หารือร่วมแกนนำ นปช.-ตัวแทน ส.ว.พร้อมกลับสู่โต๊ะเจรจา 3 ฝ่ายระหว่าง นปช.-ประธานวุฒิสภา-รัฐบาล หลัง "ประสพสุข" แถลงรัฐบาลและนปช.ยอมรับ ส.ว.เป็นคนกลาง ชี้หากมีเงื่อนไขไม่คุยจนกว่าจะยุติการชุมนุม คงไม่ต้องเจรจากัน แต่ยังต้องหารือรายละเอียดเพิ่มเติม

 เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 18 พ.ค. 2553 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำเสื้อแดง และ พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ได้ร่วมกันแถลงผลเจรจาร่วมกัน ที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง โดย พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ที่ให้ตนเข้ามาเป็นตัวแทนเจรจา ซึ่งที่ประชุม 2 ฝ่าย ได้ข้อสรุป 2 เรื่องสำคัญ คือ นปช.ยินดีที่จะหยุดความรุนแรงทันที เพื่อแสดงความจริงใจว่ายินดีที่จะกลับสู่การเจรจาอย่างเป็นทางการ ระหว่างประธานวุฒิสภา รัฐบาลและกลุ่มนปช. โดยจะนำข้อสรุปไปเสนอ ต่อประธานวุฒิสภา จากนั้นจะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป อย่างไรก็ตาม นปช.ได้เรียกร้องผ่านวุฒิสภา ไปยัง นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลก็ต้องหยุดไม่ให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมทุกกรณี จากนั้นจะมีการกำหนดมาตรการแนวทางไม่ให้เกิดความรุนแรงต่อไป

พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวต่อว่า การยุติความรุนแรงของ นปช.และ รัฐบาล มีประเด็นที่ต้องหารือกันหลายเรื่อง ซึ่งมีการเปิดเผยว่า ทางด้านนายกฯ และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ได้มีการเจรจาทั้งทางเปิดและ ทางลับ มาตั้งแต่ 27 มี.ค. แต่ยังมีประเด็นที่สุดท้าย ที่ นปช. เรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เข้ามอบตัว และ ในการหารือมีข้อสรุปร่วมกันหลายเรื่อง แต่มีปัญหาจะต้องหารือกันต่อไปว่า จะยุติชุมนุม หรือ จะหยุดการใช้เรื่อง พรก.ฉุกเฉิน อย่างไร 

จากนั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในการพูดคุยกับ ส.ว.วันนี้ และการยอมกลับสู่โต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการนั้น เพราะแกนนำ นปช.เห็นความสำคัญเรื่องการสูญเสียของผู้ชุมนุม การดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าใครชนะ เป็นเรื่องของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องยุติการสูญเสีย และการกระทำที่ผ่านมาต้องมีบุคคลรับผิดชอบต่อกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่การเริ่มชุมนุมถึงปัจจุบัน

"การเจรจาครั้งนี้จะไม่มีการนิรโทษกรรม ซึ่งเป้าหมายที่สำคัญคือต้องยุติการความสูญเสียและความรุนแรง ส่วนคดีความต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนข้อเท็จจริงที่ปรากฎทั้งพยานหลักฐาน สิ่งใดที่เราได้กระทำความผิดก็พร้อมรับผิด เช่นกันกับรัฐบาลก็ต้องรับผิดตามกระบวนการตามกฎหมายทั้งในและต่างประเทศ ทั้งนี้ เรื่องการเจรจาเป็นความปรารถนาดีของทุกฝ่ายขอให้ผู้ชุมนุมเข้าใจสถานการณ์ด้วย" นายณัฐวุฒิกล่าว

ทั้งนี้ คณะ ส.ว.ที่เข้าไปเจรจากับแกนนำเสื้อแดงในพื้นที่ชุมนุม ซึ่งโดย พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประกอบด้วย พล.ต.ยุทธา ไทยภักดี, นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี และนางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ พล.อ.เลิศรัตน์ กำลังแถลงข่าว กลุ่มผู้ชุมนุมได้ส่งเสียงโห่ร้องแสดงความไม่พอใจกับคำพูดในบางช่วง โดยเฉพาะที่บอกว่า "มีการใช้อาวุธกันโดยไม่เจตนา" และคำพูดของ พล.อ.เลิศรัตน์ ในการประกาศมติของคณะ ส.ว.และแกนนำ นปช.ที่จะกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจา โดยมีการด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และเรียกร้องให้ พล.อ.เลิศรัตน์ ถอนคำพูด พร้อมขอให้ยกเลิกการเจรจา จนนายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ด นปช. ต้องสั่งให้การ์ดเข้าห้ามปรามไม่ให้ผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของเข้ามาบริเวณที่แถลงข่าว

ต่อมา นายจตุพร พรหมพันธ์ รองประธาน นปช. ได้ขึ้นเวทีชี้แจงว่า ขอให้ประชาชนทั้งหมดเข้าใจด้วยว่าการเจรจาครั้งนี้เพื่อให้หยุดยิง ไม่ใช่ขอยอมแพ้ และเนื้อหาการเจรจายังไม่ได้เริ่มขึ้น เราคุยกันเรื่องขอให้หยุดยิงอย่างเดียว ตอนนี้ทราบว่าทหารกระชับกำลังเข้ามาและจะเข้าสลายการชุมนุมในเวลา 05.00 น.จึงขอให้ทุกด่านและผู้ชุมนุมใน กทม.ทุกจุด เตรียมความพร้อมไว้ หากเกิดเรื่องอะไร ขอให้ตัดสินใจเอง เพราะการสื่อสารระหว่างแกนนำกับกลุ่มผู้ชุมนุมทำได้ยาก ถือว่าเราพยายามทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถือว่าเป็นชะตากรรมของประเทศ 

"ประสพสุข" เผยคุยนายกให้ผลทางบวก เตรียมส่ง ส.ว.คุย แกนนำ นปช.เพิ่มเย็นนี้

เวลา 16.00 น.นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เดินทางไปยังอาคารรัฐสภา 2 เพื่อหารือร่วมกับ ส.ว.รวม 18 คน ที่หารือกันไปแล้วรอบหนึ่งก่อนหน้านี้ โดยเบื้องต้นส.ว.หลายคนได้เสนอต่อที่ประชุมว่า ขอให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงก่อนเวลา 18.00 น. เมื่อการหารือผ่านไปครู่หนึ่ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์มาหารือกับประธานวุฒินาน 10 นาที จากนั้นนายประสพสุขได้แจ้งผลการหารือกับนายกฯ ก่อนที่จะเปิดแถลงในเวลา 16.30 น. 

ในการแถลง นายประสพ กล่าวว่า ส.ว.ยอมรับที่จะเป็นคนกลางซึ่งทางรัฐบาล และนปช.ก็ยอมรับแล้วให้วุฒิสภาเป็นคนกลาง ซึ่งเย็นนี้ก็จะส่งผู้แทน ส.ว.จำนวน 3 คนแต่เปิดเผยไม่ได้ ไปคุยกับ นปช.ว่ามีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องการ จากนั้นก็จะนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป แต่ที่ ส.ว.เป็นห่วงกังวลมากๆ ก็คือ ให้ยุติการปะทะกันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งมีสัญญาณทางบวกว่าทั้งคู่อาจจะต้องยอมรับได้ โดยยุติการปะทะกันก่อนแล้วค่อยคุยรายละเอียดว่าจะทำอย่างไรต่อไป

เมื่อถามว่าได้ให้เวลาหรือไม่ว่าจะหยุดยิงเมื่อไหร่ นายประสพสุข กล่าวว่า เร็วที่สุดที่จะเร็วได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ระบุว่าไม่เปิดรับการเจรจาจนกว่าจะยุติการชุมนุม  นายประสพสุข กล่าวว่า อย่าเพิ่งพูดในรายละเอียดตรงนั้น เพียงแต่ ส.ว.ไปรับข้อมูลว่า นปช.ต้องการอะไรก่อนทั้งหมด ส่วนเงื่อนไขเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตนคิดว่า แนวโน้มเป็นทางบวก ทั้งนี้ได้ตนคุยกับนายกฯสองครั้ง เชื่อว่า ทุกฝ่ายอยากจะเจรจา อยากเห็นบ้านเมืองสงบสุข

เมื่อถามว่าเงื่อนไขของนายกฯคืออะไร นายประสพสุข กล่าวว่า ยังไม่มีเงื่อนไขอะไร เพราะยังไม่รู้ว่าเสนอมาอย่างไร เมื่อถามว่า เป็นเงื่อนไขตามศอฉ.เสนอมาหรือไม่ที่ระบุว่าจะไม่คุยจนกว่าจะ ยุติการชุมนุม นายประสพสุข กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงไม่ต้องเจรจากัน เพราะฉะนั้นต้องดูว่าทั้งสองฝ่ายต้องการอะไร เพื่อที่จะหยุดปะทะกันทั้งสองฝ่ายโดยเร็ว

รายงานข่าวจากวุฒิสภาเปิดเผยว่า ที่ประชุมส.ว.ได้มอบหมายให้พล.อ.เลิศรัตน์ และส.ว.ที่เป็นผู้ใหญ่อีก 2 คน เป็นตัวแทนไปรับข้อเสนอกับแกนนำนปช.ในคืนวันเดียวกัน ก่อนจะนำคำตอบมาแจ้งให้กับที่ประชุมส.ว.อีกครั้งในวันที่ 19 พฤษภาคม 

กลุ่ม 64 ส.ว.แถลงแก้ปัญหาเบื่องต้นต้องให้ทั้งสองฝ่ายออกห่างกัน ป้องกันการสูญเสีย 

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 18 พฤษภาคม ที่รัฐสภา กลุ่ม 64 ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อให้ยุติการใช้ความรุนแรงและกลับมาสู่การเจรจาอีกครั้ง ได้นัดหารือกันนอกรอบเป็นวันที่สองในรอบสัปดาห์ โดยมี ส.ว.มาร่วมหารือกว่า 10 คน จากนั้นเวลา 15.30 น. ได้ร่วมกันแถลง โดยนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 แถลงว่า จุดยืนของวุฒิสภาเห็นตรงกันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องภายในประเทศ ดังนั้นไม่ควรมีการเรียกร้องให้องค์กรต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามายุ่งเกี่ยว ส.ว.จึงได้นัดหารือและสรุปเป็นแนวทางการยื่นหนังสือให้รัฐบาลและนปช.

ด้านพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สว.สรรหา กล่าวว่า หลังจากแกนนำนปช.แถลงยินดีให้วุฒิสภา โดยประธานวุฒิสภา เป็นตัวกลางประสานงานหาข้อยุติ ตนได้มอบให้คนกลางประสานงานกับ นปช.เมื่อเวลา 11.30 น.โดยนปช.ยินดีให้วุฒิสภาพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมและเริ่มเดินจากตรงนั้นว่า รัฐบาลและนปช.เห็นด้วยมากน้อยขนาดไหน ถือเป็นความจริงใจและกระตือรือร้นของนายณัฐวุฒิ และเมื่อตนได้ประสานไปยังนายกอร์ศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความสั้นมาว่าติดประชุม ครม. แล้วจะประสานมายังประธานวุฒิสภาภายหลังการประชุมว่า รัฐบาลมีความเห็นอย่างไร จากนั้นประธานวุฒิสภาจะได้ดำเนินการต่อไป โดยประธานวุฒิสภาใจร้อนมากสั่งเจ้าหน้าที่เตรียมห้องให้ ส.ว.กับรัฐบาลหารือกันก่อนที่จะเจรจากับ นปช.แล้ว โดยเบื้องต้นต้องให้ทั้งสองฝ่ายออกห่างจากกันเพื่อป้องกันการสูญเสีย ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยก็จะกลับมาสู่การเจรจาอีกครั้ง