Skip to main content
sharethis

ณัฐวุฒิประกาศอภิสิทธิ์ปฏิเสธการเจรจา ขอยุติแนวทางนี้ แจงมาตรการใหม่ ขอให้ ‘ถอดเสื้อแดง’ เป็นนักรบนอกเครื่องแบบ หลังพบเสื้อแดงถูกทำร้ายระหว่างทาง แบ่งกำลังรับมือ-ต่อสู้ทั้งในและนอกพื้นที่หากมีการใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่ราชประสงค์

 
24 เม.ย.53   นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ประกาศบนเวทีปราศรัยราชประสงค์เมื่อเวลาประมาณ 18 นาฬิกาเศษ ว่า หลังจากแกนนำกัดฟันประกาศมาตรการให้รัฐบาลยุบสภาใน 30 วันเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) ก็โดนคนเสื้อแดงหลายคนต่อว่าด่าทอ เจ็บปวด ร้องไห้ แต่ทั้งหลายที่ทำไปก็เพื่อให้การตัดสินใจนั้นไปสู่ทางออกของความขัดแย้งที่ไม่มีคนบาดเจ็บล้มตายอีก แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์ได้ปฏิเสธข้อเสนอ นปช.อย่างสิ้นเชิงก็ถือว่าข้อเรียกร้องดังกล่าวเป็นอันยุติ จะไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้กันอีกต่อไป

“ที่ประกาศข้อเรียกร้องให้ยุบสภาภายใน 30 วัน ไม่ใช่เพราะความกลัวเหล่าอำมาตย์ หรือกลัวรัฐบาลจะใช้กำลังเข้าสลาย ตรงกันข้าม มันเป็นความกล้าที่จะยื่นข้อเรียกร้องเพื่อถอย 1 ก้าว และให้รัฐบาลถอยด้วย แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์ปฏิเสธข้อเรียกร้อง นปช. หมายความว่าอภิสิทธิ์กล้าจะใช้กำลังกับประชาชนแต่ไม่กล้าให้ความปลอดภัยกับประชาชน กล้าทำทุกอย่างเพื่อรักษาสถานะนายกรัฐมนตรีของตัวเอง แต่ไม่กล้าเสียสละให้ประชาชนและประเทศปลอดภัยและก้าวสู่วิถีทางประชาธิปไตย” ณัฐวุฒิกล่าว

เขากล่าวต่อว่า ทราบข้อมูลแน่ชัดแล้วว่าทันทีที่อภิสิทธิ์ปฏิเสธข้อเสนอก็ได้สั่งการให้ตำรวจ ทหารเตรียมสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ภายใน 2-3 วันนี้ พูดให้ชัดเจนก็คือนายอภิสิทธิ์น่าจะสั่งการให้มีการสลายการชุมนุมภายใน 48 ชั่วโมงต่อจากนี้ไป ฉะนั้น ต่อไปนี้เป็นมาตรการในการรับมือโดยสันติวิธี

ประการแรก เวลานี้พบว่ามีกองกำลังตำรวจ ทหารอาวุธครบมือ ตั้งด่านสกัดกั้น กดดันผู้ชุมนุมเสื้อแดง มีการตรวจบัตรประชาชน ใบขับขี่ ข่มขู่คุกคามต่างๆ นานา เพื่อไม่ให้เดินทางมาร่วมชุมนุมได้ แม้ไม่ใส่เสื้อสีแดง แต่เมื่อตรวจสอบพบตีนตบ หัวใจตบ หรืออุปกรณ์ใดๆ ที่ระบุความเป็นคนเสื้อแดงก็จะถูกสกัด ถ่วงรั้ง คุกคาม นอกจากนี้ยังมีการจัดกองกำลังเถื่อนคอยลอบทำร้ายประชาชนที่ใส่เสื้อสีแดงในช่วงที่เดินทางมาชุมนุม หรือเดินทางกลับที่พัก เมื่อเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ และด่านก็เลือกตั้งรอบนอกให้ไกลออกไปจากราชประสงค์ และเปลี่ยนด่านทุกวัน เพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงไปทลายด่านเปิดทางได้ หมายความว่าต้องการจู่โจมคุกคามหัวใจคนเสื้อแดง ข่มขู่ให้กลัว ลดเสรีภาพในการชุมนุม เพื่อปรับยุทธวิธีให้เข้ากับสถานการณ์จริง ขอประกาศมาตรการใหม่ว่า ต่อไปนี้คนเสื้อแดงจะถอดเสื้อแดง รบนอกเครื่องแบบ นปช. แดงทั้งแผ่นดินขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน นักรบเสื้อแดงที่จะเดินทางมาราชประสงค์ ขอให้ถอดเสื้อแดง วางตีนตบ อุปกรณ์ทั้งหลาย เป็นนักรบนอกเครื่องแบบเดินทางเข้ามาต่อสู้ร่วมกัน

“เราจะวางตีนตบ หัวใจตบ เพียงชั่วยาม เมื่อเราก้าวข้ามรบ.ชุดนี้ได้ เราจะกลับมาใส่เครื่องแบบสีแดงฉอลงชัยชนะของปชช.” นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า ขอให้เริ่มต้นตั้งแต่บัดนี้ แต่ถ้าหากใครยังใส่สีแดงอยู่แล้วไม่มีเครื่องแบบอื่นก็ใส่ได้อีกหนึ่งคืน อย่าถอดทันทีจะโลดโผนเกินไป และอุปกรณ์ตีนตบ สัญลักษณ์ต่างๆ จะใช้เฉพาะในบริเวณที่ชุนนุม ส่วนพ่อค้าแม่ขายที่ขายเสื้อสีแดง อย่าเพิ่งตกใจ ไม่ต้องย้อมสีเสื้อมาขายใหม่ เพียงไม่กี่วันเมื่อชัยชนะเป็นของประชาชน เราจะพร้อมใจกันใส่เสื้อแดงทั่วประเทศไทย เราจะใส่เสื้อแดงจนกว่าบ้านเมืองนี้เป็นประชาธิปไตย เป็นของประชาชน

ณัฐวุฒิกล่าวถึงมาตรการต่อมาว่า เรามีตั้งด่านป้อมค่ายคูประตูหอรบแล้ว 6 ด่าน ประตูน้ำ เพลินจิต ถนนวิทยุ อังรีดูนัง มาบุญครอง หลังสวน และอนุสาวรีย์ ร.6 หน้าสวนลุม ขออาสาสมัครมอเตอร์ไซด์ไปรายงานตัวกับแม่ทัพประจำด่านตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เพื่อรักษาด่าน ด่านละ 2000 คัน วิธีปฏิบัติขอให้เดินทางไปยังด่านต่างๆ แล้วแจ้งความจำนงว่าท่านประสงค์จะเป็นหน่วยมอไซด์อาสา บอกชื่อและช่องทางในการติดต่อไว้

ประการที่สาม ขอให้คนเสื้อแดงในพื้นที่ทั่วไประเทศ รับฟังเวทีนี้ด้วยวิธีการใดก็ตาม ขอให้สำรวจตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกำลังตำรวจ ทหารในจังหวัดของตน เพราะทราบว่ามีการระดมกำลังตำรวจจากแต่ละภาค ภาคละ 3 กองร้อย รวมร่วมหมื่นชีวิต บวกกำลังกับทหารเพื่อสลายการชุมนุมในกทม.  ดังนั้น หากพบการเคลื่อนกำลังมีลักษณะเป็นกลุ่มก้อน ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในจังหวัด ขอให้ใช้หลักสันติวิธี ปฏิบัติการ ‘ขอนแก่นโมเดล’ หยุดปฏิบัติการนั้นทันที ไม่มีการใช้ความรุนแรง คุกคามเจ้าหน้าที่ เพียงแต่จะโบกรถถามว่าจะไปไหน ชวนคุยกันสัก 1-2 วัน 

นายณัฐวุฒิกล่าววว่า ขอบอกคนเสื้อแดงว่า เราถูกปิดกั้นพีเพิลชาแนล เราถูกปิดกั้นเว็บไซต์ จนแทบไม่มีช่องทางตรงสื่อสารถึงพี่น้องเราได้ จึงขอประกาศให้ทราบพร้อมกันเพื่อกระจายข่าวไปทั่วประเทศไทย คนเสื้อแดงยังยืนยันหลักการสันติวิธี แต่หากส่งทหารมาใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม มีการลั่นกระสุนใส่ประชาชน เสื้อแดงที่อยู่นอกพื้นที่ ขอให้แสดงการต่อต้าน มีเสรีในการปฏิบัติทันที คนเสิ้อแดงอยากจะทำอะไรภายใต้หลักสันติวิธีทำโดยอิสระเสรีพร้อมกันทั่วประเทศทันที  ประการสุดท้าย แกนนำตัดสินใจแบ่งเป็นนนักรบกลุ่มย่อย กลุ่มละ 5 คน ขอให้แลกหมายเลขโทรศัพท์กันไว้ และอยู่ร่วมกัน  เพื่อสื่อสารกันได้ทันทีและป้องกันคนภายนอกแทรกซึมเข้ามา

"จตุพร" เปิดคำสั่ง "อนุพงษ์" เตรียมสลายชุมนุม
ก่อนหน้านี้เวลาประมาณ 15.00 น. เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. ได้แถลงข่าวด่วนว่า ตนได้รับเอกสารที่สรุปการสั่งการของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ที่สั่งการเมื่อคืนเรื่องสลายการชุมนุม แม้จะมีคำวินิจฉัยของศาลแพ่งมาแล้วก็ตามแนวคิดเรื่องการสลายการชุมนุมก็ยัง ไม่หยุด ตอนสายวันนี้พล.อ.อนุพงษ์ ก็ถูกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรียกเข้าพบเรื่องที่ นปช. เรียกร้องให้ยุบสภาในหนึ่งเดือน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ แจ้งว่าไม่ยุบ และสั่งให้สลายการชุมนุมในทันที พร้อมทั้งถามว่าทำได้ไหม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กำลังรอจังหวะในการดำเนินการ นายอภิสิทธิ์จึงถามว่าดำเนินการอะไรบ้าง พล.อ.อนุพงษ์ระบุว่า ตอนนี้ได้เรียกแกนนำระดับล่างเข้ารายงานตัวเพื่อไม่ให้เสื้อแดงมาเติมที่ราช ประสงค์ แต่สาระอยู่ที่ พล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งให้เพิ่มกำลังตำรวจ 70 กองร้อย และให้รายงานตัวที่ กรมทหารราบที่ 11 รอ. ภายในเที่ยงวัน

ส่วน พล.ม.2 รอ.ปรับกำลัง 23 กองร้อย โดยขณะนี้ขยับเข้าจุดสวนลุมพินี นอกจากี้ยังมีการจัดกำลังจากพล1.รอ. เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว สามกองร้อย มีจักรยานยนต์ 200 คัน และรถกระบะ ส่วน พล.ร.2 และ พล.ร.9 และพล.ม.2 จะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วเป็นจักรยานยนต์กองพลละ 150 คัน ซึ่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วนี้แต่ตัวนอกเครื่องแบบและมีอาวุธครบมือคือเอ็ม 16 เอ 2 ส่วนชุดซุ่มยิงแกนนำจะแต่งตัวนอกเครื่องแบบมาปะปนกับคนเสื้อแดง 80 คน จะลงมือยิงแกนนำในวันสลายการชุมนุม

นายจตุพร ระบุว่า การปฏิบัติการจะพร้อมในเวลา 1 ชั่วโมงที่จะเข้าสลายได้ทันที การบัญชาการจะใช้เฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์ก 4 ลำ ถ้าจับแกนนำจะใช้เฮลิคอปเตอร์ชีนุก มารับทันที ในเครื่องจะมีหน่วย ฉก. 20 นายโรยตัวลงมารับ ซึ่งขณะนี้ ผบ.พลบอกพร้อมแล้วและรอคำสั่งเท่านั้น และพล.อ.อนุพงษ์ย้ำว่า ถ.สีลมทั้งสายห้ามเสื้อแดงผ่าน ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตรียมปืนลูกซองไว้ ขณะนี้ได้แล้ว 2,000 กระบอก ส่วนที่จะนำมาเติมจากต่างจังหวัดให้นำมาประกอบที่ กทม.

“นี่ คือบันทึกรายงานจากทหารแตงโมที่ข้อมูลไม่เคยพลาด เป็นแตงโมที่อยู่ใน ศอฉ. พล.อ.อนุพงษ์ทำเป็นพูดว่าจะไม่สลายการชุมนุม แต่หลังจากนั้นไม่รู้ จ.จ. ที่ไหนสั่งเพิ่มเติม เวลานี้พล.อ.อนุพงษ์เหมือนมนุษย์สองหน้า หน้าหนึ่งรู้ว่าหากสลายความรุนแรงจะเกิดขึ้น แต่อีกด้านก็รอรับคำสั่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คนสื้อแดงพยายามมอง พล.อ.อนุพงษ์ด้วยถ้อยทีที่เห็นใจ แต่หากเลือกปราบปรามประชาชนและรักษาตำแหน่งมากกว่าชีวิตของประชาชน พล.อ.อนุพงษ์ก็จะเป็นศัตรูของประชาชนตลอดชาติ” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ที่รายงานให้ทราบเพราะเขาไม่ต้องการให้เราประมาท รัฐบาลใช้ช่วงเที่เราถอยเพื่ออธิบายว่าเราสันติวิธีโดยเปลี่ยนข้อเรียกร้อง เป็นการให้ยุบสภาในหนึ่งเดือน เพื่อเข้าสลายการชุมนม จะสังเกตได้ว่าการรายงานข่าวของสื่อขณะนี้ มีการสั่งห้ามรายงานสด และให้ถ่ายภาพข่าวช่วงไม่มีคน สถานการณ์เวลานี้ต้องไม่ประมาท วันพรุ่งนี้และวันมะรืนนี้คือหัวใจสำคัญ ชุดที่จะปราบปรามครั้งนี้ไปเชื่อดวงเมืองว่า เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2310 เราเสียกรุงครั้งที่สอง เขาต้องจัดการก่อนวันกรุงแตก เราพร้อมจะสู้ตาย ไม่ว่าจะเอาอาวุธมากขนาดไหน และจะไม่เฉพาะ กทม. แต่จะเป็นทั่วประเทศ ด่านใดที่สกัดประชาชนวันนี้จะไปแหกด่านกันอีก

"มาร์ค"ปฏิเสธข้อเสนอเสื้อแดงยุบสภาใน30วันซัดต้องการสร้างภาพกับตปท.
ก่อนหน้าเว็บไซต์มติชนรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ที่อาคารหอประชุมกิตติสุข 48 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาหารทหารบก ได้ร่วมกันบันทึกเทป รายการการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" โดยสาระของรายการที่นำเสนอ รูปแบบในช่วงแรก จะเป็นการสรุปและรายงานเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โดยนายอภิสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว  และต่อจากนั้นในช่วงครึ่งหลัง ของ รายการก็จะมี นางสาว สายสวรรค์ ขยันยิ่ง ทำหน้าที่เป็นพิธีกร เพื่อดำเนินการซักถาม นายอภิสิทธิ์ และพล.อ.อนุพงษ์ เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น

จากนั้น  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ หลังอัดรายการเชื่อมั่นประเทศไทยฯร่วมกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา  ผบ.ทบ. โดยนายกฯกล่าวกรณีแกนนำนปช.เปิดทางเจรจารอบสามแต่ให้ยุบสภา 30 วันว่า ตนไม่รับข้อเสนอดังกล่าวเพราะที่ผ่านมานปช.ก็เป็นผู้ไม่มาเจรจาเอง การยุบสภาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และหากเจรจาจริงก็ไม่เฉพาะรัฐและนปช.เท่านั้นแต่ต้องมีกลุ่มอื่นในสังคมต้องมาหาทางออกให้ประเทศด้วย  เชื่อว่าข้อเสนอนปช.เป็นเพราะต้องการสร้างภาพกับต่างประเทศ ที่ผ่านมาก็เสนอยุบและต่อมาก็ขยายเป็น 30 วัน และบอกว่าหากไม่ทำตามจะยกระดับความรุนแรง แบบนี้ไม่สามารถทำได้

เวลา 12.15 น. นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความลงบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ถึงกรณีรัฐบาลส่งตัวแทนไปเจรจากับแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่ง (นปช.) ว่า "ท่านนายกฯ มอบการเจรจาให้ท่านอื่นทำต่อแล้วครับ ที่คุณวีระ (นายวีระ มุกสิกพงษ์ แกนนำนปช.) บอกว่าได้หารือกับรัฐบาลแล้ว และพูดบนเวที ไม่ใช่ผมครับ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net