Skip to main content
sharethis

หัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนคนรักไทย FM 95.25 MHz ฟ้อง "อภิสิทธิ์-สุเทพ" ฐานละเมิด เหตุถูกเจ้าหน้าที่รัฐส่งสัญญาณรบกวนคลื่นวิทยุ เจ้าตัวเผยไปรายงานตัว ศอฉ.แล้ว ล่าสุดถูกหมายจับฐานเผยแพร่คลิปเสียงนายกฯ ยันไม่เคยเปิดคลิปแต่ถ่ายทอดเสียงการชุมนุมที่ราชประสงค์ เชื่อประชาชนไปชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ

วานนี้ (7 พ.ค.53) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายพันธุ์ศักดิ์ ซาบุ หัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนคนรักไทย ออกอากาศทาง FM 95.25 MHz ได้ไปยื่นคำฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ.จำเลยที่ 2 ในข้อหาละเมิด กรณีมีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุรบกวนการออกอากาศของวิทยุชุมชนคนรักไทย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.เป็นต้นมา โดยร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐหยุดแทรกแซงด้วยวิธีการใดๆ เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เว้นการละเมิดอันก่อให้เกิดความเสียหายด้านเสรีภาพและสิทธิในการเสนอข้อมูล ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 420 421 และให้หยุดส่งสัญญาณรบกวน 

จากนั้น เวลาประมาณ 15.30 น. ศาลแพ่งได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนฉุกเฉินตามที่โจทย์ร้องขอ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำไต่สวนโจทย์ ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 2 มีส่วนเกี่ยวข้องหรือสั่งการในการรบกวนคลื่นวิทยุของโจทย์ เป็นแต่เพียงเรื่องคาดคะเนของโจทย์เอง จึงไต่สวนให้ยกคำร้องคุ้มครองชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ศาลได้รับฟ้องในคดีดังกล่าว และนัดสืบพยานโจทย์ เวลา 9.00 น.วันที่ 28 พ.ค.นี้

นายพันธุ์ศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถานีวิทยุชุมชนคนรักไทยถูกรบกวนจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการส่งสัญญาณรบกวนคลื่นวิทยุ ทำให้ผู้ฟังไม่สามารถรับฟังรายการของทางสถานนี้ได้ตามปกติ และเป็นเหตุให้ต้องปิดการออกอากาศของสถานีในช่วง 2 วันที่ผ่านมา อีกทั้งที่ผ่านมายังมีกระแสข่าวการกำลังเจ้าหน้าที่มาทำการปิดสถานี ทำให้ต้องระดมคนมาช่วยกันป้องกันอยู่หลายครั้ง

นายพันธุ์ศักดิ์ เล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้เขาได้รับหมายเรียกจาก ศอฉ.และเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา เขาพร้อมผู้ประกอบการวิทยุชมชนและเคเบิลทีวีอีก 4 คน ได้เข้าไปรายงานตัวกับ ศอฉ.ที่ ราบ 11 รอ.โดยได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ก่อนที่จะเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ทั้งนี้ การพูดคุยเป็นไปด้วยดี โดยเจ้าหน้าที่ให้เสนอการแก้ปัญหา ซึ่งทางแก้ไขสำหรับเขาคือการที่นายกต้องยุบสภาในทันที นอกจากนี้เขาได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าจะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลกรณีที่ถูกรบกวนคลื่นวิทยุด้วย

“เขาขอว่า การดำเนินรายการขอให้เกิดการปองดองกัน ผมเห็นด้วย แต่รัฐบาลก็ต้องให้ความเป็นธรรม หากความเป็นธรรมไม่เกิด ความปองดอง ความสามัคคีมันก็เกิดไม่ได้” หัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนคนรักไทยกล่าวถึงสิ่งที่ได้พูดกับจำหน้าที่

เกี่ยวกับการที่ ศอฉ.ออกหมายเรียกให้นักจัดรายการและหัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนไปรายงานตัว นายพันธุ์ศักดิ์แสดงความเห็นว่า รัฐพยายามควบคุมสื่อเล็กๆ ทั้งที่สื่อที่ปลุกคนมาร่วมการชุมนุมของคนเสื้อแดงมากที่สุดคือสื่อของรัฐ ทั้งช่อง 3 5 7 9 11 และทีวีไท เพราะการโกหก ให้ข้อมูลด้านเดียว เมื่อคนไม่ได้ข้อมูลก็อยากรู้ เขาเลยออกมาที่ที่ชุมนุม ดังนั้นหากจะป้องกันรัฐควรให้ข้อมูล 2 ฝ่าย

นายพันธุ์ศักดิ์ ให้ข้อมูลด้วยว่า ล่าสุดขณะนี้เขาได้ถูกออกหมายจับในความผิดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงของรัฐบาล ข้อหาเผยแพร่ซ้ำคลิปเสียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งสลายการชุมนุม เมื่อเดือนเมษายน 2552 โดยหมายจับเพิ่งส่งถึงสถานนี้ อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่าไม่ได้นำคลิปเสียงดังกล่าวมาเปิดในรายการวิทยุชุมชนคนรักไทย แต่ก็หน้านี้เข้าเพียงแต่ถ่ายทอดเสียงจากการชุมนุมคนเสื้อแดงที่เวทีสี่แยกราชประสงค์ผ่ายทางสถานีวิทยุเท่านั้น ทั้งนี่เขาคิดว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะการที่ประชาชนไปชุมนุมเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ

ส่วนเรื่องที่ก่อนหน้านี้ที่ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุห้ามการถ่ายทอดเวทีการชุมนุม โดยอ้างถึง ข้อกำหนดตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่เช่นนั้นจะส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการนั้น นายพันธุ์ศักดิ์กล่าวว่า ในส่วนวิทยุชุมชนคนรักไทยได้ยื่นขอใบอนุญาตแล้ว และในหลักการที่ระบุไว้ว่าต้องไม่ให้ร้ายผู้อื่น เนื้อหาไม่ส่อไปทางปลุกระดมมวลชน และไม่หมิ่นสถาบันเบื้องสูง ทางสถานีก็ปฏิบัติตามทุกอย่าง เจ้าหน้าที่ของรัฐจึงไม่สามารถทำการปิดสถานีตามกฎหมายได้ และการส่งสัญญาณรบกวนการออกอากาศนี้ก็ถือว่าเป็นการละเมิดเช่นกัน

 

หมายเหตุ: ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มีข้อห้าม 5 ข้อ ได้แก่ 1.ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป 2.ห้ามเสนอข่าว หรือทำให้แพร่หลายทางสื่อที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูล ทำให้เกิดความเข้าใจผิด 3.ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมหรือยานพาหนะตามที่กำหนด 4.ห้ามใช้อาคาร หรือเข้าไปในสถานที่ใดๆ ตามที่กำหนด 5.ให้อพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ที่กำหนด
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net