ผิดไหม ถ้าผมจะไม่รัก “สยาม”

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
ก่อนอื่นผมขอออกตัวก่อนเลยนะครับ ว่าบันทึกนี้ผมไม่ได้มีเจตนาจะกระทบ เสียดสี หรือมีเจตนาใน แง่ร้ายหรือแง่ลบต่อกิจกรรม "ฟื้นฟูกรุงเทพ" ที่หลายคนได้ร่วมจิตอาสากันไปเก็บกวาดทำความสะอาด "พื้นที่ของพวกเค้า" ด้วยความรักและผูกพัน
 
ผมเป็นเด็กบ้านนอกครับ แต่ได้เข้ามาอยู่อาศัยในกรุงเทพได้สิบกว่าปีแล้ว แต่ถ้าถามว่าผมรักกรุงเทพหรือเปล่า ผมก็คงตอบได้ไม่เต็มปากนัก
 
ผมเข้ามาเรียนที่กรุงเทพ เพราะที่ต่างจังหวัดบ้านผมไม่มีมหาวิทยาลัยดีดีให้ผมเรียน ตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่กรุงเทพ เพราะที่ต่างจังหวัดบ้านผมไม่ได้มีงานมากพอที่จะให้ผม "เลือก" ทำ
 
นั่นคือเหตุผล ที่วันนี้ผมยังคงยืนอยู่ในเมืองหลวงของประเทศไทยที่ชื่อกรุงเทพมหานคร

ในหลายวันที่ผ่านมา กรุงเทพต้องเผชิญกับความเลวร้าย การวางระเบิด การเผาทำลายสถานที่ต่าง ๆ อันสืบเนื่องมาจากการสลายการชุมนุมของ นปช. ที่ราชประสงค์

ภายหลังเหตุการณ์เลวร้ายและควันไฟเริ่มจางลง..
 
หลายๆ คนบอกว่าเจ็บปวดเหลือเกินที่เห็นโรงหนังสยาม ลิโด้ ถูกเผาทำลาย เพราะมีความผูกพันกันอย่างยิ่งยวดในฐานะที่เป็นโรงหนังเก่าแก่ที่ฉายหนังนอกกระแสแห่งหนึ่งของกรุงเทพ (หรืออาจจะของประเทศไทย)
หลาย ๆ คนบอกว่าสะเทือนใจที่เห็นห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิลด์อันเพียบพร้อมไปด้วยความทันสมัย เป็นที่จับจ่ายซื้อของสุดฮิป เป็นจุดพบปะกันโดยเฉพาะลานเบียร์ในฤดูหนาวและช่วงที่มีการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศ กลายเป็นเพียงเศษซากจากกองเพลิงแห่งความเกลียดชัง ถึงขนาดประจานสาปแช่งเหล่า "ผู้ก่อการร้ายเสื้อแดง" ที่กระทำการดังกล่าว
 
บางสิ่งบางอย่างที่เค้าผูกพัน คุ้นเคย มันถูกทำลายลงไปในชั่วพริบตา จากน้ำมือของ "ผู้ก่อการร้ายเสื้อแดง" ที่ไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่ในเมืองอันเป็นที่รักของพวกเขา
 
ผม..ก็รู้สึกเสียใจและรู้สึกสลดหดหู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกันครับ

ผมเสียใจ..ที่การเคลื่อนไหวภาคประชาชนได้ถูกผลักออกไปจากแนวทางสันติวิถี

ผมเสียใจ..ที่รัฐบาลเลือกใช้วิธีการใช้กำลังทางทหารและอาวุธในการสลายการชุมนุม
ผมเสียใจ..ที่ชีวิตของผู้คนได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้ต่อรองทางการเมือง
ผมเสียใจ..กับหลายคนที่ต้องเสียหายเดือดร้อน สูญเสียทรัพย์สิน และได้รับผลกระทบถึงการประกอบอาชีพการงานจากเหตุจลาจลในวันนั้น
 
ผมเสียใจ..กับผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุแห่งความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้
ผมเสียใจ..กับหลายต่อหลายครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก..ญาติพี่น้อง..
 
และยิ่งไปกว่านั้น..ผมเสียใจ..ที่เห็นผู้คนจำนวนมากในสังคมเมืองศิวิไลซ์ที่ผมอยู่ เต็มไปด้วยความเกลียดชัง การดูถูกเหยียดหยาม และเปล่งเสียงถึงผู้คนที่มาจากต่างถิ่นต่างที่ ด้วยถ้อยสรรพนำเนียงว่า ไอ้โง่ ไอ้ควายแดง ไอ้พวกไพร่สถุล ฆ่ามันให้หมด ฆ่ามันให้ตายซะ ฯลฯ
 
"ผมไม่เชื่อ..ว่าทุกคนที่ตายเป็นผู้ก่อการร้าย..ว่าทุกคนที่ตายสมควรตาย"
 
ผมไม่ได้อยากตะโกนโหวกเหวกโวยวายว่า เฮ้ยย..นี่มันมีคนตายนะ มีผู้บริสุทธิ์ที่ตาย และสมควรที่จะต้องมีใครซักคนที่รับผิดชอบนะเว้ยย..
 
