Skip to main content
sharethis
15 เม.ย.53  เวลาประมาณ 18.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ประกาศบนเวทีปราศรัยแยกราชประสงค์ว่า แม้ที่ผ่านมาประชาชนจะถูกระทำอย่างชัดแจ้ง แต่รัฐบาลก็ไม่ละเว้นที่จะสร้างละครมาทำลายภาพลักษณ์ของนักประชาธิปไตย โดยมีการกระทำ 2 ประการ คือ 1. มีการนำคลิปของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปเผยแพร่ในเว็บต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่ไม่เป็นความจริง มีการตัดต่อถ้อยคำสร้างเรื่องว่าเขากล่าวถ้อยคำหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งไม่สามารถนำมากล่าวซ้ำได้ แต่ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง 2. มีการกล่าวอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินหรือวิดีโอลิงค์ในวันที่ 13 เม.ย.แล้วกล่าวกับประชาชนว่าให้อดทน เสียสละต่อสู้ต่อไป แล้วจะกลับมาเป็นประธานาธิบดีของประเทศไทย ทั้งที่ทักษิณไม่ได้โฟนอินหรือวีดิโอลิงก์มายังที่ชุมนุมนานแล้ว เป็นการร้างความเข้าใจผิดเพื่อให้คนข้าใจว่าทักษิณจะโค่นล้มสถาบันและคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มที่ไม่จงรักภักดี ปลุกให้ประชาชนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงออกมาต่อต้านคนเสื้อแดง
“นี่เป็นการจุดไฟสงครามกลางเมือง อย่าว่าที่แต่รัฐบาลที่ดี แม้แต่รัฐบาลที่เลวๆ ที่สุดในโลกก็ไม่มีใครเขาทำกัน” นายวีระกล่าว และขอร้องให้ประชาชนช่วยกันบอกต่อข้อเท็จจริงนี้ เพราะไม่สามารถพึ่งพาสื่อของรัฐที่มีแต่คอยกระทืบซ้ำคนเสื้อแดงได้
วีระยังกล่าวถึงการเจรจาว่าที่ผ่านมามีคนพยายามวิ่งเต้นให้เกิดการเจรจาที่อย่างชอบธรรม แต่รัฐบาลไม่นำพา แม้มีการบริหารผิดพลาดจนสูญเสียชีวิตของทหาร พลเรือนเป็นจำนวนมากก็ยังไม่รู้สึกว่านี่คือความรับผิดชอบของคนที่เป็นรัฐบาล
“เราจำเป็นต้องยืนหยัดอย่างมั่นคง เรายังต้องยึดหลักสันติอหิงสาไม่เปลี่ยนแปลง และจะต่อสู้อยู่อย่างนี้จนกว่ารัฐบาลนี้จะยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน” วีระกล่าว
ด้านจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. ได้กล่าวต่อจากนายวีระว่าในวันพรุ่งนี้ (16เม.ย.) นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ จะนำคดีของคนเสื้อแดงทังหมดเป็นคดีพิเศษที่ให้หน่วยสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดูแล จึงขอเรียนกับอธิบดีดีเอสไอว่าจะต้องเอาคดีสั่งฆ่าประชาชนมาปฏิบัติด้วย เพราะนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพคืออาชญากร นอกจากนี้ได้ร้องขอกับบรรดาญาติวีรชนทั้งหมดให้ทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม รวมไปถึงคนเจ็บทั้งหมด ซึ่งเตรียมจะทยอยแจ้งความดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์แล้ว และหลังจากการดำเนินคดีเสร็จสิ้นก็จะนัดหมายกันเพื่อพิธีฌาปนกิจศพ
จตุพรกล่าวต่อว่า การที่ส.ส.ประชาธิปัตย์ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กล่าวว่าการที่คนเสื้อแดงย้ายเวทีจากผ่านฟ้ามารวมกันที่ราชประสงค์เพราะผู้ประกอบการสลากกินแบ่งได้ว่าจ้างเป็นเงิน 100 ล้านบาท ขณะที่เมื่อมาถึงที่นี่ก็ได้ไปข่มขู่เรียกค่าคุ้มครองกับผู้ประกอบการที่ราชประสงค์อีก ขอถามว่าคนเสื้อแดงอยูที่ผ่านฟ้าจำนวนมากผู้ประกอบการสลากกินแบ่งย่อมได้ประโยชน์จะให้ย้านทำไม และหากมีการเรียกค่าคุ้มครองผู้ประกอบการที่ราชประสงค์จริงขอให้แสดงตัวออกมา แต่ถ้าไม่มีพรรคนี้ก็ควรตบปากตัวเอง ประชาชนถูกฆ่ายังสามารถมาเล่นการเมืองกันอย่างสนุกสนานได้

จตุพรยังกล่าวถึงการแถลงข่าวของพล.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.ด้วยว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ อธิบายความข้างเดียว หากเป็นชายชาติทหารจริงกล้าไหมที่จะออกทีวีพร้อมคนเสื้อแดง เพื่อจับผิดคลิปกันซึ่งหน้า ไม่ใช่ใส่ร้ายป้ายสีข้างเดียวขณะที่ปิดพีเพิลชาแนล วิทยุและเว็บไซต์หมด เท่ากับเป็นการมัดมือชก แล้วยังจะภูมิใจได้อย่างไร หากจะสู้รบก็ควรสู้รบอย่างเสมอกัน นอกจากนี้จตุพรยังตั้งคำถามถึงพลทหารทีเสียชีวิตอีก 3 นายนอกเหนือจากพล.อ.ร่มเกล้าว่าที่ไม่มีการนำผลชันสูตรมาชี้แจงกับสาธารณะ ทั้งยังปิดบังซ่อนเร้น เป็นเพราะไม่กล้าเปิดเผยผลชันสูตรที่จะออกมาตรงกับอาวุธของกองทัพไทยใช่หรือไม่ ส่วนประชาชนผู้เสียชีวิตทั้ง 18 ชีวิตมีการชันสูตรแล้วว่าโดนอาวุธสงคราม ทั้งเอ็ม 16 ปืนยิงรถถึง ซึ่งคนที่ใช้ก็คือทหาร และตรงกับอาวุธที่มีการยึด แม้กระทั่งสไนเปอร์ ซึ่งต้องนำภาษีประชาชนไปซื้อถึงกระบอกละ 5-6 ล้านบาท ทำไมเรื่องเหล่านี้จึงไม่มีการออกมาตอบคำถามบ้าง

เขายังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาหนุนรัฐบาลว่า สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ต้องตอบคำถามคือ จริงหรือไม่ที่มีการใช้งบประมาณแผ่นดินให้ทหารที่เป็นการ์พันธมิตรฯ ออกมาร่วมก่อการสร้างสถานการณ์นำพาสู่ 6 ตุลา 19 ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ได้พูดด้วยความกลัวแต่ต้องการถามว่าใครที่อยู่หลังอภิสิทธิ์ต้องการให้ประเทศเสียหายมากกว่านี้ใช่ไหม และยังเตือนถึงแกนนำพันธมิตรด้วยว่าวันนี้คนไม่กลัวกันแล้ว พันธมิตรฯ ออกมาเท่าไรคนเสื้อแดงจะออกมาอีก 10 เท่า 100 เท่า

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net