Skip to main content
sharethis

"ณัฐวุฒิ" แถลงรู้สึกเสียใจที่กลุ่ม นปช.บุกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พร้อมยอมรับการประณามจากทุกฝ่าย เร่งเคลียร์พื้นที่เปิด เปิดทางเข้า รพ.จุฬา ทางฝั่งราชดำริ พร้อมโต้รัฐบาลอย่านำเหตุการณ์นี้กลบเกลื่อนข่าวการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม

วันนี้ (2 พ.ค. 2553) หลังจากที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสุพร อัตถาวงศ์ และนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมด้วยการ์ดจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าไปที่ตึก สก.โรงพยาบาลจุฬาฯ เพื่อเจรจากับ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) พ.ต.อ.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 (ผบก.น.6) ในการรื้อย้ายแนวบังเกอร์ของกลุ่มเสื้อแดงให้พ้นจากโรงพยาบาลจุฬาฯ โดยใช้เวลาในการพูดคุยประมาณครึ่งชั่วโมง ทั้งหมดจึงเดินทางกลับเข้าไปภายในเวทีราชประสงค์

นายณัฐวุฒิ กล่าวภายหลังการเจรจาว่า ทางกลุ่ม นปช.พร้อมที่จะเปิดทางเข้า รพ.จุฬาลงกรณ์ ทางฝั่งราชดำริเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะเดินทางมายังโรงพยาบาล โดยมติของแกนนำในวันนี้คือจะมีการเปิดพื้นที่ถนนตั้งแต่ถนนพระราม 4 จนถึงประตูทางเข้าตึก สก.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวกลุ่ม นปช.ขอให้มีการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดงร่วมสังเกตการณ์ด้วย

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่การชุมนุมบริเวณหน้าสวนลุมพินี อนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 ที่ทางกลุ่ม นปช.ยังคงตรึงกำลังและตั้งแนวบังเกอร์ไว้นั้นขณะนี้มติของ นปช.ยังไม่มีแนวทางที่จะรื้อถอนออกแต่อย่างใด เนื่องจาก จำเป็นต้องใช้พื้นที่ดังกล่าวคอยสังเกตการณ์ฝ่ายเจ้าหน้าที่ เนื่องจากกลัวว่าจะมีการเข้ามาสลายการชุมนุม ดังนั้นหากว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับเงื่อนไขของกลุ่ม นปช.ได้กลุ่ม นปช.แดงทั้งแผ่นดิน พร้อมที่จะรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้ได้ทุกเมื่อ แต่จะไม่มีการยินยอมฝ่ายรัฐบาลไปมากกว่านี้อีกแล้ว

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินออกมาแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียิงระเบิดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหมว่าผู้ต้องสงสัยมีความเกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงนั้น ทางกลุ่ม นปช.ขอเตือนไปยัง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า อย่ายัดเยียดข้อกล่าวหาโดยที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนเด็ดขาด รวมทั้งควรหยุดให้ข่าวชี้นำประชาชนได้แล้ว หากไม่หยุดพฤติกรรมดังกล่าว กลุ่ม นปช.ก็จะเตรียมยื่นเรื่องดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

นอกจากนี้ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่า อย่าพยายามนำเหตุการณ์ที่กลุ่ม นปช.บุกเข้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มาลบภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่รัฐบาลใช้กำลังสลายการชุมนุม เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะนำมากลบเกลื่อนความผิดที่เคยกระทำไว้ได้

“เราจะไม่สู้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ ผู้ชุมนุมเสียใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรณีบุกรุกโรงพยาบาลจุฬาฯ ถือว่าเป็นมรสุมอย่างหนึ่ง ผู้ชุมนุมน้อมรับคำว่ากล่าวจากองค์กรต่างๆ ต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผมอยากให้รัฐบาลออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เหมือนกับที่ผู้ชุมนุมรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลจุฬาฯ” แกนนำ นปช.กล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวถึงกรณี พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธแดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล) แย้งการรื้อถอนแนวบังเกอร์ก่อนหน้านี้ว่า อาจเป็นความรู้ด้านทหารเพราะถนนราชดำริเป็นจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งจะไม่กล่าวโทษอะไร เสธแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเจรจาเบื้องต้นมีข้อสรุปว่า ผู้ชุมนุมยอมเปิดการจราจรถนนราชดำริ ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้รถยนต์สามารถกลับรถได้ ตั้งแต่แยกศาลาแดงไปจนถึงช่วงหน้าตึก สก.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ล่าสุดตั้งแต่ช่วงเวลา 12.00 น.ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทยอยรื้อถอนบังเกอร์ที่เป็นยางรถยนต์ ไม้ไผ่ และรั้วลวดหนาม ที่อยู่ตรงเกาะกลางถนนราชดำริ บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมีกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 2 กองร้อย และการ์ด นปช.ดูแลความปลอดภัยและคอยอำนวยความสะดวก

ขณะเดียว กันผู้ชุมนุมได้นำอุปกรณ์ดังกล่าวไปทำบังเกอร์ที่หน้าสวนลุมพินีแทน เนื่องจากพื้นที่ตรงลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 จะเป็นพื้นที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมพักอาศัย และเฝ้าสังเกตการณ์ หากเจ้าหน้าที่ทหารเข้าสลายการชุมนุม ส่วนบริเวณเวทีแยกราชประสงค์ ผู้ชุมนุมยังคงปักหลักฟังการปราศรัยอย่างต่อเนื่อง โดยแกนนำและกลุ่มแนวร่วมยังคงขึ้นปราศรัย และขอให้ผู้ชุมนุมเตรียมความพร้อมหากรัฐบาลประกาศใช้กฎอัยการศึก

 

ที่มา: เรียบเรียงจากมติชนออนไลน์ และไทยรัฐออนไลน์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net