Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

Apr 23, 10 1:00 AM
เวลาที่บันทึกใน birdeyeview.multiply.com

แน่นอนในช่วงเวลาแห่งความสับสนเช่นนี้ทุกคน ต้องใช้วิจารณญาณอย่างยิ่งยวดในการรับฟังข้อมูลไม่ว่าจากแหล่งใดก็ตาม รวมถึงถ้อยคำของผม...

หลังจากสถานการณ์คุกรุ่นที่ถนนสีลมและแยกศาลาแดง นับแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาถึงเมื่อคืนนี้ (พฤหัส 22 เมษายน 2553) ผมได้แวะเวียนไปบริเวณนี้ ทุกวัน เช่นวันก่อนหน้าที่จะเข้าไปจอดรถอยู่ที่ตึกโรบินสันสีลม ต่างกันเพียงวันนี้เจ้าหน้าที่ตึกไม่อนุญาตให้ผมนำรถเข้าไปจอดอีกต่อไป

ก่อนอื่นผมจะทบทวนให้ฟัง

ในวันพุธ (21 เมษา) ผมไปถึงถนนสีลมประมาณเกือบห้าโมงเย็นและได้เข้าไปจอดรถในตึกโรบินสัน บางรักเตร็ดเตร่ไปเรื่อยจนช่วงกลางคืน มีเพื่อนตามมาสมทบพร้อมทั้งหิ้วของพะรุงพะรังกันมาจึงตกลงกันว่าจะเอาของไปเก็บที่รถผมก่อน ปรากฏว่าเมื่อจะขึ้นไปที่จอดรถคราวนี้ ตึกก็ปิดเสียแล้ว เจ้าหน้าที่จะไม่ขึ้นไปต้องยืนยันกันอยู่นานว่ามีรถจอดอยู่ในตึกจริง รถจอดอยู่ที่ชั้น 9 มีเจ้าหน้าที่ประกบผมไม่ให้ถ่ายรูปเด็ดขาด จากนั้น สั่งให้ย้ายรถลงมาอยู่ที่ชั้น 7 แล้วจะกักตัวผมไว้ไม่ให้ลงไปข้างล่างตึก ต้องเจรจากันอยู่สักพักจึงอนุญาต เมื่อลงมาแล้วผมถามพี่ รปภ.ว่ามีห้องน้ำให้เข้าไหม พี่แกบอกว่ามีชั้น 7 คิดก็คิดหนักเพราะเพิ่งลงมาได้ แต่ว่าทนไม่ไหวจริงๆ จึงขึ้นไปอีกรอบหนึ่ง ประตูลิฟต์เปิดคราวนี้ ต่างกับตอนก่อนลงมาเลย มีกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนในพื้นที่ หน้าห้องน้ำก็มีกันอีก 3-4 คน ถือเครื่องส่งวิทยุรายงานอะไรกันอยู่

ก่อนลงจากลิฟต์มาอีกครั้งเจ้าหน้าที่ถามว่า วันนี้ไม่มีอะไรป้องกันตัวเหรอ ผมจึงบอกว่ามาประจำก็ไม่เห็นมีอะไร ทำไมครับพี่... วันนี้จะมีอะไรเหรอ

"ตอนนี้ยังไม่มี"

ใช่ครับ ตอนนั้นยังไม่มี แต่เหตุการณ์ช่วงดึกของคืนวันพุธเป็นอย่างไรก็คงทราบกัน

....

หลังจากเมื่อวานนี้ที่ผมจะเข้าไปจอดรถอีกครั้งเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต เลยต้องเสียเวลาหาที่จอดก่อนจะกลับมาที่แยกศาลาแดงได้ก็ประมาณทุ่มครึ่ง วันนี้ มีมวลชนมากกว่าทุกวันที่ผ่านมาแม้เวลาจะล่วงเข้าสู่เวลาค่ำแล้วก็ตาม ผมเดินถ่ายรูปไปเรื่อยจากช่วงหน้าโรงแรมดุสิตธานีหน้าแม็คโดนัลด์

ชัดเจนว่าคราวนี้มีรูปแบบการจัดตั้งที่เป็นระบบกว่าเดิม มีรถขยายเสียงจอดอยู่บนผิวถนนพร้อมมวลชนสองฝั่งถนนประมาณ 1 พันคน

ขณะที่กำลังมองผ่านวิวไฟน์เดอร์เพื่อจะถ่ายรถขยายเสียง คันนี้เอง ผมเห็นความผิดปกติบางอย่างจึงยังไม่ทันได้กดชัตเตอร์ พอเงยหน้าก็เป็นรถมอเตอร์ไซด์ 3 คัน ขับแบบตามกันมา ทุกคันมีธงสีเหลืองขนาดใหญ่อยู่ ผมจำไม่ได้จริงๆ ว่ามีคนซ้อนถือด้ามธง หรือว่าใช้วิธีเสียบไปในเสื้อด้านหลังของคนขี่ แต่หลังจากทั้ง 3 คัน ขับผ่านไปถึงที่แยกแล้วนั้น…

บึ้มมมมมมมม....

เสียงดังกึกก้องทำให้ผมเงยหน้ามองด้านบนเพื่อจะมองว่าเกิดอะไรขึ้น คราวนี้เอง ผมเห็นควันและประกายไฟบินผ่านหน้าผมไปอีกครั้ง ก่อนจะเกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 2 ลูก

ตอนแรกผมคิดว่าเป็นพลุมากกว่าอย่างอื่น เหมือนกรณีเมื่อคืนก่อนหน้า (วันพุธ)

จนหลังผ่านช่วงเวลาแห่งความสับสนนั้นเอง การลำเลียงคนเจ็บลงมาจากสถานีรถไฟฟ้า จึงรู้แล้วว่าสถานการณ์อันตรายมากแล้ว ในเบื้องต้นพบกว่าผู้บาดเจ็บจาก m79 สามลูกนี้มีชาวต่างชาติ 1 คน และคนไทย 1 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ ทหารพาผู้บาดเจ็บขึ้นรถพยาบาลก่อนตรึงกำลังทางขึ้น-ลงรถไฟฟ้าศาลาแดงทุกจุด พร้อมให้ร้านค้าทั้งหมดเก็บข้าวของกลับบ้าน

สิ่ง ที่ผมเห็น...

ย้อนกลับไปช่วงมอเตอร์ไซด์ขับผ่านทั้ง 3 คัน ตามกันมาโดยทุกคันมีธงสีเหลืองขนาดใหญ่อยู่ ทันทีที่รถผ่านแยกไป มีเสียงบึ้มดังขึ้นทันที ผมเงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนผมควันและประกายไฟผ่านหน้าผมไปอีก 2 ลูก แล้วเสียงบึ้มก็ดังตามมาอีก 2 ครั้ง

ไม่ใช่พลุ... แต่เป็น m79

ยิงมาทางไหน???

จุดที่ผมบอกว่ายืนอยู่ก็คือหน้ากระโปรงรถขยายเสียง จะเป็นผิวถนนฝั่งหน้าแม็คโดนัลด์ เลนติดเกาะกลาง บนหัวผมจะมีตึกโรบินสัน สะพานลอย และแนวรถไฟฟ้า ภาพที่ผมเห็นอยู่ในช่วงกรอบนี้ ทิศทางควันและประกายไฟ วิ่งเข้ามาจากด้านใกล้ๆ ตึกโรบินสันแล้วพุ่งออกไปที่สถานีรถไฟฟ้า

ถ้าให้ผมประเมินชัดๆ ก็คือ m79 ทั้งสามลูกนี้มีความเป็นไปได้ที่จะมาจาก 3 จุด เท่านั้นคือ ตึกโรบินสัน สะพานไทย-ญี่ปุ่น หรือ รพ.จุฬา

และผมมั่นใจมากว่า มอเตอร์ไซด์ 3 คันนั้นคือการส่งสัญญาณ เพราะธงที่ใช้ทั้ง 3 คันนี้ไม่เหมือนธงผู้ชุมนุมในบริเวณนั้นเลย รวมถึงผมไม่เห็นธงลักษณะนี้อีก ทั้งก่อนหน้าและเกิดเหตุอันเลวร้ายนี้ขึ้น แน่นอนรถมอเตอร์ไซด์ 3 คันนี้ วิ่งออกไปทางที่ยิง m79 สวนมานั่นแหละ

....

