Skip to main content
sharethis

ซูจีเข้าโรงพยาบาลตรวจโรคหัวใจ
 
มีรายงานว่า นางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดีวัย 64 ปี ถูกนำตัวออกจากบ้านพัก เพื่อเข้าการตรวจเช็คโรคหัวใจในโรงพยาบาลในกรุงย่างกุ้งกะทันหัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับอาการป่วยของนางซูจีในครั้งนี้ ขณะที่มีรายงานว่า แพทย์ประจำตัวของนางซูจีเพิ่งเข้าตรวจเช็คหัวใจของนางซูจีเมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง ทั้งนี้ มีการเปิดเผยว่า นางซูจีกำลังเข้ารับการรักษาโรคความดันโลหิตต่ำและโรคกระเพาะอาหารด้วย 
 
ขณะที่มีรายงานว่า เจ้าเสือแท่น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัฐฉาน(SSA-กลุ่มหยุดยิง) และดำรงตำแหน่งประธานสภาสันติภาพรัฐฉาน (SSPC) ซึ่งถูกรัฐบาลพม่าสั่งจำคุกเป็นเวลา 106 ปี และขณะนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำคำตี ภาคสะกาย ก็กำลังป่วยด้วยโรคตาอักเสบขั้นรุนแรง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอาจถึงขั้นตาบอด (Mizzima/Taifreedom)     

บังกลาเทศปฏิเสธให้สถานะ “ผู้ลี้ภัย” ให้ชาวโรฮิงยา  
 
รัฐบาลบังกลาเทศปฏิเสธคำร้องขอของยูเอ็นที่ให้มอบสถานะผู้ลี้ภัยถูกกฎหมายแก่ชาวมุสลิมโรฮิงยา ที่อยู่ในบังกลาเทศ นาย Mohamed Mijarul Quayes เลขาธิการกระทรวงต่างประเทศของบังกลาเทศระบุ ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงยาที่ลี้ภัยจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพม่าจะต้องเดินทางกลับพม่าเท่านั้น โดยยังระบุการมอบสถานนะผู้ลี้ภัยถูกกฎหมายให้แก่ชาวมุสลิมโรฮิงยาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ 
 
ในบังกลาเทศมีผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมโรฮิงยาเพียง 28,000 คนเท่านั้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกฎหมาย ขณะที่ชาวมุสลิมโรฮิงยาอีกจำนวนกว่า 200,000 คนกำลังเผชิญกับการถูกปราบปรามและถูกส่งตัวกลับฝั่งพม่า ส่วนใหญ่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก (RFA)   
 
 
13 เมษายน 53
 
โรคลึกลับระบาดในรัฐอาระกัน  
 
หนังสือพิมพ์ A weekly eleven journal ของพม่ารายงานว่า โรคลึกลับกำลังระบาดหนักในเมืองมงดอว์ รัฐอาระกัน โดยทางแพทย์ยังไม่สามารถระบุว่าเป็นเชื้อโรคชนิดใด แต่สันนิษฐานว่า น่าจะมีสายพันธุ์เดียวกันกับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ โดยมียุงเป็นพาหะ ด้านชาวบ้านในพื้นที่ระบุอาการของโรค เริ่มแรกจะมีไข้สูง จากนั้นตามร่างกายจะปรากฏเป็นรอยช้ำดำเขียวและจะมีอาการขาบวมในเวลาต่อมา  ซึ่งแพทย์กำลังตรวจสอบโรคลึกลับดังกล่าว (Narinjara)     
 
บึ้ม  3 ครั้งซ้อนกลางกรุงย่างกุ้ง  ดับ 9 เจ็บ 75 ราย 
 
เกิดเหตุระเบิด  3 ครั้งซ้อนใกล้กับทะเลสาบกันดอว์จีซึ่งเป็นสถานที่ที่มีประชาชนเล่นน้ำกันอย่างคับคั่งในช่วงงานเฉลิมฉลองงานสงกรานต์หรือเทศกาลปีใหม่ของพม่า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 9 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 75 ราย อย่างไรก็ตามยังไม่มีกลุ่มใดออกมายอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้แต่อย่างใด 
 
ด้านสื่อของรัฐบาลพม่าวิจารณ์ว่ากลุ่มที่เป็นปรปักษ์กับรัฐบาลควรรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ขณะที่กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) มองว่า เหตุระเบิดไม่ใช่ฝีมือของชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ แต่เป็นฝีมือของรัฐบาลพม่าที่ต้องการสร้างสถานการณ์ก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้ง (DVB/Irrawaddy)  
 
 
18 เมษายน 53
 
รบ.พม่ายันเดินหน้าโครงการเขื่อนมิตซง  แม้มีการวางระเบิด  
 
รัฐบาลพม่าออกมาประกาศยืนกรานจะเดินหน้าสร้างโครงการเขื่อนมิตซงบนแม่น้ำอิรวดี ในรัฐคะฉิ่นต่อไป แม้เมื่อเร็วๆนี้จะมีการลอบวางระเบิดจนทำให้มีคนงานจีนเสียชีวิตไป 4 คนและบาดเจ็บอีกนับสิบ  ด้านพลตรีโซวิน ผู้บัญชาการประจำภูมิภาคเหนือกล่าวกับประชาชนในพื้นที่ว่า ควรช่วยกันปกป้องคุ้มครองโครงการสร้างเขื่อน และให้ความร่วมมือกับรัฐบาลพม่า
 
ขณะที่มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุระเบิด มีแรงงานชาวจีนนับร้อยทยอยเดินทางออกจากพื้นที่โครงการเข้าไปยังเมืองมิตจีนาและเมืองเวียงหม่อ บางส่วนพยายามเดินทางกลับจีนเนื่องจากความหวาดกลัวจะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นอีก ด้านกองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Organization - KIO) และรัฐบาลพม่าได้ร่วมหารือกันทันทีหลังเกิดเหตุ แหล่งข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงพม่าบางคนสงสัยเหตุระเบิดครั้งนี้เป็นฝีมือของ KIO อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในเมืองไลซา รัฐคะฉิ่นระบุ KIO ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งนี้ แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนบางกลุ่มที่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนและ KIO มากกว่า (KNG/Irrawaddy)
 
 
21 เมษายน 53
 
ทางการพม่ายึดทรัพย์ชาวบ้านที่ไม่ช่วยบริจาคเงินสร้างสะพาน

 
มีรายงานว่า รัฐบาลพม่ายึดรถจักรยานยนต์จำนวน 200 คัน และจักรเย็บผ้าอีก 100 เครื่องจากชาวบ้านในหมู่บ้าน Pinkungi เมือง Kalemyo ภาคสะกาย ที่ไม่บริจาคเงินสร้างสะพาน ซึ่งทางการได้เรียกเก็บเงินค่าซ่อมแซมสะพานหลังละ 2,000 – 5,000 จั๊ต (ราว 67 – 166 บาท) ตั้งแต่เมื่อเดือนที่แล้ว แม้ชาวบ้านในพื้นที่จะร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ชั้นระดับสูงต่อการกระทำของทางการในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้ชาวบ้านก็ยังไม่ได้ทรัพย์สินคืนแต่อย่างใด (Khonumthung)
 
 
22 เมษายน 53
 
คะฉิ่นและว้าปฏิเสธเป็นกองกำลังรักษาชายแดน 

 
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรัฐบาลพม่า 4 นาย เป็นตัวแทนการเจรจาเรื่องกองกำรักษาชายแดน (Border Guard Force)ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่กองกำลังเอกราชคะฉิ่น(Kachin Independence Organisation – KIO ) 8 คนเมื่อวานนี้ โดย KIO ได้ปฏิเสธการถ่ายโอนอำนาจเป็นกองกำลังรักษาชายแดน โดยให้เหตุผลว่า ประชาชนชาวคะฉิ่นและทหารในทุกระดับชั้นของ KIO ไม่ยอมรับแนวคิดนี้ พร้อมระบุ หากกองทัพพม่าจะเข้าโจมตีพื้นที่ KIO ก็อยู่ที่การตัดสินใจของกองทัพพม่า
 
ด้านพลตรีโซวิน  ผู้บังชาการทหารสูงสุดประจำภาคเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวแทนจากรัฐบาลที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้กล่าวว่า จะนำคำตอบของ KIO รายงานไปยังรัฐบาลในกรุงเนปีดอว์รับทราบต่อไป ขณะที่มีรายงานเช่นเดียวกันว่า กองทัพสหรัฐว้า (United Wa State Army) ก็ปฏิเสธข้อเสนอของรัฐบาลพม่าเช่นเดียวกัน (Mizzima)
 
 
ปากน้ำอิรวดีแล้งหนัก 

เจ้าหน้าที่ของยูเอ็นรายงานว่า มีประชาชนจำนวนราว 180,000 คนในภาคอิรวดีกำลังขาดแคลนน้ำอย่างหนัก โดยเฉพาะในเมืองลาบุตตา โบกาเล และเมืองมอเลไมจูน ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติพายุไซโคลนนาร์กิส โดยหนองน้ำในพื้นที่แห้งขอดเนื่องจากภัยแล้ง ทั้งนี้พบว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลได้รับความเดือดร้อนมากกว่าพื้นที่อื่น 
 

อย่างไรก็ตามกลับพบว่าจำนวนชาวบ้านในพื้นที่ที่ต้องการน้ำกลับลดลงกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยเมื่อปีที่แล้วมีชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำถึง 350, 000 คน (Irrawaddy)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net