Skip to main content
sharethis

กลุ่มแม่เหยื่อในเหตุการณ์ "เทียนอันเหมิน" ร่วมจุดเทียนไว้อาลัยลูกซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์เรียกร้องประชาปไตยของนักศึกษาและประชาชนที่จัตุรัสเทียนอันเหมินและถุกสังหารจำนวนหลายพันคน ในช่วงวันที่ 3-4 มิ.ย. 2532 โดยปีนี้กลุ่มผู้ไว้อาลัยจุดเทียนรำลึกถึงผู้เสียชีวิต ท่ามกลางการคุมเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

กลุ่ม "แม่เหยื่อเทียนอันเหมิน" ร่วมรำลึกโอกาสครบ 21 ปี

(4 มิ.ย.53) เหตุการณ์ปราบปรามผู้ประท้วงนำโดยนักศึกษาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยในจตุรัสเทียนอันเหมินของจีนช่วง 3-4 มิถุนายน 2532 ผ่านพ้นมาจนครบ 21 ปีแล้ว และติง จี้หลิน ประธานของกลุ่ม "เทียนอันเหมิน มาเธอร์ส" ซึ่งเป็นกลุ่มแม่ของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้ไปจุดเทียนรำลึกแก่ลูกชายวัย 17 ตรงจุดที่เขาเสียชีวิต เมื่อเวลา 5 ทุ่มของคืนวันที่ 3 มิถุนายน โดยทางการให้อนุญาตให้เธอและสามีจัดงานนี้ได้ แต่มีตำรวจคุมเข้มกันไม่ให้สื่อมวลชนเข้าใกล้

กลุ่มเทียนอันเหมินมาเธอร์สได้พยายามเคลื่อนไหวมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้การต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยของวีรชนเหล่านั้นต้องถูกลืมเลือนไป และเพื่อให้ทางการทบทวนจุดยืนของรัฐบาลต่อเหตุการณ์ประท้วงครั้งนั้น แต่ในปีนี้ทางกลุ่มไม่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อรัฐบาลเหมือนเช่นทุกปีที่เคยทำมาตลอด 20 ปี โดยบอกว่ารัฐบาลไม่สมควรได้รับจดหมาย เพราะนอกจากจะไม่สนใจแล้ว ยังพยายามจับกุมพวกเขาด้วย โดยในแต่ละปีนางติงและคนอื่นๆ ในกลุ่มมักถูกจับตาอย่างเข้มงวดไม่ให้ไปพบปะกับสื่อมวลชนหรือนักการทูต ในช่วงเวลาอ่อนไหวอย่างนี้

จีนคุมเข้มความปลอดภัยจตุรัสเทียนอันเหมิน

ด้านสำนักข่าวไทยรายงาน ตำรวจจีนลาดตระเวนบริเวณโดยรอบจตุรัสเทียนอันเหมินอย่างเข้มงวด ร่วมกับหน่วยจู่โจมที่พร้อมเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและฝูงชน เนื่องในวันครบรอบ 21 ปี เหตุกวาดล้างกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่จตุรัสเทียนอันเหมินในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2532 อย่างไรก็ดี ทางการจีนคาดว่า การประท้วงของกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในวาระครบรอบครั้งนี้จะผ่านไปอย่างสันติ

โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน ให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์เทียนอันเหมินว่า จีนได้ตัดสินใจแก้ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ และพัฒนาประเทศในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่จีนเปิดเสรีทางเศรษฐกิจ เพื่อผลประโยชน์ของประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ

ร้องจีนครบ 21 ปีเทียนอันเหมิน ปรับท่าทีสิทธิมนุยชน

ขณะที่กรุงเทพธุรกิจรายงานข่าวว่า นายหม่า อิง จิว ประธานาธิบดีไต้หวัน ออกโรงกระตุ้นให้จีนเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ ยอมรับคุณค่าของประชาธิปไตย และอุดช่องว่างด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างช่องแคบไต้หวัน

ในแถลงการณ์ความยาวหนึ่งหน้ากระดาษที่เผยแพร่โดยทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันระบุว่า "เราหวังว่าทางการจีนจะปรับเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อสิทธิมนุษยชน และค่อยๆแก้ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนด้วยความจริงใจและเชื่อมั่น พร้อมทั้งใช้มาตรการที่เปิดกว้างกว่าเดิมในการรับมือกับผู้ที่มีความเห็นไม่ตรงกัน" นายหม่ากล่าว

"การกระทำดังกล่าวไม่เพียงทำให้ชาวจีนรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจทางการจีนมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยอุดช่องว่างด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างช่องแคบไต้หวัน และยังทำให้ประชาคมโลกเห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับสันติภาพ เสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน" เขา กล่าว

นอกจากนั้นนายหม่ายังยกตัวอย่างเหตุการณ์สังหารหมู่ 228 เมื่อปี พ.ศ.2490 ซึ่งมีชาวไต้หวันถูกสังหารไปหลายหมื่นคน รวมถึงเหตุการณ์ที่เรียกว่า White Terror เพื่อให้จีนหันมาเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์

ทั้งนี้ นายหม่าถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากพรรคฝ่ายค้านและกลุ่มสิทธิมนุษยชนจากการที่เขาไม่เอาจริงเอาจังเรื่องสิทธิมนุษยชนในจีน รวมถึงในไต้หวันเอง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

ที่มา: เนชั่นทันข่าว สำนักข่าวไทย กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net