ถ้าเพียงแต่เสียงนั้นมันดังขึ้นซักหน่อย..ดังกว่าเสียงที่พร่ำบอกว่า มารักกันเถอะ มาปรองดองกันเถอะ มากวาดถนนกันเถอะ คิดถึงสยาม คิดถึงเซนทรัลเวิลด์ ก็คงไม่เกิดบทความนี้ขึ้นบนโลกแล้ว
 
ผมเพียงอยากจะบอกว่า บางครั้ง..พวกเราหลงลืมอะไรไปรึเปล่า..
 
เสียงเรียกร้องอะไรบางอย่าง ดังก้องสะท้านราชประสงค์ แต่กลับแผ่วเบาเหลือเกินในใจของผู้คนหลายคนในเมืองที่ผมอยู่
 
เสียงที่เรียกร้องความไม่เป็นธรรม เสียงที่เรียกร้องโอกาส เสียงที่เรียกร้องความเสมอภาคและเท่าเทียม ดังก้องอยู่ในพื้นที่ที่พวกเค้าไม่คุ้นเคย เมืองที่เค้าไม่รู้จัก ความหรูหราทันสมัยที่พวกเค้าไม่อาจฝันใฝ่
 
แต่น่าแปลกใจ ที่เสียงเรียกร้องนั้นไม่ได้ดังเข้าไปในใจของบรรดาผู้คนในเมืองที่เค้าคิดว่าน่าจะช่วยเหลือเค้าได้..ไม่แม้แต่จะเสียเวลาที่จะรับฟัง

แม้กระทั่ง..เสียงแห่งความตายของพวกเค้า..ก็ยังแผ่วเบาและเลือนลาง...

..เสมือนไม่เคยเกิดขึ้น..เสมือนเป็นสิ่งที่สมควรเกิดขึ้น..

...

ผมขอสารภาพตรง ๆ ว่าผมไม่ได้รู้สึกอะไรเท่าไหร่นักที่กับโรงหนังสยาม ลิโด้ สยามสแควร์ ก้อผมไม่เคยได้ไปดูหนังที่นั่นซักเท่าไหร่นี่นา ส่วนใหญ่ถ้าอยากดูหนังดีดีซักเรื่อง ผมคงจะไปหาซื้อดีวีดีหรือโหลดมาดูที่บ้านมากกว่า ซึ่งผมก็ไม่ได้ไปซื้อที่สยามอีกนั่นล่ะ (ถ้าไปเผา House RCA ผมอาจจะเสียใจมากกว่านี้นิดนึง ฮา.. )
 
สิบกว่าปีที่อยู่ที่กรุงเทพ ผมไปที่นั่นทุกครั้งผมก้อยังเป็นไอ้บ้านนอกแปลกหน้าอยู่ทุกครั้ง..
 
ผมยิ่งแทบจะไม่เสียใจเลยที่ CTW ถูกเผา เพราะผมไม่ได้ไปซื้อของอะไรที่นั่น อย่างมากก็นัดเพื่อนเดินเล่น ถ่ายรูป หาเบียร์กิน แล้วก้อเป็นความผิดของผมเองที่บรรดาราคาข้าวของในทำให้นั้นผมก็ไม่มีปัญญาจะซื้อซะด้วย..

ก็ผมไม่มีความผูกพันกับมันเท่าไหร่นัก..

เช่นเดียวกันกับหลายๆ คน ในสังคมเมืองนี้ ที่ไม่ได้ผูกพันเอากับความทุกข์ยากของผู้คน ไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในความแตกต่างและความไม่เท่าเทียมที่ดำรงอยู่
 
"ความแตกต่าง" ไม่มีอะไรมากไปกว่าการไปชื่นชมความสวยงามและวิถีชีวิตหลอกๆ ของปายและ อัมพวา การเปิดคาราวานนำของไปบริจาคให้กับเด็กๆ ชาวเขาในดินแดนทุรกันดาร การออกบริจาคทานแก่ผู้ด้อยโอกาสเพื่อความอิ่มใจของตน โดยละเลยการมองถึงสาเหตุที่มาจริงๆ ของปัญหาในระดับโครงสร้าง
 
ผมเข้าใจครับ..นั่นเพราะเราอาจเกิดมาในเมืองที่แตกต่างกัน..ในสถานะที่แตกต่างกัน..

แต่ที่ผมไม่เข้าใจ..คือ..แม้กระทั่งความตายของเพื่อนมนุษย์..มันก็ยังมีเส้นแบ่งแห่ง "ความต่าง"

..คุณค่าของชีวิตมนุษย์..มันมีความต่างกันได้อย่างไร..มันไร้ค่ากันได้อย่างไร..

...

..ผมคงไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมเก็บกวาดถนน..
เพราะผมสำนึกได้แล้วว่าผมไม่ได้รัก "สยาม" และ "สยาม" เองก็คงไม่ได้รักผมเช่นกัน

...

 
ปล. โปรดอย่าขับไล่ผมออกจากกรุงเทพเลยนะครับ เพราะผมก็ไม่ได้อยากอยู่หรอก เพียงแต่ผมยังไม่มีที่ไป..
แค่นั้นเอง..

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท