สื่อนอกวิเคราะห์ปัญหาไทยจบด้วยดี/'ทักษิณ' จ้างที่ปรึกษาต่างประเทศ

5 พ.ค. 53 - สำนักข่าวรอยเตอร์เผยแพร่บทวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ที่สถานการณ์ขัดแย้งทางการ เมืองในไทยจะลงเอยด้วยสันติ ว่า ยังถือเป็นแนวทางที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดแม้ทางฝ่ายผู้ชุมนุมจะยังคงตั้ง เงื่อนไขขอให้กำหนดวันยุบสภาที่แน่ชัดออกมา

โดยเชื่อด้วยว่า หากมีการตกลงกันได้ด้วยดีดังกล่าวจะส่งผลดีต่อดัชนีตลาดหลักทรัพย์  ตลาดพันธบัตร และตลาดเงินของไทย และเชื่อว่า จะทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์สามารถพุ่งขึ้นสู่ระดับ 950 จุดได้เมื่อถึงปลายปีนี้

รอยเตอร์ระบุว่า ยังมีความเป็นไปได้เช่นกันที่การทำความตกลงดังกล่าวจะยังไม่เกิดขึ้นในทันที แต่อาจชะลอออกไปอีกหลายวัน โอกาสที่จะเป็นไปได้ลำดับถัดมาก็คือการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุมตาม แนวทางปรองดองแห่งชาติของรัฐบาลล้มเหลวลง และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดด้วยการใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น พันธบัตรและตลาดเงินอย่างหนักหน่วงอยู่ระยะหนึ่งจนกว่ารัฐบาลจะฟื้นฟูความ เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้นมาได้

"โอกาสเป็นไปได้ที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุดในทัศนะของรอยเตอร์ก็ คือ การชุมนุมยังคงดำเนินไปอย่างยืดเยื้อต่อไป โดยให้เหตุผลของความเป็นไปได้น้อยที่สุดว่า เป็นเพราะรัฐบาลอดทนมามากพอแล้วและการเข้าสลายการชุมนุมจะเป็นที่ยอมรับของ สาธารณชนทั่วไป หรืออย่างน้อยที่สุดก็จากประชาชนในกรุงเทพฯ"

ในรายงานของ เจมส์ ฮุคเวย์ เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ ให้ความสนใจไปที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก มากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลังจากที่เสธ.แดงออกมาปฏิเสธข้อเสนอของนายกรัฐมนตรี โดยอ้างว่าเป็นเพียงกลลวงให้ยุติการชุมนุม เป็นการซื้อเวลาและหาทางให้ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวอ้างความเห็นของนักวิเคราะห์อิสระระบุว่า อิทธิพลของเสธ.แดงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันเป็นกองกำลังมีมากขึ้นตาม ลำดับ ซึ่งอาจนำไปสู่การนองเลือดได้ โดยชี้ให้เห็นว่ามีอย่างน้อย 5,000 คนเข้าร่วมพรรคการเมืองที่พล.ต.ขัตติยะ จัดตั้งขึ้นในชื่อ พรรคขัตติยะธรรม

พล.ต.ขัตติยะบอกกับวอลสตรีท ว่าจะไม่เลิกล้มการชุมนุมครั้งนี้จนกว่าจะได้รับคำสั่งจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้สั่งการโดยตรงของตน ไม่เกี่ยวกับแกนนำของผู้ชุมนุม โดยประกาศอย่างชัดเจนไว้ว่า ภารกิจสุดท้ายของคือการเปลี่ยนการชุมนุมมาราธอนเพื่อต่อต้านรัฐบาลหนนี้ให้ กลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบในเมืองหลวง

"ทักษิณ" จ้างบริษัทกฎหมาย อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีรอฟฟ์ เป็นที่ปรึกษา

บริษัท อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีรอฟฟ์ (Amsterdam & Peroff) ประกาศว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อช่วยในเรื่องการฟื้นฟูประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมในประเทศ

"เรารู้สึกยินดีที่ได้รับการว่าจ้างจากอดีตนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการในเรื่องเร่งด่วนนี้ และเราตระหนักดีถึงความซับซ้อนและความอ่อนไหวของวิกฤตการเมืองในประเทศไทยที่ยังไม่สามารถหาทางออกได้” โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีรอฟฟ์ กล่าว

“เราตั้งใจจะใช้ความรู้ทางกฎหมายที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตยครั้งนี้ พร้อมกันนั้นเราขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกอย่าอดทนอดกลั้นต่อรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ที่ชุมนุมอย่างสันติ”

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ซึ่งดำรงตำแหน่งในช่วงปี พ.ศ.2544-2549 ก่อนที่จะถูกรัฐประหาร ต้องเนรเทศตัวเองออกไปอยู่ต่างประเทศตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาแม้จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยหลายครั้ง ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงในกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เสียชีวิตไป 27 รายจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บริษัท อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีรอฟฟ์ เป็นบริษัทที่ปรึกษากฎหมายระดับสากล ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2523 โดยโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม และ ดีน พีรอฟฟ์ บริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านการฟ้องร้องดำเนินคดีที่ซับซ้อน อนุญาโตตุลาการพาณิชย์ และคดีความทางการเมืองในตลาดเกิดใหม่ที่มีความท้าทาย บริษัทมีสำนักงานในลอนดอน วอชิงตัน ดีซี และโทรอนโต

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์, ฐานเศรษฐกิจ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท