30 เม.ย. กลุ่มเยาวชนศึกษาสันติวิธี แถลงเรียกร้องให้ แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติถอนกำลังออกจากบริเวณโรงพยาบาลโดยทันที ระบุ เป็นการละเมิดสิทธิผู้ป่วย สิทธิผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป และเรียกร้องให้ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ รวมถึงให้ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้องแก่ผู้ชุมนุม
แถลงการณ์กลุ่มเยาวชนศึกษาสันติวิธีฉบับที่ 4
เรื่อง ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงถอนกำลังออกจากบริเวณโรงพยาบาล
จากสถานการณ์ความไม่สงบ ก่อให้เกิดความรุนแรงตามมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเหตุระเบิดในพื้นที่ต่างๆ ทำให้เกิดความหวาดระแวงของผู้บริสุทธิ์ที่มีต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน และล่าสุดกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่ง ชาติ(นปช.)ได้ทำการบุกยึดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยอ้าง เรื่องของการตรวจหาเจ้าหน้าที่ทหารที่ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งการกระทำดัง กล่าวทำให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็ม ประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยทั้งด้านสุขภาพกายและใจ และทำให้ในที่สุดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ สร้างจากเงินภาษีของประชาชนไม่สามารถให้บริการแก่ประชาชนตามหน้าที่ได้
โดยกลุ่มเยาวชน ศึกษาสันติวิธีขอเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมรื้อแนวกั้นรั้วและถอนกำลังออก จากบริเวณโรงพยาบาลโดยทันที เนื่องจากการยึดพื้นที่บริเวณโรงพยาบาลเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิผู้ป่วย ละเมิดสิทธิผู้บริโภคและประชาชนทั่วไป
นอกจากนี้กลุ่มเยาวชนศึกษาสันติวิธีขอเรียกร้องให้กลุ่มคน เสื้อแดงยึดแนวทางสันติวิธี ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ วัตถุไวไฟ งดดื่มสุรา สิ่งมึนเมาในที่ชุมนุม รวมไปถึงยุติการให้ข่าวสารที่ไม่ถูกต้องแก่ผู้ ชุมนุม และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มประชาชนต่างๆ รวมถึงกลุ่มประชาชนที่ไม่ยินยอมให้ นปช. เข้ามาในพื้นที่ชุมชนของตน เพราะอาจจะทำให้เกิดความรุนแรง
ที่สำคัญวันนี้ นปช. อาจต้องทบทวนแล้วว่าถึงเวลาหรือยังที่ควรยุติการชุมนุมเพื่อเข้าสู่ กระบวนการหาทางออกให้กับสังคมไทยอย่างสร้างสรรค์ เพราะภายในระยะเวลาเพียงแค่1เดือนเศษ การชุมนุมของ นปช. ได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล และสร้างความเดือดร้อน แตกแยก หวาดระแวงแก่ประชาชนทั่วไปในสังคม กระทบกระเทือนถึงการดำรงชีวิตอย่างปกติสุขของประชาชนอย่างมาก การแสดงออกหลายครั้งของผู้ชุมนุม นปช. มิได้เป็นไปอย่างสันติวิธีโดยแท้จริงตามที่กล่าวอ้าง ตั้งแต่การรุกล้ำสิทธิในที่พักอาศัยส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปจนถึงการตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์ ทรัพย์สินของประชาชนบนทางหลวงซึ่งเป็นการก้าวล่วงต่อสิทธิพลเมืองของประชาชน ทั่วไปอย่างชัดเจน ขัดแย้งต่อหลักการสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่สากลโลกยอมรับได้
สุดท้ายนี้กลุ่มเยาวชนศึกษาสันติวิธีอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของ ประเทศชาติเป็นหลัก ทบทวนบทบาทหน้าที่ของตนเองว่าสิ่งที่ตนกระทำอยู่นั้นเป็นสิ่งที่สมควรหรือ ไม่ หากผู้ใหญ่ทะเลาะกันอย่างนี้แล้วเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศชาติจะเป็นเช่นไร? ในฐานะเยาวชน ขอฝากคำถามนี้แก่ทุกฝ่ายร่วมกันคิดและหาคำตอบให้แก่เด็กๆที่จะเป็นอนาคตของ ชาติต่อไป
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)