Skip to main content
sharethis

แปลจาก Reds’ fatal flaw: Thailand’s fatal flaw
               http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/2010/05/15/reds-fatal-flaw-thailands-fatal-flaw/

 

หลังจากการเริ่มชุมนุมของเสื้อแดงตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 เสื้อแดงได้แสดงออกถึงพลานุภาพทางความยืดหยุ่น และการจัดการ ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งสามารถรักษาการคงอยู่ในกรุงเทพฯ มาได้ยาวนานกว่าสองเดือน ทั้งยังสามารถกดดันให้ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าสู่โต๊ะเจรจา และฝ่าการปราบปรามที่ล้มเหลวเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผู้เข้าร่วมประท้วง และทหาร เสียชีวิตไปกว่า 20 คน เสื้อแดงได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถจะขยับฐานการต่อสู้ จากการรวมกลุ่มระดับรากหญ้า สู่การเมืองระดับชาติได้

ทว่า ในทางการถอยแล้ว เสื้อแดงกลับแสดงให้เห็นว่า ความสามารถทางด้านนี้กลับด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนี่อาจจะเป็นความพลาดอันใหญ่หลวงก็ได้

ไม่กี่วันหลังจากที่อภิสิทธิ์ยื่นข้อเสนอเรื่องการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ความพยายามที่จะยุติวิกฤตการณ์ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะสัมฤทธิ์ผล ทางเสื้อแดงเองก็ใช้เวลาในการยอมรับ "โรด-แมพ" เสื้อแดงเองก็ยอมถอยออกมา มากกว่าที่จะแข็งขืนต่อข้อเสนอ แต่ข้อเสนอดังกล่าวก็พังทลายลงไปเนื่องด้วยข้อเรียกร้องที่ให้รองนายกฯ สุเทพ ไปมอบตัวเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผู้ที่ตายเมื่อวันที่ 10 เม.ย. อีกทั้งทางแกนนำเองยังข้องใจเกี่ยวกับวิธีการใช้กฎหมายกล่าวโทษข้อหาต่างๆ ของแกนนำอีกด้วย ทั้งการไม่ยอมอ่อนข้อของแกนนำ และการพูดถึงการส่งกำลังเสริมของเสื้อแดงจากต่างจังหวัด เรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มปั่นป่วนจนเกินควบคุม นายกฯ อภิสิทธิ์ยกเลิกข้อเสนอที่จะเลือกตั้ง แล้วส่งทหารเข้าไปปราบปรามบุกเข้ายึด เวทีหลักที่ราชประสงค์ ซึ่งในขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 16 คน บาดเจ็บอีกนับร้อย

ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิต ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ฉะนั้น ตอนที่อภิสิทธิ์ยื่นข้อเสนอให้ ทำไมเสื้อแดงถึงไม่ยุติการชุมนุม? หากดูในทุกๆ ด้านแล้ว พรรคเพื่อไทย พันธมิตรหลักของเสื้อแดง ก็น่าจะชนะการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ถ้าได้เลือกตั้ง และถ้ายิ่งข่าวลือเกี่ยวกับโพลล์ภายในของพรรคนั้นเป็นความจริงและแม่นยำ เพื่อไทยจะชนะอย่างล้นหลาม คำถามคือ ทำไมไม่รอ เพราะอีกเพียงแค่ไม่กี่เดือน เสื้อแดงก็จะชนะแล้ว?

ในเวลาอันใกล้นี้ จะมีการกล่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกันในวงในของแกนนำเสื้อแดงที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน พฤษภาคม 2553 ภาพความไม่ลงรอยกันระหว่าง แกนนำสายเหยี่ยว กับสายพิราบ ก็มีให้เห็น ทั้งยังมีข้อสังเกตจากทางรัฐบาล เกี่ยวกับบทบาทของทักษิณในการขัดขวางข้อเสนอ ซึ่งรายละเอียดของเรื่องนี้เป็นเรื่องสำหรับวันหน้า เมื่อฝุ่นที่ตลบอยู่ ณ ขณะนี้ได้จางลง

แต่สิ่งที่ถือได้ว่าเป็นหลักสำคัญในความล้มเหลวที่จะถอยของเสื้อแดง จวบจนถึงการฉีกโรดแมพด้วยกำลังความรุนแรง ทั้งหมดนี่คือ "ประเทศไทยกำลังสูญสิ้นศรัทธา ในประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง"

ข้อเสนอที่จะให้เลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนนั้นดูสมเหตุสมผล และยังดู "มากเสียเกินไป" สำหรับคนบางกลุ่มด้วย แต่ทว่า ข้อเสนอนี้ไม่มีค่าเลยในประเทศที่ความเคารพต่อการตัดสินทางการเลือกตั้ง ได้ระเหิดหายไปหมดแล้ว เสื้อแดงเองก็ไม่ได้ต้องการการเตือนความจำมากนักเพื่อที่จะมองเห็น "ความไม่จริงใจ" ของข้อเสนอของอภิสิทธิ์ ในเมื่อเดือนมีนาคม 2549 พรรคประชาธิปัตย์ โดยการนำของอภิสิทธิ์เองก็บอยคอตต์การเลือกตั้งที่ทักษิณกำหนดขึ้น เพราะรู้ดีว่าพรรคตัวเองจะแพ้ ซึ่งท้ายสุดแล้ว พรรคของทักษิณก็ได้เสียงสนับสนุนประมาณ 60 เปอร์เซนต์ของผลโหวตที่ออกมา แต่ผลโหวตเองก็ถูกตัดสินให้เป็นโมฆะด้วยว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค ซึ่งความผิดพลาดนี่เป็นที่ชวนสงสัยยิ่งนัก

และชัยชนะของทักษิณที่ควรจะเกิดขึ้นในท้ายปี 2549 ก็กลับถูกทำให้หายไปโดยการรัฐประหาร รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็ได้หายไป ในการเลือกตั้งหลังรัฐประหารในเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกเข้ามาเกือบกึ่งหนึ่งของสภาฯ แต่ทางเสื้อเหลือง โดยการสนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งนั้น เสื้อเหลืองได้กระทำการอันเป็นที่โจษจัน โดยการยึดสนามบิน และทำเนียบรัฐบาล ด้วยการสนับสนุนอย่างเปิดเผยจาก อภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ เสื้อเหลืองก็กดดันและพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีกรัฐบาลหนึ่ง ซึ่งท้ายสุดพวกเขาก็ได้สิ่งที่เขาต้องการเมื่อศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคพลังประชาชน และด้วยการสนับสนุนจากกองทัพ ในที่สุด อภิสิทธิ์ก็ปะติดปะต่อเสียงในสภา จนได้เป็นนายกฯ

เมื่อมองการเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนกลายเป็น เหตุการณ์ลูกโซ่ของการไม่เลือกตั้ง ที่นำอภิสิทธิ์สู่อำนาจ สิ่งที่คิดได้ก็คือ ทำไมเสื้อแดงจึงจะเชื่อมั่นและศรัทธาในข้อเสนอการเลือกตั้งของอภิสิทธิ์ อีกทั้งยังมีกลุ่มอำนาจในรัฐบาลที่ยังรู้สึกฝืนใจอย่างยิ่งยวดที่จะรับการตัดสินของประชาชนในการเลือกตั้ง ฉะนั้น แกนนำเสื้อแดงจะไปสามารถหว่านล้อมให้ผู้ที่ยังแคลงใจได้อย่างไรว่า โรดแมพ นี้เป็นไปได้จริง อีกทั้งพวกเสื้อเหลืองก็ออกมาต่อต้านโรดแมพนี้อย่างเปิดเผย เสื้อแดงจะมั่นใจได้อย่างไร่ว่า จะไม่มีการล้มโรดแมพ?

และถึงให้เกิดการเลือกตั้งขึ้นจริงๆ ประวัติศาสตร์ช่วงสั้นๆ ที่ผ่านมาก็เป็นบทเรียนแล้วว่า อาจจะเกิดการแทรกแซงการเลือกตั้งได้ ไม่ว่าจะเป็นการแทรงแซงบนถนน หรือทางศาล เพื่อจะให้ผลการเลือกตั้งเป็นไปตามที่ตนเองพอใจ และยิ่งว่าทางเสื้อแดงเองก็ถูกป้ายสีว่าเป็น "ม็อบจัดจ้าง" ทีนี้จะให้ทางเสื้อแดงมั่นใจได้อย่างไรว่าคะแนนเสียงของพวกเขาจะไม่ถูกป้ายสีว่าเป็น "เสียงที่ซื้อมา"

จากที่กล่าวมา จะเห็นได้ว่า ความพลาดอันใหญ่หลวงของประเทศไทยก็คือการสิ้นศรัทธาในกระบวนการการเลือกตั้ง การสิ้นศรัทธานี้คือประตูที่เปิดให้พวกหัวรุนแรงใช้ความรุนแรงเป็นทางออก ความรุนแรงไม่ว่าจะสร้างโดยฝ่ายไหนก็เป็นที่น่ารังเกียจเดียดฉันท์อยู่เสมอ แต่ได้โปรดรับรู้และจำไว้ด้วยว่า ผู้ที่ต่อต้านการกระทำของเสื้อแดงอย่างออกหน้า ก็เป็นผู้เดียวกันกับที่ต่อต้านความชอบธรรมของเสียงคะแนนของเสื้อแดงมาโดยตลอด

 

 

หมายเหตุ: ประชาไทขอสงวนไม่แปลบางข้อความ
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net