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดแบบขีดสุดในเวลานั้น เจ้าหน้าที่ทหารจ่อปืนขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้า และกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงให้ทุกคนออกจากพื้นที่ ถนนสีลมทั้งขาเข้าและขาออกถูกปิดทั้งหมด ผมเดินย้อนกลับไปที่บริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานีอีกครั้ง ผู้คนส่วนใหญ่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ทหาร จากตอนแรกที่ยืนกันหน้าสถานีรถไฟใต้ดินกันร่วมพันคน ตอนนี้เหลือเพียงเกือบร้อยคนเห็นจะได้ ผมจำหน้าหลายคนได้ จากที่ได้มาบริเวณนี้ทั้ง 4 วัน บางคนก็เจอทุกวัน และผมมั่นใจว่าส่วนใหญ่มาเพื่อต้องการแสดงจุดยืนด้วยความบริสุทธิ์ใจ

ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าเค้าเหล่านั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง ?

ผมเดินข้ามถนนกลับมาทางหน้าแม็คโดนัลด์ ชวนเพื่อนผมเดินไปทางด้านขาออกที่จอดรถของตึกโรบินสันเพื่อคุยกันถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะยืนอยู่บริเวณหัวมุมถนนแยกนั้นเอง เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ในบริเวณที่ผมเพิ่งเดินจากมา

บึ้มมมมมมมมม!!!

แรงระเบิดครั้งนี้ทั้งแรงและรู้สึกใกล้ตัวมากๆ แม้จะอยู่กันคนละฝั่งถนน บางคนถูกแรงกระแทกล้มลง หน้าอกเหมือนถูกอะไรกดหนักๆ ลงมา พวกเราวิ่งกลับไปที่ด้านหน้าประตูแม็คโดนัลด์ (ประตูพระราม 4) ทันที จากนั้นจึงไปเดินย้อนกลับไปโดยยืนอยู่หน้ากระจกร้านแม็คโดนัลด์ซึ่งจะอยู่สูงกว่าพื้นฟุตบาทประมาณเมตรกว่าๆ มองไปทางจุดที่เพิ่งเกิดเหตุขึ้น

ผมยืนยันว่าในบริเวณนั้นขณะเกิดเหตุ มีประชาชนอยู่ไม่ถึงร้อยคนแน่นอน ซึ่งหากใครได้ดูตามข่าวช่องทางใดก็ตามจะพบว่าส่วนใหญ่รายงานว่ามีอยู่ประมาณ 1 พันคน ใช่ครับตอนแรกนะ แต่หลังจาก m79 ลงไปสามครั้งนั้น แทบไม่เหลือประชาชนสักเท่าไหร่แล้ว ถ้าตามข่าวรายงานว่ามีผู้บาดเจ็บ 75 คน 3 ลูก แรกไม่มีคนเจ็บเท่าไหร่ ก็เห็นจะเป็นลูกนี้ล่ะครับที่แรงที่สุด และยิงลงมาตรงที่ผู้คนยืนอยู่กันจริงๆ

และจากจุดที่ผมยืนหน้ากระจกแม็คโดนัลด์นั่นเอง ต่อหน้าต่อตาเลยกับลูกสุดท้ายที่หน้าโรงแรมดุสิตธานี

ผมยอมรับครับที่ไม่มีภาพให้ดู เพราะมือไม้มันอ่อนไปหมด มันไม่มีแรง มันทำอะไรไม่ถูก พื้นด้านล่างจากจุดที่ผมยืนอยู่ก็มีรอยเลือดเป็นทาง ความสับสนที่เกิดขึ้น รถพยาบาลที่ตอนนี้วิ่งเข้ามานับคันไม่ถ้วน โดยผมไม่อยากจะคิดว่าลูกสุดท้ายที่ลงมาหน้าดุสิตธานีเจตนาจะยิงเข้าไปใส่ที่ตั้งของตำรวจหรือไม่ เพราะขณะที่เขียนบันทึกนี้ยังไม่รู้ว่ามีตำรวจบาดเจ็บบ้างรึเปล่า?

เอาล่ะ... ทีนี้เรามาดูจุดเกิดเหตุกันอีกที

ผมบอกอีกครั้งว่า บันทึกทั้งหมดนั้นมองผ่านมุมมองของผม และส่วนต่อจากนี้ยิ่งต้องใช้วิจารณญาณมากขึ้นอีก

m79 ลูกที่สี่ ยิงมาตกบริเวณหน้าธนาคารศรีอยุธยาพอดีเลย ซึ่งนั่นเป็นจุดที่กลุ่มเสื้อหลากสีใช้เป็นที่ชุมนุมตลอดหลายวันที่ผ่านมา

หากได้ฟังแถลงการณ์ของ ศอฉ.โดยรองนายกสุเทพ ที่กล่าวว่าผู้ก่อการร้ายนั้นยิงมาจากฝั่งสวนลุมฯ บริเวณหลังพระรูป ร.6 ซึ่งเป็นจุดชุมนุมของคนเสื้อแดง แต่ถ้าใครที่ผ่านแยกนั้นอยู่บ่อยๆ ต้องรู้ว่าสี่แยกศาลาแดง ถนนช่วงสีลมมุ่งเข้าแยกนั้น ถนนจะไม่ได้ทอดมาเป็นเส้นตรงๆ เหมือนกับเส้นพระราม 4 ที่ตัดด้านหน้าและราชดำริในขามุ่งหน้าออก แต่ถนนช่วงสีลมก่อนเข้าแยกจะมีลักษณะทแยงอยู่หน่อยๆ จุดที่ถูก m79 นั้นก็ไม่ได้ตกลงบนถนนนะครับ แต่อยู่ที่ฟุตบาทหน้าธนาคารเลย

จากที่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง ยืนยันว่าอย่างไรมันก็เป็นไปไม่ได้ (ไม่รู้สิผมก็ไม่รู้อีกเช่นกันว่า m79 ปั่นไซด์โค้งได้รึเปล่า?? ถ้าปั่นโค้งได้สมมติฐานผมอาจจะผิด)

จากนี้คือความรู้สึกส่วนตัว..

ผมไม่รู้ว่าใครอยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ชีวิตที่ต้องสูญเสียไป ผมขอประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้

แต่ใครที่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองโกรธเกลียดกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างถึงที่สุด อยากให้ทุกคนลองใช้สติในการตรึกตรองสถานการณ์นี้อีกครั้ง ผมลองคิดว่าถ้าเสื้อแดงเป็นฝ่ายกระทำ ผมให้เหตุผลกับตัวเองไม่ได้ว่าเค้าจะทำไปทำไม? เพราะนับจากเหตุการณ์นี้สิ่งที่เกิดขึ้น... แน่นอน ความเกลียดชัง และ License to kill (ใบอนุญาตฆ่า) ให้เจ้าหน้าที่รัฐต่อคนเสื้อแดง

คนเสื้อแดงไม่ได้ประโยชน์เลย นอกจากการถูกประณามหยามเหยียด ถูกมองเป็นผู้ก่อการร้าย ถูกมองว่าฆ่าได้แม้แต่ผู้บริสุทธิ์ ถูกมองเป็นจำเลยสังคม และถูกสังคมมองว่าคนเสื้อแดงพวกนี้ถ้าตายไปได้ ก็จะดี...

เอาเลือดมาล้างเลือด แล้วเราจะได้อะไรคืนมา?

คนทำผิดต้องได้รับโทษ แต่เราต้องใช้สติให้มากก่อนจะพิพากษาใคร...

..........................

เพิ่ม เติมนะฮะอันนี้

อ่านสิ่งที่ผมเขียนช่วงนี้ครับ

"ยิง มาทางไหน???

จุดที่ผมบอกว่ายืนอยู่ก็คือหน้ากระโปรงรถขยายเสียง จะเป็นผิวถนนฝั่งหน้าแม็คโดนัลด์เลนติดเกาะกลาง บนหัวผมจะมีตึกโรบินสัน สะพานลอย และแนวรถไฟฟ้า ภาพที่ผมเห็นอยู่ในช่วงกรอบนี้ ทิศทางควันและประกายไฟ วิ่งเข้ามาจากด้านใกล้ๆตึกโรบินสันแล้วพุ่งออกไปที่สถานีรถไฟฟ้า"

แล้วลองดูคลิปนี้

http://www.youtube.com/watch?v=IZLCnq2B3Jo&feature=player_embedded

รูปถ่ายเมื่อเวลา 19.39 น.

 

รูปผู้บาดเจ็บ 2 คนแรกจากระเบิดชุดแรก 20.08.59 น.

 
.....................................

ที่มา: http://birdeyeview.multiply.com/journal/item/65/65

หมายเหตุจากประชาไท: BirdEyeView หรือ ทรงวุฒิ พัฒนศิลาพร คือช่างภาพอิสระที่นำเสนอผลงานภาพถ่ายแฟชั่นของเขาผ่านทางเว็บไซต์ birdeyeview.multiply.com และ birdeyeview.com ล่าสุดเขาได้รางวัล Asian Top Fashion Photographer of the Year จากเวที Fashion Asian 2010

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net