Skip to main content
sharethis

พันธมิตรฯ ประชุมแกนนำทั่วประเทศแบบไร้เงา ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ พิภพเชื่อทักษิณเกี่ยวข้องกับ 10 เม.ย. แน่ๆ และมีคอมมิวนิสต์เข้าร่วมด้วย ด้าน ‘จำลอง’ แบ่ง นปช. เป็น ส.ส.-ผู้ชุมนุม-ผู้ก่อความไม่สงบ ลั่นให้ พธม. ออกมาถ้าแกนนำเป่าปรี๊ด รับรองชนะแน่นอน

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์

 

พธม.ประชุมใหญ่ไร้เงา ‘สนธิ’ ดร.อาทิตย์คาดไม่ถึงมีพวกทำลายประเทศเพื่อคนๆ เดียว

วันนี้ (18 เม.ย.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จัดประชุมใหญ่เครือข่ายสมาชิกทั่วประเทศ หัวข้อ “ฝ่าวิกฤตการเมืองไทย ปฏิรูปใหญ่อย่างรอบด้าน” โดยการประชุมครั้งนี้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ไม่ได้ปรากฏตัวในการประชุมแต่อย่างใด โดยตลอดปี 2553 นี้นายสนธิ ลิ้มทองกุลไม่ออกมาปรากฏตัวในที่สาธารณะเพื่อร่วมกิจกรรมกับพันธมิตรฯ และพรรคการเมืองใหม่เลย

โดย ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวในที่ประชุมว่า มหาวิทยาลัยรังสิตยินดีที่พันธมิตรฯ ได้มารวมตัวกันที่นี่เพื่อปรึกษาหารือ ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ซึ่งเราเต็มใจที่จะให้พันธมิตรฯ ใช้สถานที่ โดยไม่กลัวจะถูกว่าเป็นพวกพันธมิตรฯ เพราะเห็นว่าสถาบันการศึกษาก็เป็นส่วนหนึ่งเล็กๆ ของสังคม ดังนั้นส่วนหนึ่งเล็กๆ ก็ต้องเป็นจุดเล็กๆ ที่ดีงาม

“ต้องยอมรับว่าวันนี้ประเทศไทยได้เกิดความแตกแยกอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งที่บ้านเมืองเป็นของเราทุกคน กลับมีกลุ่มบุคคลที่สร้างตัวเองขึ้นมาเพื่อหวังทำลายประเทศ ไม่คิดถึงประโยชน์ส่วนรวม พยายามเคลื่อนไหวเพียงเพื่อประโยชน์ของคนเพียงคนเดียว”

 

ในประเทศไทยการเป็นไพร่ไม่ได้หมายความว่าจะขึ้นมาเป็นอำมาตย์ไม่ได้

ดร.อาทิตย์กล่าวว่า ความพยายามสร้างคำว่า อำมาตย์และไพร่ขึ้นมานั้น เป็นเจตนาที่ต้องการสร้างความแตกแยกอย่างเห็นได้ชัด ทั้งที่ในชีวิตตน 70 ปี ยังไม่เคยคิดว่าคำว่าอำมาตย์และไพร่จะแตกต่างกันตรงไหน ประเทศเราไม่ใช่อินเดียที่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ ไพร่ซึ่งก็คือคนจน ในประเทศไทยไม่หมายความว่าจะขึ้นมาเป็นอำมาตย์ไม่ได้

“เขาสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาให้ร่ำรวยได้ เราอยู่ด้วยกันได้โดยไม่ได้ถูกมองว่าแตกแยก แต่วันนี้กลับไม่ใช่ ความรู้สึกแบ่งแยกแบบนี้มาจากไหน ทั้งที่ไม่เคยเกิด มันเกิดขึ้นมาเพราะมีคนต้องการทำให้เกิดความแตกแยก ต้องการทำลายชาติ สร้างความรู้สึกนี้ขึ้นมาโดยมีเจตนาแอบแฝง วันนี้เราต้องมองปัญหาประเทศในส่วนรวมว่าเราจะก้าวข้ามปัญหานี้ได้อย่างไร เราต้องสร้างความสามัคคี ต้องปฏิรูปประเทศไทยให้ได้ เราจะไม่มีเสื้อเหลือง แต่เราจะเป็นเสื้อทุกๆ สี จะรวมกันสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้น”

 

จำลองชี้ นปช. แบ่งเป็น ส.ส. ผู้ชุมนุม และผู้ก่อความไม่สงบ

จากนั้นแกนนำพันธมิตรฯได้ขึ้นเวทีปราศรัยพร้อมกันทั้ง 4 คน โดยยืนไว้อาลัยร่วมกับแกนนำเครือข่ายพันธมิตรทั่วประเทศให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 10 เม.ยเป็นเวลา 5 นาที

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวแสดงความคิดเห็นถึงการชุมนุมของ นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดงว่า มีเป้าหมายใช้มวลชนเป็นเครื่องมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ให้มีการยุบพรรค แต่ยกประเด็นเรื่องอำมาตย์ และไพร่มาบังหน้า ซึ่งพวกเราเข้าใจดีอยู่แล้วว่า องคมนตรี หรืออำมาตย์ที่กลุ่มเสื้อแดงยกประเด็นมา เป็นผู้สนองพระเดชพระคุณ ดังนั้น ถ้าสถาบันองคมนตรีอยู่ไม่ได้ สถาบันที่เราเคารพรักจะอยู่อย่างไร และในการควบคุมหากรัฐบาลกล้าหาญพอที่จะใช้กระบวนการยุติธรรม คงไม่ต้องใช้กำลังทหาร และพี่น้องทหารคงไม่ต้องออกมาบาดเจ็บ เมื่อมีกฎหมาย ต้องใช้กฎหมายจัดการเรื่องก็ง่ายนิดเดียว ถ้ารัฐบาลยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ อีกไม่นานเขาคงจะไล่รัฐบาลได้

“การชุมนุมของกลุ่ม นปช.แบ่งแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ 1.สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร 2.ผู้ชุมนุม และ 3.กลุ่มก่อความรุนแรงหรือก่อความไม่สงบ ซึ่งประชาชนทั่วไปจะสังเกตได้ตลอดการเคลื่อนไหวที่ผ่านมา”

 

สมศักดิ์บอกพันธมิตรฯ ทำตามรัฐธรรมนูญ ไม่เคยยิงตำรวจ-ทหารเหมือนเสื้อแดง

ด้านนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า เราต้องการให้เกิดการปฏิรูปการเมืองในระบบรัฐสภา และอยากบอกว่าประชาชนคนไทยไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่เกิดขึ้นอย่านำ พันธมิตรฯ เสื้อเหลืองไม่เปรียบเทียบ เพราะการชุมนุมของพันธมิตรฯทำตามเจตจำนงรัฐธรรมนูญ และเราไม่เคยยิงตำรวจ ทหาร

 

พิภพเชื่อทักษิณเกี่ยวข้องกับ 10 เม.ย. แน่ๆ และมีคอมมิวนิสต์เข้าร่วมด้วย

ส่วนนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ถ้าถามว่าปฏิบัติการที่ผ่านมาซึ่งเกิดขึ้นในการชุมนุมเสื้อแดงครั้งนี้ เกิดขึ้นโดยใคร ตอบได้เลยว่า เป็นปฏิบัติการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่ก็ยากให้พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ความรุนแรงเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ พล.อ.ชวลิตต้องออกมาตอบคำถามนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เคยออกมาเตือน พล.อ.ชวลิตแล้ว

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. ถ้าจะถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณเกี่ยวข้องแค่ไหน ต้องตอบว่าเกี่ยวข้องแน่ๆ นายพิภพกล่าวต่อว่า การปฏิบัติการของคนกลุ่มนี้มีฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง และปีกหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยร่วมด้วย เพราะต้องการให้เกิดสงครามกลางเมือง โดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ต้องการให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หมดสภาพ ขณะที่กลุ่มคอมมิวนิสต์ต้องการปฏิวัติทางชนชั้น โดยมีสงครามการเมืองเป็นตัวกำหนด

 

เตือนระวังการดับไฟ กทม.

“ผมทราบว่าจากผู้รู้ด้านการไฟฟ้าว่าการปฏิบัติการวันที่ 10 เม.ย. พยายามที่จะระเบิดเสาไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับทั้ง กทม. ไปพร้อมกับการดึงให้ทหารใช้กำลังลากยาวไปถึงช่วงเย็น แต่โชคดีที่ปฏิบัติการจะทำให้ไฟฟ้าดับนั้นไม่เป็นผล แต่ถือว่าเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนเรื่องความมั่นคงของการไฟฟ้า ดังนั้น การไฟฟ้าต้องระวังและปรับปรุงการป้องกันระบบไฟฟ้า เพราะหากเกิดไฟฟ้าดับต้องใช้เวลาถึง 2 วันในการแก้ไข” นายพิภพกล่าว

