เสื้อแดง/ต่างชาติประนามมือบึ้ม ปรองดองยืดชุมนุมยื้อ...

แกน นปช.แถลงขอเวลา 2 วันกำหนดแผน"ปรองดอง"/ประนามมือมืด

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมแกนนำ นปช. มีมติจะออกแถลงการณ์ภายใน 1-2 วันนี้เพื่อนำเสนอแผนปรองดองของนปช.ร่วมกับรัฐบาล เพราะเชื่อว่าจะเป็นการหาทางออกจากวิกฤต

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แถลงการณ์ของ นปช. อาจมีทั้งประเด็นที่สอดคล้อง แตกต่าง หรือมีข้อเสนอเพิ่มเติมจากแผนปรองดอง 5 ข้อของรัฐบาล ซึ่งจะมีลักษณะที่ยืดหยุ่นได้ ทั้งนี้เห็นด้วยที่คนเสื้อแดงควรยุติการชุมนุมภายในวันที่ 15 พ.ค. เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อจะเป็นอุปสรรคต่อการปรองดอง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวว่า แผนปรองดองจะต้องรวมถึงการดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในคดีสั่งฆ่าประชาชน หากไม่ได้รับความยุติธรรมเรื่องนี้ คนเสื้อแดงจะไม่ยุติการชุมนุม
สำหรับเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสีลมและเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณธนาคารกรุงไทย ถนนสีลม และใช้ระเบิดถล่มด่านตรวจสวนลุมพินีช่วงกลางดึกวันที่ 7 พ.ค. ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย คือจ.ส.ต.วิทยา พรหมสาลี ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน สภ.หางน้ำสาครจ.ชัยนาท และ ส.ต.ท.กานต์ณุพัฒน์เลิศจันทร์เพ็ญ ผู้บังคับหมู่งานจราจร สน.ทุ่งมหาเมฆ

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่าคนที่ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธสงครามถล่มเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตาย 2 นาย เพราะไม่ต้องการให้เกิดกระบวนการปรองดอง น่าสงสัยว่า
อาจเป็นฝีมือของกลุ่มคนเสื้อเหลืองและคนเสื้อหลากสีที่ออกมาคัดค้านการปรองดอง ดังนั้น ศอฉ.ควรตรวจสอบและขอให้รัฐบาลถอนกำลังทหารและยุบด่านทั้งหมดเพราะอาจทำให้คนที่จ้องล้มกระบวนการปรองดองใช้ช่องทางนี้สร้างสถานการณ์

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า ขอประณามผู้ที่กระทำการดังกล่าว เชื่อว่าเป็นฝีมือของผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับแผนปรองดองของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ขออย่าโยนความผิดให้คนเสื้อแดง เพราะคนเสื้อแดงไม่มีการพกพาอาวุธมาชุมนุม
สำหรับกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ขอปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น หากรัฐบาลมีหลักฐานชัดเจนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม แม้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะเดินหน้าตามกระบวนการปรองดองต่อไป

 

โฆษกรัฐบาลระบุมีผู้ไม่อยากให้ปรองดอง/เลขาฯมาร์คถ้าไม่ยุติชุมนุมก็เลิกปรองดอง

นายปณิธาน วัฒนายากร ปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้ตั้งข้อสังเกตว่า มีกลุ่มบุคคลไม่อยากให้การปรองดองเกิดความสำเร็จ และไม่ต้องการให้เหตุการณ์จบลง จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะ นปช. ยุติปัญหาโดยเร็ว มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาแทรกซ้อน

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการชุมนุมควรต้องยุติภายใน 1-2 วันนี้ ตามที่นายกรัฐมนตรีบอกเพราะถ้ารอถึงวันที่ 15 พ.ค. ถือว่านานเกินไป ถ้าผู้ชุมนุมไม่ยอมยุติการชุมนุมก็ต้องเลิกเจรจาสู่แผนปรองดอง

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีนี้เป็นการสร้างเงื่อนไขสู่การเผชิญหน้าครั้งใหญ่เพื่อไม่ให้การปรองดอง เกิดขึ้น สอดรับกับก่อนหน้านี้ที่มีขบวนการไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมปรองดองกับรัฐบาล
"คนกลุ่มนี้เคยทำนายว่าจะเกิดเหตุระเบิดที่นั่นที่นี่ และเข้าไปในพื้นที่ก่อนเกิดเหตุระเบิดทุกครั้ง เช่นกลุ่ม เสธ.แดง" นพ.บุรณัชย์ กล่าว

 

ยุโรปประนามมือบึ้ม/จับทหารพร้อมอาวุธในที่ชุมนุม

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.เวลา 20.10 น.ได้มีแถลงการณ์จากหัวหน้าคณะฑูต จากกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ระบุว่า หัวหน้าคณะฑูตจากกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยมีความ ยินดีที่รัฐบาลไทยและทุกภาคส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในทางการเมืองได้ใช้ความ พยายามในการหาทางออก ให้กับสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังดำเนินอยู่ ณ ขณะนี้ผ่านทางการเจรจา

ทั้งนี้ สหภาพยุโรปขอประณามการใช้ความรุนแรงที่เพิ่งได้เกิดขึ้น และขอแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัวของเหยื่อที่ประสบกับความรุนแรงในครั้งนี้ สหภาพยุโรปของเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง และหวังว่าการหาทางแก้ไขปัญหาด้วยวิธีสันติตั้งแต่เนิ่นๆ จะนำพาให้ประเทศไทยกลับสู่สภาวะของการมีความสมานฉันท์ ความมั่งคั่ง และความมั่นคง และมีการเคารพการบังคับใช้กฎหมายดังเดิม

 

แดงอีสานโวยถูกโรยเรือใบสกัดเข้ากรุง

กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จากภาคอีสาน ที่ออกเดินทางจาก จ.ขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียงได้ทยอยเดินทางเข้า กทม. โดยใช้ถนนพหลโยธิน และผ่านด่านตรวจความมั่นคง อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ มีกำลังทหารจากศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี และตำรวจภูธร จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งจุดตรวจอย่างเข้มงวด โดยจดบันทึกทะเบียนรถยนต์ ตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารรถยนต์ เมื่อเอกสารครบเจ้าหน้าที่ก็จำใจต้องปล่อยให้เคลื่อนขบวนผ่านเข้า กทม. โดยไม่ได้มีการปิดกั้นแต่อย่างใด

ขณะที่ตำรวจสันติบาลพระนครศรีอยุธยา รายงานข้อมูลว่า มีกลุ่มนปช.เดินทางผ่านโดยใช้รถยนต์กระบะ รถเก๋ง และรถส่วนบุคคล จำนวน ประมาณ 5,000 คน

แกนนำ นปช.นำตะปูเรือใบมาแสดงในที่ชุมนุมพร้อมกับชี้แจงว่าขณะที่เคลื่อนขบวนจาก อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มาจนถึงเขต อ.แก่งคอย จ.สระบุรี มีชายลึกลับขับรถเก๋งสีดำไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนตระเวนโปรยตะปูเรือใบ ความยาว 4 นิ้ว ทำให้รถยนต์นับ 100 คันยางรั่วต้องจอดแวะปะยางข้างทาง

สำหรับบรรยากาศการชุมนุมบริเวณราชประสงค์ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันที่ 8 พ.ค. มีขบวนรถกลุ่ม นปช.จากต่างจังหวัดเคลื่อนเข้ามาสมทบเป็นระยะ แต่ละคนสวมเสื้อสีแดงและติดธงสัญลักษณ์โดยไม่เกรงคำเตือนของศูนย์อำนวยการ แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

ส่วน บรรยากาศการชุมนุม ช่วงค่ำ มวลชนเสื้อแดงนับหมื่นเข้าร่วมชุมนุมกันอย่างเนืองแน่น โดยศูนย์บัญชาการรักษาความปลอดภัย นปช.สั่งการไปยังการ์ดประจำด่านทุกด่านรอบบริเวณพื้นที่ชุมนุมว่า ห้ามรถทุกชนิดผ่านเข้าออกโดยเด็ดขาด เว้นรถของแกนนำ รถเสบียง รถน้ำมัน ทั้งให้เพิ่มมาตรการตรวจค้นผู้ผ่านเข้าออกพื้นที่ชุมนุมให้เข้มข้น หากการ์ดนปช.ควบคุมบุคคลต้องสงสัยได้ ให้ส่งมาให้ศูนย์ฯทำการสอบปากคำห้ามตรวจค้นเอง


จับทหารพร้อมอาวุธในที่ชุมนุม

ด้านนายอารี ไกรนรา แกนนำ นปช.หัวหน้าศูนย์ฯ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธยิงตำรวจเสียชีวิตที่สีลมและสวนลุม ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ด่านศาลาแดงให้มากขึ้น ขณะนี้ มวลชนต่างจังหวัดที่เข้ามาร่วมชุมนุมได้สมัครเข้าเป็นการ์ดอาสา ทำให้มีเจ้าหน้าที่การ์ด นปช.เพิ่มขึ้นอีกหลายพันคน อย่างไรก็ตาม บริเวณด่านศาลาแดง ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมนั้น เตรียมจะถอยร่นแนวบังเกอร์ บริเวณสวมลุมฝั่งลานอนุสาวรีย์ ร.6 เข้ามาให้เสมอกับแนวบังเกอร์ ด้านหลัง เพราะถือเป็นพื้นที่ที่ยื่นออกไปยากต่อการรักษาความปลอดภัย

ต่อมาเวลา 21.20 น. การ์ด นปช.นำตัว จ.ส.อ.สมชาย จุลางยน อายุ 49 ปี ทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 1 มาแถลงต่อสื่อมวลชน โดยนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กล่าวว่า จากข่าวที่ นปช.ทราบมาตลอดว่า ศอฉ.จะส่งทหารเข้ามาปะปนในที่ชุมนุม รวมทั้งจะจัดการกับแกนนำที่เวทีปราศรัยนั้น ล่าสุดการ์ด นปช.สามารถจับทหารนายนี้ ได้ที่หน้าศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมอาวุธปืนขนาด 11 มม. ที่เลขทะเบียนปืนถูกลบออก และกระสุนอีก 2 แม็ก จากการสอบสวนทราบมาด้วยกัน 2 คน อีกคนหนีไปได้ เจ้าตัวอ้างว่าเข้ามาที่ชุมนุมเพราะต้องการซื้อของ แต่แกนนำ นปช.มั่นใจว่าทหารรายนี้เข้ามาด้วยเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ เพราะอาวุธปืนที่พกมา นอกจากเป็นปืนเถื่อนแล้ว ยังถือเป็นอาวุธสงครามด้วย อาจจะมีเจตนามาประทุษร้ายแกนนำ ทั้งยังมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร ที่ระหว่างการเจรจาปรองดองเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ หาทางลง แต่กลับมีการคุกคามผู้ชุมนุมและแกนนำ นายอภิสิทธิ์และแม่ทัพภาคที่ 1 ควรออกมารับผิดชอบ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยจับการ์ดพันธมิตรได้ อย่างไรก็ตามจะส่งตัวทหารรายนี้ให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 สอบสวนต่อไป.


ที่มา:ไทยรัฐ,โพสต์ทูเดย์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท