Skip to main content
sharethis

ศอฉ.แถลงจับ "มือขวาเสธ.แดง" หน.คุมการ์ด เผย 5วัน มีการยิงเอ็ม 79 รวม 56 ลูก สรรเสริญอัด "ณัฐวุฒิ" ก่อการร้ายตัวใหญ่ สั่งแดงย่อยหยุดยิงได้ ชี้ทหารพร้อมหยุด ยันยังไม่ประกาศเคอร์ฟิว กร้าวห้ามตั้งเวทีปราศรัย หากมี คนปราศรัยจะเจอหมายจับ คนฟังการปราศรัยจะได้หมายเรียกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผบช.น.แถลงออกหมายจับแกนนำเพิ่มฐานฝ่าฝืนตั้งเวทีสามเหลี่ยมดินแดง

แถลงจับ "มือขวาเสธ.แดง" หน.คุมการ์ด
พ.ต.อ.ทรงพล วัฒนชัย รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ในฐานะรองโฆษก บชน. กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมผู้จำหน่ายยางรถยนต์เก่าเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการรายงานผลการจับกุมยางรถยนต์เก่า ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถอายัดและจับกุมยางรถเก่าได้ทั้งสิ้น 9,021 เส้น ซึ่งสามารถช่วยชะลอความเสียหายในการนำยางรถยนต์ไปก่อความเสียหายได้ระดับหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวน และดำเนินคดีกับผู้ทำความผิด ผู้เกี่ยวข้อง และผู้สนับสนุนต่อไป ดังนั้น อยากขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนที่ได้บันทึกภาพทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่เป็นการกระทำความผิดก่อความวุ่นวายของกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย ช่วยส่งภาพดังกล่าวให้กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน

พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้มีการจับกุมนายพิเชษฐ์ หรือ ภูมิกิตติ สุขจินดาทอง อายุ 50 ปี ที่บริเวณถนนสามเสน ซ.สามเสน 6 เขตดุสิต กทม. รับบทบาทเป็นการ์ดนปช. และรับมอบหมายเป็นหัวหน้าในการดูแลรับผิดชอบพื้นที่การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการสืบสวนและควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 คลองหลวง จ.ปทุมธานี

จากการตรวจสอบเบื้องต้นนายพิเชษฐ์ ถือเป็นแกนนำหลักคนหนึ่ง ในลักษณะที่เป็นการ์ดคอยปกป้องรักษาแนว ซึ่งเราได้นำปัญหาตรงนี้ไปร้องขอต่อศาล เพื่อให้ออกหมายจับ ซึ่งนำมาซึ่งการจับกุมตามหมายจับได้ ซึ่งเราสามารถจับได้ขณะที่เขาออกมานอกพื้นที่ชุมนุมเพราะเรามีการเฝ้าติดตาม

ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ.ในช่วงเช้าที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานว่า นายพิเชษฐ์ ถือเป็นมือขวาของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และมีส่วนในการดำเนินการในลักษณะก่อการร้าย คุมการ์ดและควบคุมการปฏิบัติทางยุทธิวิธี ทั้งหลาย ถือว่า มีความหมายและเป็นผลดีอย่างมากต่อการปฏิบัติ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้อยู่เฉย แม้ว่าวันนี้การบีบวงล้อมพื้นที่เรดโซนยังไม่ได้ดำเนินการ แต่มีความพยายามที่จะจัดการกับกลุ่มผู้ที่ออกมานอกเขตเรดโซน เพื่อสร้างความวุ่นวาย

เผย 5 วัน M79 56 ลูก
ผู้สื่อข่าวรายงานศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้มีการแจกจ่ายเอกสารสรุปการใช้อาวุธ เอ็ม 79 ที่ใช้ในการยิงประชาชน ทหาร ตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 13 -17 พ.ค.รวมทั้งสิ้น 56 ลูก โดยแบ่งเป็น

วันที่ 13 พ.ค.
จำนวน 1 นัด เวลา 19.25 น. เกิดเหตุระเบิดเอ็ม 79 บริเวณแยกศาลาแดง จำนวน 2 นัด

วันที่ 14 พ.ค.
จำนวน 21 นัด เวลา 18.45 น.เกิดเหตุระเบิดเอ็ม 79 จากบริเวณแยกศาลาแดงจำนวน 8 นัด เวลา 19.50 น. บริเวณ บ่อนไก่ ถนนพระรามสี่ จำนวน 3 นัด เวลา 20.20 น. บริเวณ บ่อนไก่ ถนนราชปรารภ สี่แยกประตูน้ำ จำนวน 4 นัด เวลา 22.05 น.บริเวณแอร์พอร์ตลิงค์ จำนวน 4 นัด เวลา 22.50 น. ตกหน้าแนวทหาร ม.พัน.5 บ่อนไก่ 1 นัด เวลา 23.15 น. บริเวณ แยกสามเหลี่ยมดินแดง 1 นัด

วันที่ 15 พ.ค.
จำนวนทั้งสิ้น 19 นัด เวลา 05.15 น. ตกบริเวณหน้าแนวทหาร ม.พัน 5 หน้าสนามมวยลุมพินี จำนวน 1 นัด เวลา 16.40 น. เหตุระเบิดเอ็ม 79 ตกทางด่วนพระรามสี่ มาที่สนามมวยลุมพินีจำนวน 10 นัด เวลา 17.05 น. เหตุระเบิดเอ็ม 79 จากทางลงด่วนพระรามสี่ จำนวน 15 นัด เวลา 17.45 น.ตกหน้าแฟลต 5 สน.ลุมพินี จำนวน 1 นัด เวลา 18.45 น. ตกหน้า สน.ลุมพินี 1 นัด และสวมลุมพินีอีก 1 นัด

วันที่ 16 พ.ค.
เวลา 17.00 น.ตกบริเวณบ่อนไก่ จำนวน 5 นัด

วันที่ 17 พ.ค.
เวลา 00.30 น.ตกที่หน้าโรงแรมดุสิตธานี 1 นัด และอาคารเอื้อเจือเหลียงจำนวน 3 นัด เวลา 19.35 น.เหตุระเบิดเอ็ม 79 บริเวณใต้ทางด่วนพระรามสี่จำนวน 4 นัด 21.30 น.ตกใต้ทางด่วนพระรามสี่ อีก 2 นัด

แหล่งข่าวเผยเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานภาคสนาม 15,000 ราย
กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่า แหล่งข่าวในที่ประชุม ศอฉ.เปิดเผยว่าที่ประชุมมีความเป็นห่วงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ให้กลุ่มก่อการร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 79 ที่อาจจะทำให้ไปโดนประชาชนผู้บริสุทธิ์จึงได้หามาตรการป้องกัน โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ได้กำชับในที่ประชุมให้เจ้าหน้าที่ทหารและตรวจ ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต้องระมัดระวังอย่างดีที่สุด รวมถึงให้ดูแลประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องให้ดี เนื่องจากกลุ่มก่อการร้ายพยายามที่จะใช้อาวุธสงครามเหล่านี้สร้างสถานการณ์ด้วยการทำร้ายประชาชน

แหล่งข่าวยังบอกด้วยว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ติดต่อประสานงานกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หลังจากที่นายณัฐวุฒิ ได้มีการติดต่อประสงค์ที่จะขอเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทำให้วันนี้นายณัฐวุฒิ ได้สั่งการให้กองกำลังติดอาวุธ หรือ ชายชุดดำ หยุดปฏิบัติการในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ทหารบริเวณโดยรอบการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ทั้งหมด ทำให้วันนี้ไม่ค่อยมีเสียงระเบิดจากอาวุธสงคราม เอ็ม 79 แต่อย่างใด

ตอนนี้กองกำลังติดอาวุธของกลุ่มคนเสื้อแดงหยุดยิงเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคสนามทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่ได้มีการตอบโต้แต่อย่างใด แต่จุดยืนของ ศอฉ.ที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก สั่งไปนั้นคือไม่ให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติงานไม่ให้มีการตอบโต้ แต่จะตอบโต้ได้ก็ต่อเมื่อกองกำลังติดอาวุธมีการตอบโต้กับทางเจ้าหน้าที่ก่อน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยอดตัวเลขของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในภาคสนามประมาณ 15,000 นาย แหล่งข่าว ศอฉ.ระบุ


อัด "ณัฐวุฒิ" ก่อการร้ายตัวใหญ่ สั่งแดงย่อยหยุดยิงได้ ชี้ทหารพร้อมหยุด ยันยังไม่ประกาศเคอร์ฟิว

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงผลการประชุม ศอฉ.ในช่วงเช้าที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานว่า ที่ประชุมมีการตรวจสอบสถานการณ์ทั้งในพื้นที่กรุงเทพ และต่างจังหวัด และมีความเป็นห่วงในเรื่องคงวามปลอดภัยของประชาชน ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นกับประชาชนบริสุทธิ์ที่เกิดจากกลุ่มผู้ก่อการร้าย แต่ติดอยู่ในพื้นที่ต่างๆ

ทั้งนี้ ศอฉ.เป็นห่วง อยากทำความเข้าใจกับประชาชนบางส่วนที่ไม่ได้ติดตามข้อมูลข่าวสาร คือ เรื่องที่ 1 เรื่องคำว่า ก่อการร้าย หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมจึงไม่มีกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ ความจริงคือ คนไทย แต่มีพฤติกรรรมลักษณะการอาวุธสงครามที่จะทำร้ายทหาร ตำรวจ และประชาชนที่มาร่วมชุมนุม และประชาชนที่บริสุทธิ์ ซึ่งเรายอมไม่ได้ให้บุคคลเหล่านี้ถืออาวุธ เพราะอาวุธสงครามที่ใช้ในการควบคุมสถานการณ์จะมีได้เฉพาะทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และผู้ปฏิบัติงานด้านความมั่นคงเท่านั้น เราคงไม่สามารถให้บุคคลอื่นมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ทั้งนี้ผู้ก่อการร้ายมีพฤติกรรมชัดเจน ทั้งการทำร้ายประชาชน ปล้นสะดม สร้างสถานการณ์ ทำลายทรัพย์สินของประชาชนและราชการ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เรื่องที่สอง ประเด็นเกี่ยวกับการประกาศใช้เคอร์ฟิว วันนี้ได้มีการสอบถามกันอีกครั้งในที่ประชุมของทหาร ตำรวจภายหลังการประชุม ศอฉ. ซึ่งพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ถาม ผบ.หน่วยคุมกำลังในพื้นที่ตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการกองพล และผู้บังการกรมว่า มีความต้องการหรือมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศเคอร์ฟิวอย่างไร ทุกคนเห็นตรงกันว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีความเหมาะสม เพราะขณะนี้เวลาค่ำคืน หลัง 5 ทุ่มประชาชนทั่วไปรับทราบข้อมูลข่าวสาร พอสมควร และวิตกกังวลรู้สึกว่า ไม่ปลอดภัยก็จะไม่ออกจากบ้าน หรือเคหะสถาน

ดังนั้นการประกาศเคอร์ฟิวจะไม่ส่งผลใดๆ ต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพราะยังมีกลุ่มก่อการร้ายออกมาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ และหากประกาศเคอร์ฟิวไปแล้ว ไม่มีผลในทางปฏิบัติ จะทำให้สังคมรู้สึกว่า มีข้อจำกัดมากขึ้น เมื่อชั่งน้ำหนักของผลได้ และผลกระทบ มีความเห็นว่า เวลานี้ยังไม่เหมาะสมที่จะใช้เคอร์ฟิว แต่โอกาสวันข้างหน้ายังไม่แน่นอนต้องดูความเหมาะสมของสถานการณ์ในแต่ละช่วงไปก่อน

เรื่องที่สาม คือ ความห่วงใยประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ไม่ได้รับความสะดวกต่อการออกมาใช้ชีวิตตามปกติทั้งที่บ่อนไก่ หรือราชปรารภ วันนี้ ศอฉ.มอบหมายให้ตำรวจเร่งประสานงานเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐวิสากิจ และภาคเอกชนที่จะเข้าไปดูแลอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในเรื่องอาหารการกิน น้ำ และการควบคุมหากมีการวางเพลิง หรือเกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงไฟฟ้า ประปา ที่ถูกตัดขาดจากการสร้างสถานการณ์ต่างๆ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ประเด็นที่สี่ คือ เรื่องการทบทวนการใช้อาวุธของทหาร ตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาเราชี้แจงตลอดว่า การใช้อาวุธกระสุนจริง ก่อนการใช้มีขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก แต่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีความรุนแรงมาก อย่างไรก็ตาม ทหาร ตำรวจจะไม่ใช้อาวุธกับผู้ไม่มีอาวุธร้ายแรงในมือ หรือผู้ที่ไม่พยายามเฮโลมากดดันที่ด่านต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะห่าง ขณะนี้ผู้ก่อการร้ายพยายามนำกองยางมาตั้งเป็นบังเกอร์ใกล้แนวที่ทหาร ตำรวจตั้งด่าน ซึ่งเราไม่สามารถปล่อยให้มีการดำเนินการอย่างนั้นได้ จำเป็นต้องรักษาระยะห่างระหว่างแนวกองยาง กับด่านของเจ้าหน้าที่ไว้ที่ 350-400 เมตร เราพยายามใช้การยิงด้วยกระสุนจริงในพื้นที่ที่ไม่มีใครอยู่ เพื่อข่มขวัญ หรือป้องปรามไม่ให้มีความพยายามเคลื่อนกองยางเข้ามา แต่เขามีความพยายามตั้งกองยางเพื่อใช้อาวุธเอ็ม 79 ในการยิงทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเอ็ม 79 มีระยะหวังผลที่ 150 เมตร และมีพื้นที่หวังผล 350 เมตร ดังนั้นไม่สามารถปล่อยให้บังเกอร์ผู้ก่อการร้ายมาอยู่ใกล้กับด่านเจ้าหน้าที่ในระยะใกล้กว่า 400 เมตรได้

ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ขณะนี้ไม่มีทหารเสียชีวิตเลย เพราะเรานำมาบทเรียนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.มาใช้ คือ ไม่ให้กลุ่มก่อการร้ายหรือผุ้ชุมนุมเข้าประชิดตัวได้ และเราได้มีการใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติภารกิจ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า มีการต่อสายคุยกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เป็นความพยายามของนายณัฐวุฒิที่จะติดต่อเจรจาด้วยการใช้คำว่า ขอให้ทหารหยุดยิง ศอฉ.เรียนมาตลอดว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจใช้กระสุนจริงต่อเมื่อถูกยิง ถูกกดดันด้วยอาวุธสงครามเข้ามาก่อน ดังนั้นหากให้ทหารหยุดยิง ไม่ใช่เรื่องยาก คือ การให้กลุ่มก่อการร้ายยุติการดำเนินการในลักษณะการทำร้ายเจ้าหน้าที่ เหมือนปวดหัวแล้วกินยาแก้ปวด แต่บอกว่า ให้เลิกกินยาก่อนแล้วจะหายปวดหัวเป็นไปไม่ได้ ต้องหายปวดหัว จึงค่อยเลิกกินยา

“นายณัฐวุฒิเป็นแกนนำในพื้นที่ และพยายามบอกตลอดให้สังคมทราบว่า ไม่รู้ ไม่เห็นเกี่ยวกับการก่อการร้าย แต่ที่ผ่านมามีภาพ มีข้อมูลโยงใยว่า เป็นไปไม่ได้ที่แกนนำจะไม่รู้ว่า มีผู้ขนอาวุธ มีการตระเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ในพื้นที่จำนวนมาก แต่สิ่งที่นายณัฐวุฒิได้เผลอพูดอกมากับนายกอร์ปศักดิ์ว่า เขาสามารถที่จะเรียกคนที่ออกมาสร้างความวุ่นวายภายนอกทั้งการใช้อาวุธสงครามยิงเจ้าหน้าที่ ประชาชนนั้น กลับมาที่แยกราชประสงค์ได้แต่ขอให้ทหารหยุดยิงแล้วกัน ซึ่งหลักฐานชัดเจน และเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงได้ว่า นายณัฐวุฒิ คือ ผู้ก่อการร้ายตัวใหญ่” โฆษกศอฉ.กล่าว

เมื่อถามว่า ทำไมไม่ดำเนินการกลุ่มที่ซุ่มยิง อาคารชีวาไท พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารไม่สามารถดำเนินการการปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพได้มากนัก เพราะกลุ่มก่อการร้ายมองภาพว่าเราเป็นคู่กรณีดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีความอ่อนตัวกว่า ซึ่งเมื่อเช้านี้ในที่ประชุม ศอฉ. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ.ได้กำชับ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.ให้เร่งรัดในเรื่องนี้ โดยด่วน เพราะเป็นความเดือดร้อนประชาชน ซึ่งเราจะละเลยเรื่องนี้ไม่ได้

เมื่อถามว่า ศอฉ.ประเมินสถานการณ์ต่อจากนี้อย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ทุกคนอยากให้จบสิ้น แต่สิ่งที่เราดำเนินการ คือ ทำพื้นที่เรดโซนยุติให้ได้ก่อน วันนี้ต้องหวังพึ่งตำรวจอย่างมาก เพื่อทำให้สังคมเบาใจและทำให้ยุติไปได้ รวมถึงต้องดำเนินการควบคุมพื้นที่เรดโซนให้ได้ โดยเฉพาะเวทีปราศรัยย่อย ต้องไม่มี การจอดรถฟังการปราศรัยในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และผู้ที่ขึ้นปราศรัยต้องถูกหมายจับ ถ้าใครอยากจะฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สามารถทำได้ตามอัธยาศัย แต่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะการฟังการปราศรัยเป็นการสนับสนุนการก่อการร้ายชัดเจน

ศอฉ.ลั่นคนปราศรัยม็อบเสื้อแดงเจอหมายจับ ฟังถูกหมายเรียก  
(18 พ.ค.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย (นปช.)ในพื้นที่ต่างๆ ได้ ภาพรวมการชุมนุมที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น 17 จังหวัด รวมมวลชนประมาณ 2,400 คน ในพื้นที่เขตแหลมฉบังมีมากที่สุด ประมาณ1400-1,500 คน จังหวัดอื่นๆ ตามภาคเหนือ อีสาน มีจังหวัดละ 50-100 คน

สิ่งที่ ศอฉ.ต้องการมากที่สุดคือการยุติการก่อจลาจลนอกพื้นที่เรดโซน ต้องไม่ให้มีการตั้งเวทีปราศรัยในจุดต่างๆ โดยหากมีการตั้งเวที คนปราศรัยจะเจอหมายจับ คนฟังการปราศรัยจะได้รับหมายเรียกตามกฎหมายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่


ผบช.น.แถลงออกหมายจับแกนนำเพิ่มฐานฝ่าฝืนตั้งเวทีชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าววันนี้ (18 พ.ค.) ว่า การชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พื้นที่ สน.พญาไท หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประชาสัมพันธ์กดดัน ไม่ให้มีการตั้งเวที ตั้งเต็นท์ และปิดการจราจร แต่ก็มีการฝ่าฝืน ตำรวจได้ถ่ายรูปแกนนำและผู้ปราศรัยบนรถเครื่องขยายเสียง พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลจับกุมตามความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 รายคือ นายสมชาย ไพบูลย์อายุ 40 ปี และนายนาวิน บุญเสริฐ อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 96 และ97/2553 ลงวันที่ 18 พ.ค.53

ผบช.น.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณหน้ามูลนิธิไทยรักไทย ถนนนครสวรรค์ ท้องที่สน.นางเลิ้ง ตั้งเต็นท์ปิดการจราจร ตำรวจเข้าไปประชาสัมพันธ์กดดัน และรื้อถอนออกไป ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุมัติจับกุมแกนนำ 3 ราย โดยทุกสน.ต้องดำเนินคดีกับแกนนำทุกรายที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และละเมิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องมีการถ่ายภาพและบันทึกภาพเพื่อเป็นหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาล ขณะที่บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดง ต่อเนื่องจนถึงแยกสามเหลี่ยมดินแดง ผู้ชุมนุมได้ปิดการจราจรจากแยกใต้ด่วนดินแดงจนถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ มีการเผายางรถยนต์บริเวณเชิงสะพานลอยข้ามแยกสามเหลี่ยมดินแดง มีผู้ชุมนุมจำนวนมาก

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สัณฐาน กล่าวถึงการซุ่มยิงและทำร้ายประชาชนกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะเดียวกันยังมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย ใช้อาวุธปืนยิงมาจากอาคารชีวาทัย ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ติดกับโรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค ทำให้ไม่สามารถเข้าไปประชาสัมพันธ์กดดันกับผู้ชุมนุมได้ ทางบก.น.1 จึงได้ประสานหน่วยทหารให้ดำเนินการต่อไป รวมทั้งให้ฝ่ายสืบสวนบก.น.1 บันทึกภาพยานพาหนะที่เข้าร่วมชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ 21 คัน บริเวณแยกใต้ทางด่วนดินแดง 31 คัน และบริเวณหน้ามูลนิธิไทยรักไทย 7 คัน โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระว่างตรวจสอบทะเบียนผู้ครอบครองรถ เพื่อรายงานให้ศอฉ.ทราบ และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผบช.น.กล่าวอีกว่า วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้น 3 อาคารชีวาทัย คาดว่าจะมีมือปืนซ่อนตัวอยู่ หลังเกิดเหตุได้ประสานกทม. นำรถดับเพลิง 3 คันมาควบคุมเพลิง จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. เพลิงจึงสงบ และวันที่ 18 พ.ค. เวลา 07.00 น. เกิดเพลิงไหม้อาคารร้าง เลขที่ 12 ถนนดินแดง แขวงและเขตดินแดง รถดับเพลิง 10 คันรุดไปที่เกิดเหตุ ใช้เวลาควบคุมเพลิง 2 ชั่วโมงจึงสงบ ผู้ชุมนุมจับกุมตัวนายแดง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี สอบสวนรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือวางเพลิง ทำด้วยความคึกคะนอง จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำตัวส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการชุมนุมใกล้ชุมชน การจับกุมจะแยกกันได้อย่างไร พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า ขณะนี้ยุทธการอยู่กับฝ่ายทหาร การแยกนั้นคงไม่ยาก ตำรวจท้องที่ก็จะรู้อยู่แล้วใครเป็นผู้ชุมนุมและใครเป็นประชาชน โดยสั่งการให้จับกุมแกนนำ หรือผู้ที่ฝ่าฝืนการตั้งเวทีโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตก็ต้องจับกุมดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า ผู้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีทั้งหมด ยืนยันว่าเป็นผู้ชุมนุม พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า เป็นกลุ่มผู้ชุมนุม ไม่ใช่ประชาชนที่มาสังเกตการณ์ มีภาพถ่ายไว้เป็นหลักฐาน และหลักฐานมีหลายๆ อย่างประกอบ ถามต่อว่า จะแบ่งแยกประชาชนออกจากผู้ชุมนุมอย่างไร พล.ต.ท.สัณฐานกล่าวว่า เป็นดุลพินิจของผบก.เป็นผบ.เหตุการณ์จะดำเนินการ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net