 

เตือนอย่ายุทหารใช้กำลังจนล้มตายที่ราชประสงค์ แต่ต้องใช้กฎหมายอย่างสันติวิธี

นายพิภพกล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ ต้องระวังอย่าส่งเสริมทหารและรัฐบาล ใช้กำลังจนทำให้เกิดการเสียชีวิตอย่างมโหฬารที่แยกราชประสงค์ แต่ต้องแก้ด้วยสันติวิธี ซึ่งวิธีหนึ่ง คือ การใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ใช้กระบวนการยุติธรรมแยกประชาชนออกมาแล้วจัดการแนวร่วม พ.ต.ท.ทักษิณ และ นปช. รวมทั้งรัฐบาลต้องประชาสัมพันธ์ความจริงที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันต้องกลับมาแก้ปัญหาการเมืองด้วยการปฏิรูปอย่างรอบด้าน

“แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์มุ่งใช้มาตรการทางการทหารเพียงอย่างเดียว ในช่วงที่สถานการณ์ขณะนี้เป็นการต่อสู้กันเพื่อชิงบ้านชิงเมืองโดยใช้ความ รุนแรงทุกรูปแบบของ พ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นจึงไม่อยากให้การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลบานปลายจนสร้างความเสียหายใหญ่ หลวง ขณะที่กลุ่มเสื้อแดงก็อยากให้ยุติและถอนตัวออกมาเช่นกัน”

 

โจมตี ‘ธงชัย วินิจจะกูล’ ทำให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา

นายพิภพ ยังให้สัมภาษณ์เอเอสทีวีเพิ่มเติมว่า ไม่อยากให้เกิดเหตุ 6 ตุลาซ้ำรอย และโจมตีนายธงชัย วินิจจะกูล ซึ่งปัจจุบันสอนที่มหาวิทยาลัยวิสคอลซิน สหรัฐอเมริกาว่า สมัย 6 ตุลา 2519 ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พยายามส่งข้อมูลว่าจะมีการล้อมปราบผู้ชุมนุม แต่ธงชัยไม่ยอมให้เผยแพร่ ทำให้เกิดการสูญเสีย

โดยหลังการประชุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ออกแถลงการณ์เรื่อง “เตรียมพร้อมทำหน้าที่พลเมืองพิทักษ์รักษาชาติและราชบัลลังก์” โดยมีรายละเอียดตามแนบ

 

แถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เรื่อง เตรียมพร้อมทำหน้าที่พลเมืองพิทักษ์รักษาชาติและราชบัลลังก์

 

จากการประชุมตัวแทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทั่วประเทศไทย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553 ณ อาคารนันทนาการ มหาวิทยาลัยรังสิต เรื่อง “ฝ่าวิกฤตการเมืองไทย ปฏิรูปใหญ่อย่างรอบด้าน” นั้นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์แล้ว มีมติดังต่อไปนี้

1. เราขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยให้กับครอบครัวของทหารหาญ และเหยื่อประชาชนคนเสื้อแดงที่ต้องบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากในเหตุการณ์ คืนวันที่ 10 เมษายน 2553 และเราขอประณามกลุ่มผู้ก่อการร้ายของระบอบทักษิณที่หวังจะสร้างสถานการณ์ทำ ให้เกิดความรุนแรงระหว่างทหารและผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือ ล้มล้างรัฐบาลแต่เพียงอย่างเดียว ถือเป็นการกระทำที่อำมหิต โหดเหี้ยม เลวทราม และต่ำช้าที่สุด

2. รัฐบาลจะต้องบังคับใช้กฎหมายจัดการกับขบวนการก่อการร้ายของระบอบทักษิณอย่างเคร่งครัดและเต็มประสิทธิภาพขั้นเด็ดขาดโดยทันที และภายใน 7 วัน หากรัฐบาลยังไม่ดำเนินการใดๆ จนส่งผลทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงและเป็นอันตรายต่อชาติและราชบัลลังก์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะทำหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญในการ พิทักษ์รักษาชาติและราชบัลลังก์ทันที

3. ตามแถลงการณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่ 7/2553 ลงวันที่ 8 เมษายน 2553 ได้ประกาศเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นโดยการทำงาน 3 ประสานภายใต้การนำของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง นักการเมืองในระบอบทักษิณ และกองกำลังติดอาวุธ เมื่อเหตุการณ์ในวันที่ 10 เมษายน 2553 ได้เกิดขึ้นตามที่ได้ประกาศเตือนเอาไว้แล้ว ย่อมเป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่งว่ากลุ่มการก่อการร้ายที่สังหาร ทหารและประชาชนนั้น อยู่ในขบวนการเดียวกันของระบอบทักษิณเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจน

ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องต่อแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงให้เห็นแก่ชีวิตและเลือดเนื้อของ ประชาชนคนเสื้อแดง หยุดนำศพของประชาชนคนเสื้อแดงที่ถูกสังหารโดยผู้ก่อการร้ายของระบอบทักษิณมา เป็นเครื่องสังเวยสร้างกระแสความเกลียดชัง คั่งแค้น เพียงเพื่อเอาชนะล้มล้างรัฐบาลด้วยวิธีสกปรกเพียงอย่างเดียว

ขอให้ยุติโฆษณาชวนเชื่อนำชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นเหยื่อในการ เป็นโล่มนุษย์ให้กับผู้ก่อการร้ายและแกนนำคนเสื้อแดง และขอให้แกนนำคนเสื้อแดงแสดงจิตสำนึกแห่งความรับผิดชอบด้วยการประกาศสลายการชุมนุมเพื่อรักษาชีวิตและเลือดเนื้อประชาชนผู้ชุมนุมและแกนนำคนเสื้อแดงซึ่งเป็นพวกเดียวกันเองมิให้ตกเป็นเหยื่อสังหารของผู้ก่อการร้ายของระบอบทักษิณต่อไป

4. เราขอให้ประชาชนผู้ชุมนุม ผู้สนับสนุน ตลอดจนแนวร่วมหรือแกนนำคนเสื้อแดงที่หลงผิด ซึ่งได้ทราบข้อเท็จจริงแล้วว่ามีขบวนการก่อการร้ายสังหารประชาชนเพื่อใช้ศพทหารและประชาชนคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือล้มรัฐบาล ได้ถอนตัวออกจากการสนับสนุนหรือเข้าร่วมกับขบวนการก่อการร้ายของระบอบทักษิณ โดยทันที

5.ในระหว่างนี้ประชาชนที่เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกพื้นที่และทุกจังหวัดสามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเข้าร่วมกิจกรรมกับพลเมืองอื่นๆ เพื่อต่อต้านขบวนการก่อการร้ายของระบอบทักษิณได้อย่างเต็มที่ และขอให้พี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าช่วยกันประชาสัมพันธ์ในทุกมิติเพื่อ เตือนให้ประชาชนและกลุ่มคนเสื้อแดงอย่าได้เข้าร่วมกับขบวนการก่อการร้ายที่ใช้วิธีการสกปรกโดยการใช้ชีวิตประชาชนผู้ชุมนุมเป็นเครื่องสังเวยต่อไป

6.ผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนได้หลงผิดเข้ามาในที่ชุมนุม เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมทาง การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ดังนั้นแนวทางในการแก้ไขปัญหาครั้งนี้รัฐบาลจะต้องแสดงความจริงใจเป็นเจ้า ภาพเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อปฏิบัติการปฏิรูปประเทศไทยทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยทันที

 

ด้วยจิตคารวะ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553

โดยหลังการออกแถลงการณ์ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวว่า เมื่อทหารตำรวจไม่ยอมทำหน้าที่ พันธมิตรฯ จึงต้องออกมา ขอร้องพ่อแม่พี่น้องใครจะสู้ให้ออกมา คราวนี้พันธมิตรฯ จะออกมาแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อแกนนำเป่าปรี๊ดขอให้ออกมาเลย เต็มออก เต็มออก ใส่เสื้อเหลืองมาเลย ชนะแน่นอน ส่วนนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ได้ย้ำเช่นกันว่าถ้าพันธมิตรฯ ออกมาจะ “ชนะแน่นอน ชนะแน่นอน ชนะแน่นอน” ด้านนายสุริยะใสให้สัมภาษณ์ในช่วงข่าวของ ASTV ว่าผู้ชุมนุมเสื้อแดงคงคาดไม่ถึงว่ากองกำลังไม่ทราบฝ่ายจะใช้อาวุธหนักโจม ตีเจ้าหน้าที่จนทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิต พร้อมเรียกร้องให้ นปช. ยุติการสนับสนุนผู้ก่อการร้าย

 

ที่มา: เรียบเรียงบางส่วนจาก ผู้จัดการออนไลน์ [1][2]

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net