Skip to main content
sharethis

 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย กล่าวถึงการแสดงความคิดเห็นจากฝ่ายต่างๆเพื่อให้ประเทศผ่านวิกฤตทางการเมืองในขณะนี้ว่า

"ผมเห็นด้วยที่หลายฝ่ายได้เสนอความเห็นสนับสนุนการปรองดอง  เพราะการปรองดองสมานฉันท์เท่านั้น ที่จะป้องกันไม่ให้สังคมมีความขัดแย้งรุนแรงบานปลายต่อไป และสามารถกลับคืนสู่ความสงบสุขได้

แต่ปัญหาขณะนี้  คำว่าปรองดองได้ถูกทำให้สูญเสียความหมายไปหมดแล้วจากการกระทำของรัฐบาลทั้งในระหว่างการชุมนุมและในปัจจุบัน สังคมไทยจึงจำเป็นต้องมาทำความเข้าใจกับคำว่าปรองดองกันใหม่เสียก่อน

นายกรัฐมนตรีได้ยกเรื่องปรองดองขึ้นมาหลังการสลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้าที่ทำให้มีคนตาย 20 กว่าคนและบาดเจ็บ 900 กว่าคน แต่หลังจากนายกฯเสนอแผนปรองดองเป็นต้นมา กลับทำให้มีคนตายเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 70 คนและบาดเจ็บมากกว่าเดิม  ทำให้การปรองดองมีความหมายเป็นการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนไป

และหลังจากการชุมนุมยุติลงแล้ว รัฐบาลก็พร่ำพูดแต่คำว่าปรองดอง แต่กลับมุ่งทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง  ทำให้ผู้คนจำนวนมากอยู่ในสภาพหวาดกลัว หวาดระแวง โกรธแค้น เกลียดชัง  ทำให้สังคมมีแนวโน้มที่จะแตกแยกมากขึ้นทุกที  หากรัฐบาลยังมุ่งทำลายล้างประชาชนที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาลต่อไป สังคมไทยอาจจะก้าวไปสู่ความรุนแรงยิ่งกว่าที่เคยมีมาแล้วในอดีต

ขณะนี้รัฐบาลและศอฉ.กำลังใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินฯอย่างเกินขอบเขต ขัดต่อกฎหมายและรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน การปิดกั้นเสรีภาพในการสื่อสาร เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพทางวิชาการ  รวมทั้งการปิดกั้นแทรกแซงสื่อมวลชนยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ไม่ได้อาศัยข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายมาเป็นสาเหตุ แต่กลับใช้ดุลยพินิจบนพื้นฐานความคิดความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างหรือตรงข้ามกับรัฐบาล ที่สำคัญการบัญชาการสั่งการทั้งหมด ทำไปโดยผู้ที่เป็นหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคการเมืองที่เป็นคู่กรณีกับประชาชนที่มาชุมนุมต่อต้านรัฐบาล  

การสั่งให้จับกุมดำเนินคดี รวมทั้งการระงับธุรกรรมการเงินของบุคคลและบริษัทเป็นไปแบบตามอำเภอใจและเห็นได้ชัดว่าเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล ทั้งในการสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง แก้ต่างข้อหาที่รัฐบาลถูกกล่าวหาว่าสั่งฆ่าประชาชนและทำลายเครือข่ายของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ซึ่งย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อพรรครัฐบาลในการเลือกตั้งในอนาคต

ขณะนี้รัฐบาลและศอฉ.กำลังข่มขู่ประชาชนผู้ร่วมชุมนุมโดยเฉพาะผู้ที่บาดเจ็บจำนวนมาก ต้องให้ปากคำในทางที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล โดยขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือก็อาจจะตั้งข้อหาดำเนินคดี เพราะผู้ร่วมชุมนุมทุกคนอาจถูกข้อหาฝ่าฝืนพรก.ฉุกเฉินฯเสียเมื่อไหร่ก็ได้ ขึ้นกับดุลยพินิจของศอฉ.จะสั่งดำเนินคดีหรือไม่ การข่มขู่ลักษณะนี้ จะทำให้การที่จะให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นไปไม่ได้เลย

รัฐบาลกำลังตกที่นั่งลำบาก โดยเฉพาะในสายตาของสื่อต่างประเทศและชาวต่างประเทศ ในกรณีการสังหารประชาชนในวัดปทุมวนาราม  ผมได้มีโอกาสคุยกับผู้ได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์  ซึ่งอยู่กับผู้ถูกยิงเสียชีวิตและเฝ้าศพตลอดทั้งคืน เล่าให้ฟังว่า ผู้ที่อยู่ในวัดปทุมวนารามส่วนใหญ่จะปักใจเชื่อว่าทหารยิงประชาชน และในกรณีนี้หากรัฐบาลยังแก้ตัวให้ทหารอย่างออกนอกหน้าอย่างที่ทำอยู่ ความโกรธแค้นเกลียดชังจะรุนแรงยิ่งขึ้น รัฐบาลอาจต้องประสบกับวิกฤตความชอบธรรมเร็วกว่าที่คาดไว้ แม้ว่าจะควบคุมสื่อทั้งหมดได้จนคนส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้ความจริงแล้วก็ตาม" 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net