Skip to main content
sharethis

ชวนไม่รู้เรื่องยุบสภาเล่นลิ้นมีกำนันอยู่แล้วไม่ต้องถามผู้ใหญ่ 'โสภณ ซารัมย์' เตรียมรถส่งผู้ชุมนุมกลับบ้าน ปู่ชัยเชื่อความขัดแย้งยาวนาน 10 ชั่วโคตรคงใช้เวลาพอสมควร ทักษิณโฟนอินขานรับโรดแมป เรื่องวันเลือกตั้ง 14 พ.ย. จะเหมาะสมหรือไม่ต้องถามเสื้อแดง เพราะตนเป็นตัวจิ๋วในขบวน

จากกรณีที่คืนวานนี้ (3 พ.ค.) นายกรัฐมนตรีประกาศข้อเสนอโรดแมป 5 ข้อกับกลุ่ม นปช. โดยการยุบสภาและกำหนดวันลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย. นั้นล่าสุดมีปฏิกิริยาจากหลายฝ่ายทั้งสนับสนุนและคัดค้าน

 

ชวนบอกไม่รู้เรื่องยุบสภา เล่นลิ้นมีกำนันอยู่แล้ว ไม่ต้องหารือผู้ใหญ่
ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค.) เว็บไซต์ นสพ.ไทยรัฐ รายงานว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงที่มีปัญหากรณีผู้ชุมนุมที่เรียกร้องหยุบสภา เราไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา แม้จะมีคนมาขอให้ยุบหรือมาข่มขู่ เราก็ไม่เห็นด้วย ซึ่งตอนแรกตนเข้าใจที่นายกฯ ประกาศการยุบภายใน 9 เดือน เพื่อเป็นการแก้ปัญหาไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น แต่การประกาศยุบสภาโดยกำหนดวันเลือกตั้ง 14 พ.ย. ตนเรียนว่าไม่ทราบมาก่อนจริงๆ ว่าท่านคิดอย่างไรในเรื่องนี้ จึงขอให้ไปถามนายกฯเอง แต่ทั้งนี้จะยุบสภาเมื่อไหร่ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี คงต้องไปถามรายละเอียดกับนายกฯ เองว่าจะปฏิบัติอย่างไรต่อไป

เมื่อถามว่า ควรนำเรื่องนี้มาหารือกับผู้ใหญ่ในพรรคก่อนหรือไม่ นายชวน ตอบติดตลกว่ามีกำนันอยู่แล้ว ไม่ต้องหารือผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่มีโอกาสพบกับนายกฯ เพื่อพูดคุยเรื่องนี้จริงๆ จีงไม่ทราบรายละเอียดว่าท่านคิดอย่างไร เมื่อถามว่า คิดว่าทางออกของประเทศควรเดินไปทางใด

นายชวน กล่าวอีกว่า มีทางให้เดินเยอะอยู่ที่ว่าจะไปทางใด เมื่อย้ำถามว่า ส่วนตัวท่านไม่เห็นด้วยกับแนวทางของนายกรัฐมนตรีที่จะยุบสภาใช่หรือไม่ นายชวน ตอบว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรีเอง เพราะไม่เคยคุยเรื่องนี้กัน เคยคุยแต่เพียงว่าในระบบประชาธิปไตยต้องรักษาหลักนิติธรรมและกฎหมายบ้าน เมืองเอาไว้ ดังนั้น การทำอะไรก็ตาม ที่ไม่ถูกกฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่ต้องแก้ไขปัญหากับชาติบ้านเมืองเป็นของคู่กัน ซึ่งต้องแก้กันตลอดเวลาแต่จะใช้วิธีไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะเลือกตั้ง 14 พ.ย. ใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค คงต้องไปถามเรื่องนี้กับกรรมการบริหารพรรคเอง เมื่อถามว่า มองเรื่องนิรโทษกรรมอย่างไรบ้าง นายชวน กล่าวว่า ไม่เคยมีใครพูดเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการยกเว้นความผิด เพราะความเป็นธรรมในบ้านเมืองต้องอาศัยกติกา ถูกว่าถูก ผิดเป็นผิด นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด

 

ไตรรงค์เชื่อยุบสภาทางออกที่ดีที่สุด แต่ไม่ต้องนิรโทษกรรม

ส่วนที่กรมทหารราบที่ 11 รอ. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เสนอให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย. เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติทางการเมืองว่า ดีแล้ว ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทำให้กลุ่มเสื้อแดงหาทางลงได้ เพราะประเทศเสียหายมามากแล้ว และการชุมนุมก็ได้ประโยชน์มามากแล้ว ซึ่งนายกฯก็รับปากแล้วว่า จะหาทางแก้ปัญหาช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย และเชื่อว่าสามารถทำได้ เช่น การออกกฎหมายที่ดิน

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ามีความจำเป็นต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดให้แกนนำเสื้อแดงหรือไม่ นายไตรรงค์ตอบว่า จะมาเจรจาเรื่องนิรโทษกรรมไม่ได้ ใครทำผิดกฎหมายอาญาก็ต้องผิด เช่น การทำร้ายชีวิตผู้อื่น การทำลายทรัพย์สมบัติราชการ ไม่สมควรนิรโทษกรรมให้ เพราะจะทำให้ยิ่งเหิมเกริมและทำแบบนี้อีก ส่วนความผิดทางการเมืองก็ต้องไปพิจารณากันอีกที ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญจะแก้ก่อนหรือหลังเลือกตั้งก็ต้องไปหารือกันอีกครั้ง

 

โสภณพร้อมส่งผู้ชุมนุมกลับบ้านโดยสันติวิธี

ส่วนนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีประกาศโรดแม็ป กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.โดยที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่ได้รับรู้มาก่อนและไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้รัฐบาลอยู่ทำงานจนครบวาระว่า

ตนไม่ทราบ แต่ฟังดูแนวโน้มก็เป็นเรื่องที่ดี หลายฝ่ายเองก็ตอบรับ ไม่ว่าฝ่ายกลุ่มม็อบอะไรต่างๆ ทั้งนี้ไม่ทราบว่านายกฯได้คุยกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ข่าวที่ว่านายเนวิน ไม่เห็นด้วยหรือไม่อย่างไร เรื่องนั้นต้องถามทางหัวหน้าพรรค อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรค ถ้ามันนำไปสู่ความเรียบร้อยของบ้านเมือง ก็น่าจะรับฟังกันได้ ในช่วงเวลาที่พูดถึงกัน ซึ่งถ้ามีการเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ย.พรรคก็พร้อมอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคภูมิใจไทยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนท่าทีอย่างไรบ้าง โดยเฉพาในพื้นที่ภาคอีสาน นายโสภณ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่มี ตอนนี้คะแนนดี ทั้งโครงการถนนไร้ฝุ่นและ รถไฟ นายกฯ อาจจะคุยโดยตรงกับหัวหน้าพรรคหรือไม่ทราบ แต่ตนมีหน้าที่ในการเตรียมรับส่งคนเดินทางกลับบ้าน

ส่วนจะต้องเตรียมรถสำรองไว้เท่าไรนั้นก็ขอให้กลับบ้านจริงๆ เสียก่อน เพราะจำนวนรถมีพร้อม โดยจะมีการแจกพระพุทธคมนาคมปลอดภัยแจกให้ด้วยคนละ 1 เหรียญ ซึ่งถ้าพร้อมกลับบ้านก็ประสานที่ศูนย์ความปลอดภัยของคมนาคมได้ทันที โดยรถจะรับในที่ชุมนุม รวมทั้งรถยนต์และรถไฟ

“ถ้าจะพร้อมกันกลับโดยสันติวิธี เขาคงมีกลุ่มที่จะประกาศ ถ้าใครจะกลับทางรถไฟเราก็จะมีรถเมล์ส่งมาที่หัวลำโพง สถานีรถไฟ ส่วนถ้าอยู่ใกล้ๆ ก็จะส่งบริเวณปริมณฑล สมุทรปราการ ปทุมธานี ซึ่งผมได้คุยเรื่องนี้กับส่วนที่เกี่ยวข้อง เราก็อยากจะให้กลับจริง เพราะบ้านเมืองจะได้สงบเรียบร้อย”

 

ปู่ชัยเชื่อความขัดแย้งยาวนาน 10 ชั่วโคตรคงใช้เวลาพอสมควร ยุบสภาไม่รู้ ปชป. - หลากสียอมไหม

ขณะที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หากนายกรัฐมนตรีจะส่งสัญญาณใดๆ ออกมาถือเป็นเรื่องดีทั้งนั้นหากช่วย ให้ประเทศเกิดความสามัคคี ห่วงอย่างเดียวว่า กลุ่มคนเสื้อแดง คนเสื้อหลากสี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยเฉพาะ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์เองจะยอมให้มีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.นี้หรือไม่ สำหรับตนแล้วยุบวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็พร้อมจะเลือกตั้งใหม่ ทันทีผิดกับพวกที่ออกมาโวยวายให้ยุบสภาแต่อีกด้านหนึ่งก็ขาสั่นมีให้เห็นกันมากแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลา 3-4 เดือน จะช่วยลดความขัดแย้งในสังคมได้หรือไม่ นายชัย กล่าวว่า ความขัดแย้ง 10 ชั่วโคตรก็ยังไม่หมดจึงต้องใช้เวลาพอสมควรและยังไม่แน่ใจว่าการเลือกตั้งจะ ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือไม่ข้อเสนอของนายกรัฐมนตรีแม้จะมีอำนาจในการยุบ สภาได้ แต่ขอถามว่าคนเสื้อเหลืองเสื้อหลากสีและทุกฝ่ายยอมรับกับข้อเสนอดังกล่าว หรือไม่ จึงควรให้ได้ข้อยุติจากทุกฝ่ายให้แน่ชัดก่อนทั้งนี้ที่ผ่านมาการยุบสภาจะ เกิดขึ้นต่อเมื่อฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารเกิดความขัดแย้งกันเท่านั้น อยู่เฉยๆ จะยุบสภาเลยทั่วโลกไม่ทำกันเพราะฉะนั้นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องทะเลาะกันให้มากกว่านี้ สุดท้ายควรสอบถามความเห็นจาก ส.ส.ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการยุบสภาด้วย

 

'ทักษิณ' โฟนอินหาสื่อยันเป็นคนไม่ใช่ผี
ส่วนที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวว่า มีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอดีตนายกฯ บางสื่อระบุว่าท่านเสียชีวิตแล้ว แม้มีการส่งภาพมาก็บอกว่าเป็นการตัดต่อ เลยจะทำความจริงให้ปรากฏ

จากนั้นนายนพดลได้ต่อโทรศัพท์ไปถึงปลายสายเป็นเสียง พ.ต.ท.ทักษิณว่า สวัสดีครับพี่น้องสื่อมวลชนครับ จำเสียงผมได้หรือเปล่า ไม่ได้คุยกันนาน ตกลงที่ได้ยินคือเสียงคนนะครับ ไม่ใช่เสียงผีนะครับ ยังไม่ตายครับ ยังมีความสุขสบายใจดี อยากจะบอกสื่อมวลชนว่าผมเห็นใจที่สุดในภาวะนี้ที่ท่านทั้งหลายต้องถูกรัฐบาล ให้ทำข่าวด้านเดียว หลายท่านยังรักษาอุดมการณ์ได้ บางท่านก็ทิ้งอุดมการณ์ไป

 

อัดถ้าสังคมขาดความเป็นธรรม สังคมหาความสงบสุขยาก

แต่ผมอยากเรียนว่าถ้าวันนี้ถ้าสังคมขาดความเป็นธรรม ขาดหลักการ ขาดกฎกติกา ขาดการเคารพกติกา มันก็ทำให้สังคมนั้นหาความสงบสุขยาก พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

อดีตนายกฯ  ยังกล่าวอว่า วันนี้ไม่มีอะไรมาก เพียงอยากส่งเสียงให้ได้ทราบว่าผมยังมีชีวิตอยู่ แข็งแรงสบายดี ไม่มีอะไรอย่างที่ปล่อยข่าวลือกัน ข่าวลือแปลว่าสิ่งที่คนปล่อยข่าวอยากให้เป็นอย่างนั้น แน่นอนคนปล่อยข่าวเพื่อให้มวลชนที่สนับสนุนผมเลิกลาไป วันนี้มันเกินเลยผมไปเยอะแล้ว มวลชนเขาเข้าใจความยุติธรรมในสังคมเป็นอย่างไร ความไม่มีสิทธิเสรีภาพ เสมอภาค ความไม่เป็นประชาธิปไตยเป็นอย่างไร เขาเลยใฝ่หา วันนี้รัฐบาลไม่เข้าใจ คิดว่าการปิดสื่อ ใช้สื่อโฆษณาตัวเองและโจมตีข้างเดียวจะได้ผล แต่แท้จริงไปเพิ่มให้คนที่ไม่ชอบรัฐบาลอยู่แล้ว เกิดความรู้สึกไม่ชอบรุนแรงขึ้น ทำให้คนที่ไม่รักความเป็นธรรมมา หันเข้ามาสู่กระบวนการคนเสื้อแดงมากขึ้น

 

ความปรองดองเป็นสิ่งดี ความหลากหลายเป็นความสวยงามแบบประชาธิปไตย

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากเห็นวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.) เป็นวันฉัตรมงคล เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงขึ้นครองราชย์ ผมคิดว่าถ้าเริ่มต้นสิ่งที่ดีงาม ความที่จะปรองดองแห่งชาติเกิดขึ้นมันก็จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าทุกคนต้องมีจิตใจที่ไม่เอาเปรียบ หากจะเอาเปรียบทางการเมือง ค้ากำไรเล็กๆน้อยของกันและกัน คงเป็นไปได้ยากเพราะ ไม่มีใครโง่กว่าใคร แต่ต้องเอาใจ ทัศนคติที่พร้อม ให้เกิดสิ่งที่ดีงามในบ้านเมือง การมีหลายสีไม่ได้ผิดอะไร หากมีสีเดียวหมดก็เหมือนคอมมิวนิสต์สมัยก่อน ทุกคนต้องใส่สีเดียวกันหมด

ความจริงแล้วการมีหลากสี การมีความคิดต่างกันเป็นความสวยงามในระบอบประชาธิปไตย แต่หมายความว่าทุกฝ่ายต้องเคารพกติกา กติกาต้องเป็นธรรม ไม่ใช่กติกาบังคับใช้ส่วนหนึ่งแล้วไม่บังคับใช้ส่วนหนึ่ง ถึงเวลาแล้วเรียกหากฎหมาย แต่กฎหมายต่ำกว่าความยุติธรรมเยอะถ้าเราคิดว่ารักและป้องกฎหมายเพื่อเอามา ใช้เพื่อประโยชน์ตัวเองและพวกพ้อง ก็สร้างปัญหาใหม่เกิดขึ้น สิ่งเดียวที่ทำให้ประเทศไทยกลับเหมือนเดิม คือทุกคนต้องเลิกเอาเปรียบกัน ทุกคนต้องยอมรับกติกาแล้วเคารพกติกา แต่ไม่ใช่กติกามาเลือกใช้บังคับเฉพาะข้าง

 

ขอให้มองไปข้างหน้า ทุกคนเคารพกติกาที่เป็นกลาง

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า มันเริ่มต้นผิดพลาดตั้งแต่ไม่ยอมลงเลือกตั้ง เป็นที่มาความวุ่นวายในปัจจุบัน วันนี้เราไม่ต้องฟื้นฝอยหาตะเข็บ มองไปข้างหน้าดีกว่า จะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างไร แน่นอนธรรมชาติมนุษย์เมื่ออันตรายมาถึงตัวทุกคนปกป้องเหมือนกันหมด เมื่อทุกคนต่างฝ่ายต่างปกป้อง ก็ยากที่จะทำให้เราเริ่มต้นใหม่ได้ ถ้าเริ่มแล้วก็ต้องให้ทุกคนวาง แล้วไม่ต้องมาปกป้องตัวเอง หันหน้าเข้าหากัน มาปรองดอง ไม่ต้องระแวงซึ่งกันและกัน เดินหน้า ให้อภัยซึ่งกันไป จบกันไป เอากติกามาใช้ ทุกคนเคารพกติกา คนที่บังคับใช้กติกาก็ต้องเป็นกลาง ไม่ใช่เอาพวกพ้องมา แล้วกลั่นแกล้งอีกฝ่ายตลอดเวลา เรื่องเห็นชัดๆ ฝ่ายหนึ่งทำก็ผิด อีกฝ่ายทำไม่ผิด มันคือความหน้าด้านของระบบและคนในระบบมันมากขึ้น มันทำให้ทุกอย่างมันต้องแรง เพราะฉะนั้นก็เลยอยากเรียกร้อง วันมหามงคลกำลังจะมาถึง ถ้าทัศนคติทุกฝ่าย นำกลับไปคิด เราเคยรุ่งเรืองมาก่อน เราเคยเป็นสยามเมืองยิ้ม เราเคยหันหน้าเข้าหากันเพราะเคารพกติกา ไม่คิดเอาเปรียบทางกติกา บ้านเมืองก็ไปได้ เป็นความปรารถนาดีของผมที่อยู่ไกล และถูกกระทำตลอด

"วันนี้ ก็ยังถูกกระทำอยู่ ไม่ว่าจะหนีอย่างไรก็ยังถูกกระทำตลอด ทั้งที่ควรเลิกลากันไป วันที่ถูกปฏิวัติก็ได้บอกกับหัวหน้าคณะปฏิวัติแม้กระทั่ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ ว่าผมเป็นนักกีฬา เมื่อจบคือจบ แต่ต้องหยุดกลั่นแกล้งทางการเมืองถ้าคิดจะสร้างความปรองดองแห่งชาติ เปรียบเหมือนปรบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก ต้องปรบมือสองข้าง เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน ถ้าเราจะปรบมือ สองมือต้องมาสามัคคีกัน ไม่ใช่ปรบไม่โดนกัน" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า ผมมีความปรารถนาอย่างเต็มที่ ในฐานะทำหน้าที่มา 5-6 ปี ก็รักชาติ ห่วงชาติบ้านเมือง ประชาชน อยากเห็นกติกาเป็นกติกา อยากเห็นคนใช้กติกามีใจเป็นธรรม อยากเห็นสิ่งที่ดีงามกลับคืนมา เพื่อพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงมีความสุข ผมอยู่เมืองนอกนาน ก็เรียนว่าขอให้คนไทยด้วยกัน โดยเฉพาะนักการเมือง ที่มาปัญหาเพราะนักการเมืองสู้กันสองพรรคอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่ได้ยอมรับว่าแพ้ชนะเป็นเรื่องของประชาชน มันเลยแตกลูกหลานออกไป เพราะฉะนั้นนักการเมืองสองพรรคต้องไม่เอาแพ้ชนะ ต้องหันหน้าเข้าหากัน คุยกัน ในฐานะคนไทย คุยภาษาไทย คุยและต้องหันหน้าและยิ้มให้กัน ไม่ใช่มือไขว้หลังแล้วพกอะไรไว้ เอามือวางไว้บนโต๊ะ เช็กแฮนด์ (จับมือ)ให้เรียบร้อย คุยกันอย่างคนไทยด้วยกันว่าเรา จะหาข้อยุติอย่างไร ไม่ใช่คอยจะชิงไหวชิงพริบ เอาเปรียบกัน เอาจุดหมายปลายทางคนไทยไว้ดีกว่า ขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนอีกครั้งผมยังหลับตาเห็นหน้าตาหลายคน ที่อยู่แถวทำเนียบฯ ไม่รู้ใคร ผอมอ้วน แก่ หนุ่ม อย่างไร แต่ผมรู้สึกแก่ไปเยอะ แต่น้ำหนักเท่าเดิมเหมือนตอนเป็นนายกฯ และผมไม่ร่วง ผมยังดกดำเหมือนเดิม ย้อมบ้าง ขาวบ้าง

เมื่อถามว่า การเริ่มต้นที่ดีในวันฉัตรมงคลผู้ชุมนุมต้องยุติการชุมนุมเพื่อให้รัฐบาล เดินหน้าสร้างความปรองดองแห่งชาติอย่างยุติธรรมใช่หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า คิดว่าวันนี้เป็นการสร้างกติกาน่าจะเริ่มต้นให้เกิดทัศนะคติร่วมกันดีกว่า เรื่องยุติชุมนุม ไม่รู้รัฐบาลชิงไหวพริบ เอาเปรียบหรือเปล่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลเอาเปรียบอยู่ตลอดเวลา อยู่ๆ ก็ด่าข้างเดียว ถ้าเริ่มต้นที่ดีวันฉัตรมงคลเริ่มต้นคุยกันด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แล้วหาแนวทางข้อยุติร่วมกัน จะใช้เวลาวันสองวันก็ยังดี วันที่ 5 พ.ค.ควรเป็นวันเริ่มต้นที่ดี ให้คนไทยได้อบอุ่นใจว่าหน้าตายิ้มแย้มใส่กัน ไม่มีเจ้าเล่ห์เจ้าเหลี่ยมแล้ว ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง

 

เลือกตั้ง 14 พ.ย. เหมาะสมหรือไม่ต้องถามเสื้อแดง เพราะตนเป็นตัวจิ๋วในขบวน

มีผู้ถามว่า รับได้กับโรดแม็ป 5 ข้อของนายอภิสิทธิ์หรือไม่ อดีตนายกรัฐมนตรีตอบว่า ไม่เกี่ยว รับไม่รับเป็นเรื่องของเสื้อแดง ผมเป็นผู้สังเกตการณ์ ก่อนอื่นอยากให้สื่อมวลชนไปดูข้อ 3 สื่อต้องสร้างสรรค์ไม่แตกแยก ไม่เสนอข่าวด้านเดียว ไม่รู้นายอภิสิทธิ์เขียนเองหรือมีใครเขียนให้อ่านหรือไม่ เมื่อถามว่า เลือกตั้ง 14 พ.ย.เหมาะสมหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ไม่ทราบต้องถามเสื้อแดง วันนี้เกินผมไปแล้ว ผมเป็นตัวจิ๋วๆเล็กๆ อยู่ในกระบวนการที่เขาเคลื่อนไหวเท่านั้นเอง ต้องถามเขา ผมคงตอบแทนไม่ได้ ส่วนตัวผมไม่ทราบ ผมห่างไกลแล้ว เลือกตั้งก็ไม่เกี่ยวแล้ว ยังถูกห้ามอยู่ 5 ปี ผมยังร้องเพลง "ขอบคุณที่ซ้ำเติม" ไม่จบเลย

เมื่อถามว่า จะปรากฏตัวให้ประชาชนได้เห็นหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า จะปรากฏอย่างไร จองตั๋วการบินไทยกลับได้เลยหรือไม่ เมื่อถามถึงกรณีที่ให้สัมภาษณ์จะกลับประเทศไทยสิ้นปี พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ผมสัมภาษณ์ตามหมอดู ก็ไม่รู้เรื่องจริงเป็นไงไม่รู้ แต่หมอดูต่างประเทศบอกว่าอย่างนั้น ก็ต้องสัมภาษณ์ไปอย่างนั้น

"หวังว่าคงจะจำเสียงผมได้นะครับ เดี๋ยวจะบอกว่าเสียงใครมาพูดแทนหรือเปล่า ใช่หรือเปล่า อาจตายไปแล้วอัดเทปเก่าไว้หรือเปล่า ตอนนี้ผมอยู่ตะวันออกกลางครับ ขอบคุณสื่อมวลชนที่กรุณามาวันนี้ ยังคิดถึงหลับตายังนึกถึง ขวัญ มน ก็ยังจำได้อยู่ ไม่รู้ว่าอ้วนหรือผอม บางคนแต่งงานหรือยังไม่รู้ แต่ขอบคุณทุกคนครับ" พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวทิ้งท้าย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net