องค์กรนักสิทธิมนุษยชน ร้องรัฐคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

องค์กรนักสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐให้คุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรม ต่อกรณีการจับกุมและควบคุมตัวนายเมธี อมรวุฒิกุลและผู้ถูกควบคุมตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน จี้เปิดเผยสถานที่คุมตัว ให้ญาติสามารถเข้าเยี่ยมได้

 วันนี้ (27 เม.ย.53) โครงการเข้าถึงความยุติธรรมและการคุ้มครองทางกฎหมาย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน และสมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ออกแถลงการณ์ เรียกร้องรัฐให้คุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรม ต่อกรณีการจับกุมและควบคุมตัวนายเมธี อมรวุฒิกุลและผู้ถูกควบคุมตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน

แถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้

 

แถลงการณ์
เรียกร้องรัฐให้คุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรม
ต่อกรณีการจับกุมและควบคุมตัวนายเมธี อมรวุฒิกุลและผู้ถูกควบคุมตัวในสถานการณ์ฉุกเฉิน

 

จากกรณีการจับกุม ควบคุมตัว และสอบปากคำ นายเมธี อมรวุฒิกุล ในข้อหามีอาวุธสงครามของทางราชการไว้ในครอบครอง ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2553 ซึ่งต่อมาได้มีการแถลงข่าวโดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเสษ (DSI) ว่า นายเมธี อมรวุฒิกุล ได้รับสารภาพเรื่องอาวุธปืนของทหารที่หายไปในวันที่ 10 เมษายน 2553 ว่าอยู่ในการครอบครองของตน รวมทั้งซัดทอดถึงผู้ก่อการอื่นๆ และขณะนี้นายเมธี อมรวุฒิกุล ถูกควบคุมตัวภายใต้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไว้ในสถานที่ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการร้องขอต่อศาลเพื่อควบคุมตัวต่อ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง และหลังจากนั้นจะดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรมตามปกติต่อไป

องค์กรและกลุ่มที่มีรายชื่อข้างท้ายนี้ มีความเห็นว่า แม้ในยามที่รัฐใช้อำนาจพิเศษตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การจับกุม การควบคุมตัว และการปฏิบัติต่อบุคคลผู้ถูกจับกุม และควบคุมตัวยังคงต้องยึดตามหลักนิติธรรมและหลักการสิทธิมนุษยชนตามที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ตลอดจนกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตามในฐานะรัฐภาคี โดยผู้ถูกจับกุมและควบคุมตัวจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรม และสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมต้องได้รับการคุ้มครอง เช่น ผู้ถูกควบคุมต้องมีสิทธิได้พบญาติ พบทนายความ และสิทธิในการคัดค้านการควบคุมตัว อีกทั้งต้องเป็นการควบคุมตัวในสถานที่เปิดเผยซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ และต้องไม่เป็นการควบคุมตัวโดยปราศจากการติดต่อกับโลกภายนอก เป็นต้น ด้วยสิทธิดังกล่าวเหล่านี้เป็นหลักประกันเพื่อคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ป้องกันการซ้อมทรมานและการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม รวมทั้งสิทธิในชีวิตของผู้ถูกควบคุมตัว

นอกจากนี้ บทเรียนการใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษในลักษณะเช่นนี้ โดยปราศจากหลักประกันขึ้นพื้นฐานที่เพียงพอในกระบวนการยุติธรรมสำหรับบุคคลที่ถูกจับกุมและควบคุมตัวปรากฏให้เห็นแล้วในการปฏิบัติภารกิจเพื่อรักษาความสงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดการใช้อำนาจโดยมิชอบ ส่งผลให้สิทธิในชีวิต ร่างกาย และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของผู้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการถูกละเมิด การซ้อมทรมาน การบังคับให้สูญหาย อันเป็นการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น

ด้วยเหตุผลดังกล่าว องค์กรและกลุ่มที่มีรายชื่อข้างท้ายนี้จึงมีข้อห่วงใยดังต่อไปนี้

1.ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์จับกุมและควบคุมตัวตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ บ่งชี้ว่า นายเมธี อมรวุฒิกุล ถูกควบคุมตัวไว้ในสถานที่ซึ่งไม่เปิดเผย โดยหลังจากที่นายเมธี อมรวุฒิกุล ถูกตำรวจจับกุม ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารมารับตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำตัวไปสอบสวนยังเซฟเฮ้าส์ในต่างจังหวัด [1] และขณะนี้นายเมธี อมรวุฒิกุลยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหาร จึงเป็นกรณีการใช้อำนาจการควบคุมตัวที่ไม่เป็นไปตาม พรก.ฉุกเฉิน ที่กำหนดให้ต้องควบคุมตัวในสถานที่ที่กำหนด ซึ่งไม่ใช่สถานที่คุมขัง อีกทั้งยังเป็นการควบคุมตัวในสถานที่ลับ โดยไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่าญาติของนายเมธี อมรวุฒิกุล ได้รับแจ้งเกี่ยวกับสถานที่ควบคุมตัว หรือได้มีการอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมแล้วแต่อย่างใด

2.นอกจากนี้การที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษออกมาแถลงว่า นายเมธี อมรวุฒิกุล ได้รับสารภาพว่ายึดและครอบครองอาวุธปืนจากเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งเข้าสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เมษายน 2553 โดยไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า นายเมธี อมรวุฒิกุล ได้พบทนายความ หรือมีทนายความเข้าฟังการสอบสวนด้วย หรือได้มีการแจ้งสิทธิดังกล่าวให้ นายเมธี อมรวุฒิกุล ทราบ ยังเป็นการละเมิดสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวในการพบทนายความและสิทธิที่จะไม่ให้ปากคำใดๆ

3.การใช้อำนาจควบคุมตัวในที่ลับ โดยที่ผู้ถูกควบคุมตัวไม่ได้พบทนายความยังส่งผลกระทบสืบเนื่องต่อสิทธิที่จะคัดค้านการควบคุมตัวต่อศาล เนื่องจากเมื่อไม่สามารถพบและปรึกษาทนายความ ผู้ถูกควบคุมตัวย่อมไม่สามารถใช้สิทธิดังกล่าวได้อย่างเต็มที่

ดังนั้น องค์กรและกลุ่มที่มีรายชื่อข้างท้ายจึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

1.ขอให้รัฐบาลเปิดเผยสถานที่ซึ่งนายเมธี อมรวุฒิกุลและบุคคลอื่นๆ ถูกควบคุมตัวในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ในขณะนี้

2.ญาติของผู้ถูกควบคุมตัวทุกคนจะต้องได้รับแจ้งให้ทราบถึงเหตุผลของการควบคุมตัว และได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าเยี่ยมผู้ถูกควบคุมตัวได้ในทุกกรณี

3.การควบคุมตัวบุคคลโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 12 ประกอบ มาตรา 11 (1) นั้น เป็นการควบคุมตัวเพื่อป้องกันเหตุร้าย หรือ Preventive Detention เท่านั้น และจะปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวดังเช่นผู้กระทำความผิดมิได้ ดังนั้นหากจะต้องมีการสอบปากคำ ผู้ถูกควบคุมตัวจะต้องมีสิทธิได้พบปรึกษาทนายความ และมีสิทธิให้ทนายความเข้ารับฟังการสอบปากคำด้วย และมีสิทธิที่จะไม่ให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง

4.การควบคุมตัวและการขยายระยะเวลาควบคุมตัวนั้นจะต้องมีเหตุผลที่สมควร และเท่าที่จำเป็น โดยที่รัฐบาลต้องดำเนินการอำนวยความสะดวกให้ผู้ถูกควบคุมตัวสามารถใช้สิทธิคัดค้านการควบคุมตัวได้ และหากมีหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องใช้อำนาจควบคุมตัวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกต่อไป
 
ในสภาวการณ์เช่นนี้ การใช้อำนาจของรัฐโดยผ่านกระบวนการที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ และมีการคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวให้ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม ย่อมจะส่งผลดีต่อการปฏิบัติภาระกิจของรัฐในการนำสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว และส่งผลด้านดีต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลในสายตาของสังคมระหว่างประเทศ

โครงการเข้าถึงความยุติธรรมและการคุ้มครองทางกฎหมาย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม
มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา
เครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน

..............................................

[1] http://news.mthai.com/politics-news/73993.html
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท