Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

วอร์รูมพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินว่า “สถานการณ์ชุมนุมน่าจะยืดเยื้อต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 1 สัปดาห์ โดยจำนวนผู้เสียชีวิตที่ 35 คน ถือว่ายังยอมรับได้ เพราะเดิมคาดว่าจะเสียชีวิต 200-500 คน” (มติชนออนไลน์ 17 พ.ค.53)

หากข้อความในข่าวข้างต้นเป็นความจริง ก็แสดงว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์คาดการณ์ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า มาตรการ “กระชับวงล้อม” กลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ เพื่อ “คืนความสงบสุขสู่สังคม” อาจมีคนเสียชีวิตถึง 200-500 คน

ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่า การยอมให้เกิดการสูญเสียชีวิตคน 200-500 คน จะสามารถ “คืนความสงบสุขสู่สังคม” ได้ ในขณะที่เขาไม่เชื่อว่าการ “ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่โดยเร็ว” จะทำให้สังคมสงบสุขได้

เท่ากับว่า รัฐบาลประชาธิปัตย์ไม่เชื่อว่าการใช้ “กระบวนการประชาธิปไตย” สามารถคลี่คลายปัญหาขัดแย้งทางการเมืองได้ ทำให้สังคมสงบสุขได้ แต่เชื่อว่าการใช้ “กองกำลังทหาร” จะทำให้สังคมสงบสุขได้ในบริบทความขัดแย้งทางการเมืองที่เป็นอยู่จริง!

น่าสังเกตว่า การตัดสินใจบนพื้นฐานความเชื่อดังกล่าว ไม่กังวลต่อการสูญเสียชีวิตคนมากนัก เพราะ “เสียชีวิต 35 คน ถือว่ายังยอมรับได้” คาดว่าจะมีการเสียชีวิตมากถึง “200-500 คน” ก็ยังตัดสินใจเดินหน้าต่อเพื่อ “คืนความสงบสุขสู่สังคม” (ซึ่งไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไร มันจะเกิดสิ่งนี้ได้อย่างไรด้วยคนตายจำนวนมากขนาดนั้น)

คำถามที่สังคมต้อง “ซีเรียส” อย่างยิ่งคือ ทำไมรัฐบาลที่ตัดสินใจโดยไม่ให้ความสำคัญกับการปกป้องชีวิตประชาชน และทำให้ประชาชนต้องตายมากขนาดนี้ จึงยังอยู่ในอำนาจต่อไปได้?

ประวัติศาสตร์ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาที่มีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เหตุการณ์ พฤษภา 35 ล้วนแต่ทำให้รัฐบาลต้องพ้นอำนาจไป แต่เหตุการณ์นับแต่ 10 เมษา 53 จนปัจจุบัน นับศพไปแล้วราว 66 ศพ บาดเจ็บ 1,169 คน แต่รัฐบาลนี้ก็ยังอยู่ได้ และเดินหน้าสู่ความสูญเสียต่อไป

นี่หมายหมายความว่า จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้เสมอไป สมัยรัฐบาลทักษิณเกิดกรณีตากใบ มีผู้เสียชีวิต จำนวน 84 ศพ และสูญหายอีกจำนวนมากกว่า 60 คน และยังกรณีฆ่าตัดตอนในสงครามยาเสพติดซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีผู้เสียชีวิต ราว 2,500 คน แต่รัฐบาลทักษิณก็ยังอยู่ได้

อยู่ได้เพราะอะไร? อยู่ได้เพราะว่า …

1) รัฐบาลสามารถอธิบายให้สังคม (อย่างน้อย “เสียง” ที่สนับสนุนรัฐบาล) เชื่อว่า คนเหล่านั้นสมควรตายหรือจำเป็นต้องตาย เพราะทำผิดกฎหมาย กระทำหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ชั่วร้าย เช่นยาเสพติด การก่อการร้าย เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ

2) เป็นไปได้ (ไหม) ว่าสังคม โดยเฉพาะสังคมของคนชั้นนำ คนมีการศึกษาที่สามารถส่ง “เสียง” ผ่านสื่อ หรือมีอำนาจในการกำหนดทิศทางของบ้านเมือง อาจมองว่าชีวิตของคนเหล่านั้นไร้ค่า เพราะถ้าไม่พัวพันกับกระบวนการค้ายาเสพติด ก็พัวพันกับกระบวนการที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งรัฐ ฉะนั้น การสูญเสียชีวิตของ “คนไร้ค่า” เหล่านั้น จึงไม่ทำให้สังคมรู้สึก “สะเทือนใจ” หรือรู้สึกว่า “สูญเสีย” อะไร บางทีดีเสียอีกที่การสูญเสียเช่นนั้นจะทำให้ “สังคมดีขึ้น” หรือ “แผ่นดินสูงขึ้น”

การสูญเสียชีวิตของคนเสื้อแดงก็ถูกรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์อธิบายในทำนองเดียวกันว่า คนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐและสถาบันกษัตริย์ เพราะพวกเขาคือ “ผู้ก่อการร้าย” หรือ “ขบวนการล้มเจ้า” หรือไม่ก็เป็นแนวร่วม เป็นเครื่องมือของผู้ก่อการร้าย ขบวนการล้มเจ้า หรือนักการเมืองโกง ฉะนั้น จะสูญเสีย 200-500 ชีวิตก็จำเป็นต้องสูญเสีย

แต่ก็น่าสังเกตว่า 66 ศพ มีผู้ก่อการร้าย/ขบวนการล้มเจ้าตัวจริงอยู่กี่ศพ? 1,169 คน ที่บาดเจ็บ มีผู้ก่อการร้าย/ขบวนการล้มเจ้าตัวจริงอยู่กี่คน? รัฐบาลไม่จำเป็นต้องโชว์ผู้ก่อการร้าย/ขบวนการล้มเจ้าตัวจริงในคนจำนวนมากที่บาดเจ็บและตายไปแล้ว ก็มีความชอบธรรมที่จะเดินหน้าสู่ความสูญเสียยิ่งขึ้น และอยู่เป็นรัฐบาลต่อไปเช่นนั้นหรือ?

ข้ออ้างเรื่อง “ผู้ก่อการร้าย” แฝงอยู่ในผู้ชุมนุม มี “ขบวนการล้มเจ้า” คือข้ออ้างที่ทำให้รัฐบาลคิดว่าตนเองมีความชอบธรรมที่จะ “กระชับวงล้อม” ให้คนเสื้อแดง “ยุติการชุมนุม” เพื่อ “คืนความสงบสุขสู่สังคม” (ย้ำแม้คาดว่าอาจจะมีคนตายถึง 200-500 คน) ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจาก “คนเสื้อหลากสี” และ “คนเสื้อเหลือง” ที่เรียกร้องให้รัฐบาล “ไม่ต้องยุบสภา” แม้แต่แผนปรองดองของอภิสิทธิ์ก็ถูก “แกนนำ” ของคนพวกนี้มองว่าเป็นการ “ลอยแพสถาบันกษัตริย์” ฉะนั้นแล้วในสายตาของคนพวกนี้ คนเสื้อแดงจึงเป็น “คนไร้ค่า” สมควรตาย (เท่าไรก็ได้?) พวกเขาเสนอให้กองทัพใช้ “กฎอัยการศึก” จัดการกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์ นักวิชาการระดับมันสมองของพวกเขาเคยแสดงความเห็นทางทีวีว่า การสูญเสียครั้งนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับการสูญเสียในสงครามกลางเมืองของสหรัฐอเมริกา

ในแง่หนึ่งมันถูกมองว่าเป็นความจำเป็นต้องสูญเสียในจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งหลายประเทศในโลกก็ผ่านการสูญเสียเช่นนี้และมากกว่านี้มาแล้วเช่นกัน แต่ในแง่หนึ่งมันถูก “เรียกร้อง” ว่าสมควรยอมให้เกิดการสูญ “ชีวิตคนไร้ค่า” เพื่อรักษาสิ่งที่มีค่ากว่าเอาไว้คือ “ความมั่นคงของรัฐ” (ของรัฐบาล?) และ “สถาบันหลักของชาติ”

ข้อเท็จจริงที่สนับสนุนการเรียกร้องให้รัฐบาลและสังคมยอมรับการสูญเสีย “ชีวิตคนไร้ค่า” เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐและสถาบันหลักของชาติเอาไว้ คือ สิ่งที่เราเห็นจนชินตาทาง ASTV ที่มีผู้ส่งข้อความประณามคนเสื้อแดงผ่าน SMS จำนวนมาก เช่น เรียกคนเสื้อแดงว่า “พวกขยะสังคม” และ ฯลฯ (หยาบเกินกว่าที่จะนำมาเขียน) ควบคู่กับผู้ดำเนินรายการที่ทั้งพูดจาและแสดงน้ำเสียงสีหน้าท่าทางดูถูก หรือ “สะใจ” กับการสูญเสียชีวิตของคนเสื้อแดง และเชียร์ให้ทหารจัดการให้ “จบเร็วๆ” (แต่รัฐบาลก็ไม่มีสติปัญญาพอจะมองออกว่านี่เป็นสื่อที่บิดเบือนและปลุกเร้าความรุนแรง)

(โปรดสังเกตด้วยว่า การสูญเสียชีวิตของคนเสื้อเหลือง เป็นการสูญเสีย “ชีวิตคนที่มีคุณค่า” เพราะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การสูญเสียชีวิตของคนที่เป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลได้รับ “พระราชทานเพลิงศพ” ถึงขั้นที่สมเด็จพระราชินีเสด็จมาเอง -พูดความจริงได้ไม่ผิดกฎหมาย)

กล่าวโดยสรุป ชุดของคำอธิบายที่ว่า 1) มีความจำเป็นต้องสูญเสียชีวิตประชาชนในจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ 2) จำเป็นต้องสูญเสียชีวิตคน (เท่าไรก็ได้?) เพื่อปกป้องสิ่งที่เรียกกันว่า “ความมั่นคงของรัฐ” และ “สถาบันหลักของชาติ” และ 3) สมควรสูญเสียชีวิตของ “คนไร้ค่า” (ซึ่งหมายถึงคนจน คนไร้การศึกษา ไม่รู้ประชาธิปไตย ถูกหลอกมาเป็นเครื่องมือของพวกนักการเมืองโกง พวกล้มเจ้า พวกผู้ก่อการร้าย) ใช่หรือไม่ที่รัฐบาล นักวิชาการ สื่อ หรือสังคมนี้ใช้เป็นเหตุผลสนับสนุนว่า “คนเสื้อแดงจำเป็นต้องตายกระทั่งสมควรตาย” (อย่าลืมสังเกตจากที่คาดว่าอาจมีคนตายถึง 200-500 คน ยังเดินหน้าปราบ) และรัฐบาลยังคมมีความชอบธรรมที่จะเดินสู่ความสูญเสียยิ่งขึ้น และเป็นรัฐบาลอยู่ต่อไป!

ฉะนั้น ต่อให้ตายอีกเท่าไร รัฐบาลนี้ก็ยังคงอยู่ต่อไปได้ ตราบที่สังคมนี้ยอมรับชุดคำอธิบาย 3 ชุดนั้นอย่างเซื่องๆ และเห็นว่าคนเสื้อแดงจำเป็นต้องตายกระทั่งสมควรตาย!
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net