai Official Broaches Taboo Topic: Role of the Monarchy” เขียนโดย Seth Mydans หนังสือพิมพ์ New York Times วันที่ 14 เมษายน 2010 http://www.nytimes.com/2010/04/15/world/asia/15thai.html
เสียงของกษิต ภิรมย์
http://www.sais-jhu.edu/news-and-events/index.htm#kasitrecording%20of%20speech

นิวยอร์คไทม์ส-เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลไทยกันตัวเองให้มีระยะห่างจากคำพูดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งบรรยายถึงภาพความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของประเทศในปัจจุบัน ในฐานะที่สังคมกำลังก้าวไปข้างหน้าจากสิ่งต่างๆ และยังนำมาซึ่งการเริ่มถกเถียงถึงสิ่งที่เขาเรียกว่า “เรื่องต้องห้าม” เกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงต่อสถาบันกษัตริย์ของประเทศไทย

“รัฐบาลไม่มีความเห็นต่อคำพูดดังกล่าว” ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาลกล่าว “มันไม่ใช่นโยบายทางการ มันเป็นคำพูดส่วนบุคคล” 

กษิต ภิรมย์ กล่าวในการปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอบกิ้นส์ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐเมริกา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในปัจจุบันในประเทศไทยว่าเป็น “ประสบการณ์ที่เจ็บปวด” ซึ่งเป็น “ส่วนหนึ่งของกระบวนการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสังคมที่เปิดกว้างและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น” 

เขากล่าวอีกด้วยว่า  “เราควรจะมีความกล้าหาญพอที่จะก้าวผ่านเรื่องต่างๆ ทั้งหมด แม้แต่การพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์อันเป็นเรื่องต้องห้ามก็ตาม” เขาเพิ่มเติมอีกว่า “ผมคิดว่าเราต้องพูดเรื่องเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ และเรื่องที่ว่าสถาบันกษัตริย์อาจจะต้องปฏิรูปตัวเองอย่างไรในโลกโลกาภิวัตน์สมัยใหม่”

จากการบรรยายของเขาในสถาบันวิชาการของสหรัฐ กล่าวได้ว่า มันเป็นมุมมองเกี่ยวกับโครงสร้างอำนาจของไทยซึ่งได้ถูกฉุดให้จมดิ่งจากปัญหาการเมืองและการแข่งขันกันกำหนดวาระต่างๆ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยตกอยู่ในการเผชิญหน้ากันเป็นระลอก อันเป็นการเปิดให้เห็นความขัดแย้งทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างชนชั้นนำที่รักษาสถานะของตัวเองอย่างเหนียวแน่นกับคนธรรมดาส่วนใหญ่ที่เป็นคนจน

มากไปกว่านั้น การถกเถียงเรื่องสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทยถูกจำกัดโดยกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี 

ในปี 1932 ประเทศไทยสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอันพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยพระมหากษัตริย์ไม่มีบทบาททางการเมือง ในขณะเดียวกันพระมหากษัตริย์ของไทยซึ่งมีพระชนมายุ 82 พรรษา ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในโลก และเป็นที่เคารพนับถือโดยคนไทย และทรงมีอำนาจในทางศีลธรรมอย่างสูงต่อสาธารณะ อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่เดือนกันยายน ท่านทรงพระประชวร ซึ่งอาการพระประชวรดังกล่าวได้เพิ่มความรูสึกกังวลต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในการกำหนดทิศทางของประเทศในระยะต่อไป

กลุ่มคนเสื้อแดงผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจนได้ชุมนุมกันเต็มถนนในกรุงเทพในระยะเวลากว่า 1 เดือน เรียกร้องให้รัฐบาลลาออกและจัดการเลือกตั้งใหม่ และส่วนใหญ่ปรารถนาให้อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร กลับมา 

นายกษิต อยู่ที่วอชิงตัน ดี.ซี. เข้าร่วมการประชุมความมั่นคงทางนิวเคลียร์ โดยนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ยกเลิกการเดินทางเนื่องจากปัญหาทางการเมืองในประเทศ

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดความรุนแรงทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี เมื่อทหารและผู้ชุมนุมปะทะกันทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คนและเกือบ 900 คนได้รับบาดเจ็บ 

ในวันพุธ คนเสื้อแดงได้ย้ายการชุมนุมจากพื้นที่ที่ปะทะกันกลับมารวมกันที่ใจการย่านการค้าของกรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน มีผลให้ห้างร้านและธนาคารปิดลงและกระทบต่อธุรกิจโรงแรมหลายแห่ง

ในเวลาเดียวกัน  ก็มีการให้สัญญาณฝ่ายตรงข้ามกับคนเสื้อแดงออกมารวมตัวกัน ซึ่งกลุ่มคนเสื้อเหลืองประกาศว่าจะเดินขบวนประท้วง 

ในประเด็นปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองข้างต้น นายกษิต ภิรมย์ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ถึงผลลัพท์ แต่ผมยังมองโลกแง่ดีว่า เราจะสามารถมีฝ่ายเสื้อเหลือ เสื้อแดง เสื้อน้ำเงิน เสื้อชมพู สีเขียว สีขาว และเสื้อสีอื่นๆ เข้าร่วมอยู่บนโต๊ะเจรจาในระยะเวลาอันใกล้นี้ และมีการพูดคุยกัน” และเขาเพิ่มเติมอีกว่า “ประเทศไทยไม่สามารถจะเป็นแบบนี้ได้ต่อไป และจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาในภูมิภาค”  

เมื่อถามเกี่ยวกับทักษิณว่าเขาจะมีบทบาทในรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ นายกษิต ตอบว่า “เขาต้องกลับมาและรับโทษจำคุก หลังจากนั้นเราสามารถเริ่มกระบวนการนิรโทษกรรมได้” 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท