Skip to main content
sharethis

ขู่ออกหมายจับแกนนำตั้งเวทีคู่ขนานหนุนเวทีราชประสงค์ เผยอายัดยางเก่ากว่า 3 หมื่นเส้น ขู่ร้านค้าขายให้ม็อบโดนโทษหนุนก่อการร้าย ส่วน"สรรเสริญ" เปิดคลิป-ภาพ ตอกย้ำเสื้อแดงปลูกฝังค่านิยมความรุนแรงให้เยาวชน

วันนี้ (18 พ.ค.) เวลา 18.30 น.ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร. 11 รอ.) พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) และพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ร่วมกันแถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย  

 

ขู่ออกหมายจับแกนนำตั้งเวทีคู่ขนานหนุนเวทีราชประสงค์

พล.ต.ต. อำนวยกล่าวว่า กรณีที่มีความพยายามจะตั้งเวทีคู่ขนานกับเวทีที่แยกราชประสงค์ ซึ่งการชุมนุมที่แยกราชประสงค์นั้นศาลแพ่งได้ชี้แล้วว่าเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เพราะมีการใช้ความรุนแรง มีการละเมิดสิทธิของสาธารณชน อีกทั้งในระยะหลังมานี้มีความชัดเจนว่าไม่ใช่การชุมนุมที่สงบ และก่อให้เกิดความรุนแรง ดังนั้น ใครก็ตามที่ตั้งเวทีคู่ขนานสนับสนุนเวทีราชประสงค์ เท่ากับเป็นการสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย สนับสนุนการใช้ความรุนแรงภายใต้พื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเข้าข่ายองค์ประกอบเป็นผู้สนับสนุนการก่อเหตุร้าย

ขณะนี้ศาลอาญารัชดาได้อนุมัติหมายจับแล้ว 2 เวที คือ เวทีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมีการอนุมัติหมายจับแกนนำ 2 ราย และเวทีย่านนางเลิ้ง ใกล้มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ซึ่งมีการอนุมัติหมายจับแกนนำ 3 ราย ทั้งนี้ ทุกเวทีที่มีการตั้งจะมีการขออนุมัติหมายจับแกนนำและผู้ที่ไปตั้งเวทีคู่ขนานทุกราย ซึ่ง

"ขอยืนยันว่าจะดำเนินการกับคนที่ตั้งเวทีคู่ขนานกับราชประสงค์ทุกเวที รวมถึงเวทีในต่างจังหวัดที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินด้วย” พล.ต.ต. อำนวยกล่าว

สำหรับโทษสูงสุดของผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินคือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ทั้งนี้ในส่วนของผู้สนับสนุนเวทีต่างๆ ถ้าเจอซึ่งหน้า ก็จะดำเนินการจับกุม และคุมขังครั้งละ 7 วัน จนครบ 30 วัน

 

เผยอายัดยางเก่ากว่า 3 หมื่นเส้น ขู่ร้านค้าขายให้ม็อบโดนโทษหนุนก่อการร้าย

พล.ต.ต. อำนวยกล่าวว่า ขณะนี้ภาพที่ปรากฏในต่างประเทศ ดูแล้วบ้านเมืองไม่เรียบร้อยและน่าสลดใจที่มีการนำเอายางรถยนต์มาเผาตามถนนแม้บางครั้งจะไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง แต่ก็ทำให้คละคลุ้งไปด้วยควันไฟ ขณะนี้มีการนำยางรถยนต์มาเผา และลุกลามไปเผาบ้านเผาเมืองแล้ว ดังนั้น บช.น.จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะมีความชัดเจนว่ามีการลำเลียงยางรถยนต์ โดยมีร้านค้าบางร้านให้การสนับสนุน ขอเตือนว่าใครก็ตามที่สนับสนับสนุนยางรถยนต์เก่าให้ผู้ชุมนุม เท่ากับเป็นการสนับสนุนการก่อเหตุร้าย ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะขออนุมัติหมายจับตามมาตรา 11 อนุหนึ่งแห่ง พ.ร.ก. ฉุกเฉินทุกราย

พล.ต.ต. อำนวยกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ บช.น.ยังได้ดำเนินการในเชิงรุก โดยได้อายัดยางรถยนต์เก่าซึ่งอยู่ในร้านค้ายางรวม 139 ร้านค้า รวมยาง 21,660 เส้น ซึ่งทั้งหมดนี้ห้ามจำหน่ายจ่ายโอนเด็ดขาด หากร้านใดจะจำหน่ายต้องไปขออนุมัติจากสถานีตำรวจในท้องที่ ไม่เช่นนั้นจะอนุมัติหมายจับ นอกจากนี้ในส่วนกองบัญคับการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ. 1) ยังได้อายัดยางเอาไว้ 9 พันเส้น เมื่อรวมยางของ บช.น. และบช.ภ.1 ขณะนี้ได้อาญัติยางไว้กว่า 3 หมื่นเส้น

ส่วนที่ได้มีการมอบหมายให้ สตช.ไปเยียวยาประชาชนในชุมชนบ่อนไก่ พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ได้ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในการเชื่อมต่อไฟฟ้า คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ (19 พ.ค.) เพราะตอนนี้ค่ำมากแล้ว การเข้าไปในพื้นที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย แต่ขอยืนยันว่าการสาธารณูปโภคจะเข้าไปโดยเร็วที่สุด

 

"สรรเสริญ" เปิดคลิป-ภาพ ตอกย้ำเสื้อแดงใช่เด็กเป็นโลห์ ปลูกฝังค่านิยมความรุนแรงให้เยาวชน

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่าว่า ที่ผ่านมายังคงมีการบิดเบือนข่าวสารสร้างภาพลักษณ์ที่เสียหายแก่เจ้าหน้าที่ในสายตาต่างชาติโดยตลอด จากนั้น ได้ทำการชี้แจงโดยมีการนำเอารูปทหารจำนวน 7 คนที่ถูกยิงตาย ซึ่งถูกนำมากล่าวอ้างว่าเป็นทหารที่กำลังปลดประจำการและถูกยิงชีวิตโดนผู้บังคับบัญชาเนื่องจากไม่ยอมไปปราบผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ทั้งที่รูปดังกล่าวเป็นรูปของทหารที่เสียชีวิตจากการทำหน้าที่ที่บันนังสตาในปี 2550

หลังจากนั้น พ.อ.สรรเสริญได้โชว์ภาพนิ่งเพิ่มเติมจากวันก่อน โดยภาพที่นำมาโชว์เป็นเด็กคนเดียวกันแต่ร้องไห้หลังจากวันก่อนเป็นช่วงที่ไม่ได้ร้องไห้ นอกจากนั้นได้แสดงคลิปผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงสอนให้เด็กเป็นคนจุดป้องไฟยิงใส่ทหาร โดยกล่าวว่านอกจากใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์ ยังปลูกฝังค่านิยมความรุนแรงให้เยาวชนรวม รวมทั้งเปิดคลิปผู้ก่อการร้ายสวมเครื่องแบบที่ดูคล้ายเจ้าหน้าที่ โดยแจงว่าเป็นการใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ และขอให้ประชาชนใช้ดุลพินิจในการบริโภคข่าวสาร โดยตรวจสอบข้อมูลจากข่าวของรัฐอีกครั้งหนึ่งด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net